จีนและสปป.ลาวมุ่งผลักดันความสัมพันธ์ ทวิภาคี

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนและรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สปป.ลาว เป็นเจ้าภาพหารือหารือทางการทูตและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคี โดยฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่าภายใต้การนำของผู้นำระดับสูงของทั้งสองฝ่าย ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและลาวนั้นประสบความสำเร็จ ตั้งข้อสังเกตว่าทั้งสองฝ่ายควรดำเนินการตามฉันทามติที่สำคัญโดยผู้นำระดับสูงของทั้งสองฝ่ายประสานความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างจีนกับสปป.ลาวอย่างใกล้ชิด เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือและในด้านต่าง ๆ และเพื่อเสริมสร้างการประสานงานกิจการระหว่างประเทศและภูมิภาค เตรียมการประชุมระดับสูงที่จะเกิดขึ้นระหว่างสองประเทศและเพื่อผลักดันการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สปป.ลาวกล่าวอีกว่าสองประเทศได้ทำการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์เพื่อสร้างชุมชนแห่งอนาคตที่แบ่งปันกัน ชี้ให้เห็นทิศทางสำหรับการพัฒนาความร่วมมือเชิงกลยุทธ์แบบครบวงจรในยุคใหม่ ซึ่ง สปป.ลาว ยินดีที่จะเพิ่มการสื่อสารระดับสูงกับจีนอย่างต่อเนื่องผลักดันการก่อสร้างโครงการสำคัญ ๆ ได้แก่ ทางเดินเศรษฐกิจ สปป.ลาว – จีน ทางรถไฟสปป.ลาว – จีน และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนและประชาชน มิตรภาพดั้งเดิมระหว่างสองประเทศ

ที่มา : http://www.china.org.cn/world/2019-03/25/content_74610708.htm

25/03/62

ผู้เชี่ยวชาญร่วมกันบูรณาการเพื่อเป้าหมายการพัฒนาระหว่างประเทศ

ภาครัฐต่าง ๆ กำลังเผชิญกับความท้าทายในการดำเนินการตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการบูรณาการเป้าหมายเป็นตัวชี้วัดสำหรับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปัญหานี้เป็นหัวข้อสำคัญสำหรับการหารือในหมู่ผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐและเอกชน โดยกระทรวงการวางแผนและการลงทุน กล่าวถึงความสำคัญของกระบวนการประชุมโต๊ะกลมและบทบาทของภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือระหว่างรัฐบาลและพันธมิตรเพื่อการพัฒนาซึ่งทุกภาคส่วนต้องเข้าร่วมในการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทรัพยากรมนุษย์การปกครองของรัฐตามหลักนิติธรรมและนโยบายการพัฒนาประเทศที่ครอบคลุม ซึ่งร่างของรายงานเกี่ยวกับกรอบความร่วมมือระหว่างรัฐบาล สปป.ลาว และสำนักงานเลขาธิการสหประชาชาติ (United Nations Secretariat) ในประเทศได้มีการหารือกันในการประชุมเมื่อวานนี้

ที่มา: http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Experts.php

26/3/2562

เมียนมาดึงนักลงทุนร่วมสำรวจก๊าซรวมถึงธุรกิจ LPG และ CNG

กระทรวงพลังงานและไฟฟ้าได้เชิญนักลงทุนที่สนใจในการสำรวจก๊าซธรรมชาติและลงทุนในธุรกิจ LPG และ CNG โดยจะมีการเปิดประมูลเพื่อเปิดให้บริการน้ำมันและก๊าซ 33 แห่ง โดยมี 15 แห่งในต่างประเทศและอีก 18 แห่งบนฝั่ง ซึ่งแผนกำลังดำเนินการจะมีประโยช์กับภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือน และว่าจะสามารถจำหน่ายก๊าซแอลพีจีกระจายไปยัง 1 ล้านครัวเรือนในปี 2020

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/investors-to-be-invited-to-boost-lpg-cng-businesses

