‘สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด’ คาดเศรษฐกิจเวียดนาม ปี 66 โตแรง 7.2%

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด เปิดเผยว่าแนวโน้มอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของเวียดนามในปี 2566 คาดว่าจะอยู่ที่ 7.2% จากการฟื้นตัวในปีที่แล้ว และจะชะลอตัวลง 6.7% ในปี 2567 ผู้เชี่ยวชาญมองว่าเป้าหมายที่ทางการวางไว้ที่ 6.5% ถือว่าเป็นความท้าทายอย่างมากต่อเวียดนาม เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มถดถอย แรงกดดันเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับสูง ในขณะที่ภาคธุรกิจยังเผชิญกับความยากลำบากในการรับมือและขยายกำลังการผลิต แต่ในมุมมองของธนาคารยังมีความเชื่อมั่นในศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจของเวียดนามในระยะกลาง ถึงแม้ว่าตัวชี้วัดเศรษฐกิจมหภาคบางรายการจะบ่งชี้สัญญาว่าเริ่มชะลอตัวในไตรมาสที่ 4 ของปี 2565

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/standard-chartered-forecasts-7-2-gdp-growth-for-vietnam-in-2023-2098567.html

กัมพูชาคาดจำนวนนักท่องเที่ยวพุ่งแตะ 7 ล้านคน ภายในปี 2025

กัมพูชาเตรียมพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนซึ่งคาดว่าจะหลั่งไหลเข้ามาหลังรัฐบาลจีนปลดล็อกการเดินทางระหว่างประเทศ ขณะที่กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา คาดการว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังกัมพูชาราว 7 ล้านคน ภายในปี 2022 ซึ่งกระทรวงฯ ระบุว่า พร้อมให้ความร่วมมือกับภาคเอกชนในการเชื่อมต่อเที่ยวบินและการขนส่งนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวสำคัญ ซึ่งก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 นักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 155 ล้านคน เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก คิดเป็นกว่าร้อยละ 10 ของการท่องเที่ยวทั่วโลก สร้างมูลค่าด้านการท่องเที่ยวกว่า 2.58 แสนล้านดอลลาร์ โดยอาเซียนได้ให้การต้อนรับรับนักท่องเที่ยวจีน 32.2 ล้านคน ในช่วงเวลาดังกล่าว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501215355/cambodia-expects-to-receive-about-seven-million-international-tourists-by-2025/

FDI ไหลเข้ากัมพูชาเพิ่มขึ้น 7% ในช่วงปี 2022

ปี 2022 กัมพูชาดึงดูดเม็ดเงินลงทุนในสินทรัพย์ถาวรมูลค่าแตะ 4.68 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.5 จากมูลค่า 4.35 พันล้านดอลลาร์ ในปีก่อนหน้า (2021) ข้อมูลดังกล่าวรายงานโดยสภาเพื่อการพัฒนาแห่งกัมพูชา (CDC) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากจีน ญี่ปุ่น ไทย และสิงคโปร์ มุ่งเน้นไปที่ภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร การผลิต การท่องเที่ยว รวมถึงโครงสร้างพื้นฐาน และในอุตสาหกรรมอื่นๆ ด้านปลัดกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาและโฆษก Penn Sovicheat กล่าวว่า ข้อตกลงการค้าหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP), ข้อตกลงการค้าเสรีกัมพูชา-จีน (CCFTA) และกฎหมายการลงทุนฉบับใหม่ เป็นส่วนสำคัญในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาในกัมพูชามากขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501215425/fdi-inflow-to-cambodia-increases-by-7-7-percent-in-2022-despite-global-uncertainty/