25/3/2562

เมียนมาหนุนปลูกกาแฟส่งออกทดแทนฝิ่น

สัปดาห์ที่แล้วสำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) และ Malongo บริษัท กาแฟจากฝรั่งเศสได้เปิดตัวกาแฟ Shan Mountain Coffee คุณภาพสูงจากเมียนมา ซึ่งทำการปลูกในรัฐฉานภายใต้การสนับสนุนของ UNODC เพื่อทดแทนการปลูกฝิ่นที่เคยปลูกสูงถึง 90% ที่ผ่านมาเป็นผู้ส่งออกฝิ่นรายใหญ่ของโลกรองจากอัฟกานิสถาน UNODC ได้ร่วมมือกับ Malongo ในการส่งเสริมเกษตรกรปลูกกาแฟเพื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืน โดยการรับซื้อ 600 ตันต่อปี ในราคา 8 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลกรัม ปี 2561 พบว่าพื้นที่ปลูกฝิ่นลดลงลง 12% และสามารถผลิตกาแฟมากกว่า 8000 ตันในแต่ละปี

ที่มา:
https://www.mmtimes.com/news/myanmar-try-growing-exporting-more-coffee-alternative-opium.html

26/3/2562

อุตสาหกรรมประกันภัยกัมพูชา โต 30%

สมาคมประกันประเทศกัมพูชา (IAC) เปิดเผยว่าเบี้ยประกันภัยรวมในอุตสาหกรรมประกันภัยเพิ่มขึ้น 30% ผลมาจากยอดขายประกันชีวิตปีที่แล้วเพิ่มขึ้น เบี้ยประกันภัยรวมสูงถึง 196.4 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว เทียบกับ 151.6 ล้านดอลลาร์ของปี 2560 ยอดขายจากการประกันภัยทั่วไปเพิ่มขึ้น 15% และการเติบโตของประกันชีวิต 50.6% ปี 2561 มี บริษัทประกันภัย 12 แห่งและบริษัท ประกันชีวิต 8 แห่งในการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 15.7% สำหรับการประกันภัยทั่วไปและ 120.55 เปอร์เซ็นต์สำหรับการประกันชีวิตระหว่างปี 2556 ถึง 2561 แรงผลักดันมาจากอุตสาหกรรมรถยนต์ ทรัพย์สิน และการแพทย์ที่เติบโตขึ้น

ที่มา: https://www.khmertimeskh.com/50590259/insurance-industry-sees-30-percent-growth-in-premiums/

26/3/2562

ตลาดค้าปลีกของเวียดนาม ต้องการการพัฒนากลยุทธ์

ตลาดค้าปลีกเวียดนามต้องการพัฒนากลยุทธ์เพื่อกระตุ้นการค้าภายในประเทศ จากข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนามเผยว่า ตลาดค้าปลีกมีศักยภาพด้วยจำนวนประชากรถึง 93.7 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 69 ของประชากรเวียดนามทั้งหมด หากคิดเป็นสัดส่วนของค่าใช้จ่ายครัวเรือนเฉลี่ยอยู่ที่ 714 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนในปี 63 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.5 ต่อปี ขณะนี้ทางกระทรวงฯกำลังร่างแผนยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาการค้าภายในประเทศ โดยเป้าหมายเป็นการสร้างความเติบโตของภาคการค้าปลีกที่เฉลี่ยร้อยละ 10.7 ต่อปี และภายในปี 63 เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 9 ในปี 64-68

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/507479/vn-retail-market-needs-a-development-strategy.html#h6yYPkkavhoZSxEL.97

ธนาคารการท่องเที่ยวแห่งเมียนมาขยายการเข้าถึงไปยังภาคสนับสนุน

ธนาคารการท่องเที่ยวแห่งเมียนมาขยายการเข้าถึงกลุ่มอุตสาหกรรมสนับสนุนโดยเปิดสาขาทั้งในเนปยีดอและมัณฑะเลย์ โดยธนาคารก่อตั้งขึ้นโดย บริษัท ท่องเที่ยวสาธารณะ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 5 ธนาคารที่ได้รับใบอนุญาตจากธนาคารกลางแห่งเมียนมาเมื่อปีที่แล้ว เพื่อมุ่งเน้นไปที่การปล่อยสินเชื่อให้กับภาคการท่องเที่ยวและมีแผนที่จะให้การสนับสนุนแก่ภาคส่วนและธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเตรียมเปิดสาขาที่ย่างกุ้ง ในเดือนธันวาคม 60 ธนาคารกลางแห่งเมียนมาอนุมัติการเปิดธนาคารเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อสนับสนุนทางด้านการเงินให้เหมาะกับธุรกิจมากกว่าธนาคารพาณิชย์ทั่วไป เช่น ธนาคารเพื่อการ ท่องเที่ยวแห่งเมียนมา ธนาคารเพื่อการพัฒนาแร่ ธนาคารเพื่อการพัฒนาการเกษตร ธนาคารเพื่อการพัฒนาของเกษตรกรมัณฑะเลย์ และธนาคาร Shwe Nann Saw

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/myanmar-tourism-bank-expands-reach-support-sector.html

นักลงทุนมากกว่า 100 รายในเมียนมา ร้องฝากเงินเป็นบัญชีประเทศตนเอง

รายงานของกระทรวงพาณิชย์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา บริษัทต่างชาติ กว่า 100 แห่งไม่สามารถฝากเงินที่เป็นรายได้จากการส่งออกไปยังบัญชีธนาคารในประเทศของตนภายในระยะเวลาที่กำหนดตามกฎหมายการจัดการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ สกุลเงินต่างประเทศทั้งหมดที่ได้รับจากการส่งออกจะต้องนำไปฝากไว้ในบัญชีธนาคารของบริษัทในประเทศภายใน 6 เดือน อย่างไรก็ตามกระทรวงพบว่า 110 บริษัท ที่ไม่สามารถฝากรายได้แม้จะมีการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศในปี 59 บริษัทได้รับการขอให้ฝากรายได้จากการส่งออกภายใน 60 วัน นับจากวันที่ 19

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/more-100-traders-asked-deposit-export-earnings-local-accounts.html

รัฐบาล สปป.ลาวได้ข้อสรุปเกี่ยวกับ การปฏิบัติตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก

สปป.ลาว ยังคงมุ่งมั่นที่จะตระหนักถึงสิทธิของเด็กกับหน่วยงานที่มีการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อหารือเกี่ยวกับการสรุปข้อสังเกตสำหรับทุกภาคส่วนในระดับกลางและระดับจังหวัดเพื่อพัฒนาแผนปฏิบัติการ ซึ่งรวมถึงการรายงานผลการสังเกตการณ์โดย NCAWMC แก่ผู้นำรัฐบาลและสภาระดับชาติรวมทั้งการประชุมเชิงปฏิบัติการระดับกลางและระดับจังหวัดเพื่อจัดลำดับความสำคัญในการดำเนินงาน และรัฐบาลจะสร้างความตระหนักเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของเด็ก ๆ ผ่านแคมเปญและจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจโดยมุ่งเน้นที่การท่องเที่ยวมีส่วนร่วมในการปกป้องสิทธิเด็ก การค้ามนุษย์และการค้าประเวณี นอกจากนี้ตัวแทนขององค์การยูนิเซฟยังกล่าวถึงข้อสรุปที่เกี่ยวข้องกับข้อกังวลต่าง ๆ เช่นการรวบรวมข้อมูลการคุ้มครองเด็ก ความรุนแรงต่อเด็ก เด็กที่ไม่มีการดูแลจากผู้ปกครอง เด็กที่พิการ เป็นต้น

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govtc.php

ภาคเกษตรกรรมเกินดุลการค้า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 2 เดือนแรก

นายกรัฐมนตรีฮุนเซนของกัมพูชาระบุว่ารัฐบาลกำลังพยายามที่จะเช่าโรงไฟฟ้าที่ติดตั้งโรงไฟฟ้าขนาดประมาณ 200 เมกะวัตต์ จากตุรกีมายังกรุงพนมเปญ หากการเจรจาเรื่องค่าไฟบรรลุผลสำเร็จเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนพลังงานที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตุรกีวางแผนที่จะขายไฟฟ้าให้กัมพูชาในราคา 14 เซนต์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง (ราว 4.4 บาทต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง) ซึ่งสูง กว่าที่ซื้อจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำในท้องถิ่น 3 เซนต์ ปัจจุบันกำลังเผชิญกับภาวะขาดแคลนไฟฟ้าราว 400 เมกะวัตต์ ในช่วงฤดูร้อนเพราะว่าเขื่อนไฟฟ้าไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้เต็มกำลังเนื่องจากขาดแคลนน้ำ จากรายงานของกระทรวงเหมืองแร่และพลังงาน ขนาดการผลิตไฟฟ้าในกัมพูชาอยู่ที่ 2,650 เมกะวัตต์ ในปี 2561 โดยกำลังการผลิตราว 1,329 เมกะวัตต์ หรือ 50% ของการผลิตทั้งหมดนั้นเป็นการผลิตจากเขื่อนไฟฟ้า

ที่มา : https://mgronline.com/indochina/detail/9620000027837