ททท.ลุยจัดโรดโชว์จีนรอบ 3 ปี นำผู้ประกอบไทยฟื้นตลาดจีนเที่ยวไทยมูลค่า 5 แสนล้าน

นายชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.เตรียมจัดโรดโชว์ส่งเสริมการขายที่จีนในช่วงสัปดาห์ที่ 3 เดือน ก.พ.66 ในพื้นที่หลัก 3 เมือง ได้แก่ เมืองเซี่ยงไฮ้ กว่างโจว และเฉิงตู นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งฝั่งไทยและจีนมาพบปะเจรจาธุรกิจกัน รวม 120 ราย ประกอบด้วยฝั่งไทย 60 ราย และฝั่งจีนอีก 60 ราย เพื่อนำไปจัดทำแพ็กเกจท่องเที่ยวไทย เสนอขายแก่นักท่องเที่ยวจีนทั้งกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) และเตรียมการขายสำหรับกรุ๊ปทัวร์ เมื่อรัฐบาลจีนอนุญาต ทั้งนี้ ถือเป็นการกลับไปจัดโรดโชว์ที่จีนครั้งแรกในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่เกิดวิกฤติโควิด-19 หลังจีนเปิดประเทศ มีผลตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.66 เป็นต้นไป ขณะนี้นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง (FIT) สามารถออกท่องเที่ยวระหว่างประเทศได้แล้ว ซึ่งภาพรวมโครงสร้างตลาดนักท่องเที่ยวจีนก่อนโควิด-19 ระบาด กลุ่ม FIT ครองสัดส่วน 60% ส่วนกรุ๊ปทัวร์ 40% แต่ถ้าดูเฉพาะเมืองใหญ่ เช่น เซี่ยงไฮ้เป็นกลุ่ม FIT สูงถึง 80-90% ปักกิ่งมีกลุ่ม FIT 60-70% ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ปี 62 ก่อนวิกฤติโควิด-19 เป็นปีที่นักท่องเที่ยวจีนมาไทยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 11 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 531,000 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่ง 27% ของทั้งจำนวนและรายได้ตลาดต่างประเทศที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบ 40 ล้านคน ที่สร้างรายได้ 2 ล้านล้านบาท.

ที่มา: https://www.thairath.co.th/business/economics/2597655

กรุงศรีฯ ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 66 ขยายตัว 3.6% แรงหนุนท่องเที่ยว จับตาปัจจัยภายนอกกระทบ

วิจัยกรุงศรี บทวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจและการเงิน (ฉบับพิเศษ) โดยระบุถึงทิศทางเศรษฐกิจปี 2566 คาดว่าจะเป็นปีแรกที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยสามารถกลับมาอยู่ในระดับใกล้เคียงหรือสูงกว่าช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 วิจัยกรุงศรีคาดเศรษฐกิจไทยปี 2566 จะยังเติบโตต่อเนื่องที่ร้อยละ 3.6 จากร้อยละ 3.2 ในปี 2565 โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากภาคท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง การใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่เติบโตจากการจ้างงานที่ปรับดีขึ้นโดยเฉพาะในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคท่องเที่ยว การลงทุนที่ยังมีสัญญาณเชิงบวกอยู่บ้างจากการฟื้นตัวของภาคบริการ ความต่อเนื่องของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการขยายตัวของการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

อย่างไรตาม การลงทุนในบางอุตสาหกรรมและการส่งออกในภาพรวมจะเผชิญความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก ทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ภาวะทางการเงินที่ตึงตัวขึ้น การเติบโตต่ำของเศรษฐกิจจีน สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงการทวนกระแสโลกาภิวัตน์ (Deglobalization) ปัจจัยเหล่านี้อาจจำกัดการเติบโตของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

ที่มา : https://www.thaipost.net/economy-news/296943/

กำลังคนคุณภาพสูง หนุนให้เวียดนามดึงดูด FDI

สภาหอการค้าสหภาพยุโรป (EuroCham) รายงานว่าเพื่อการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เพิ่มขึ้น เวียดนามจำเป็นต้องส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้เป็นบุคลากรที่มีศักยภาพสูง และชี้ว่าผู้ประกอบการในยุโรปเล็งเห็นศักยภาพที่จะขยายการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน อุตสาหกรรมไฮเทค การสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) ในปีหน้า อีกทั้ง ตามรายงานของบริษัทซาวิลาส์ ประเทศเวียดนาม ได้เน้นย้ำถึงความน่าลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตขั้นสูงในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเวียดนาม ซึ่งหากเทียบกับประเทศจีน อินเดียและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยแล้ว เวียดนามยังเป็นตลาดที่น่าลงทุนและมีความเสี่ยงอยู่ในระดับต่ำ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นแรงดึงดูดให้เม็ดเงินทุนไหลเข้าไปยังบริษัทเทคฯ หลายแห่ง และกิจการสหรัฐฯ ที่ทำธุรกิจในเวียดนาม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/highquality-human-resources-to-help-vietnam-draw-more-fdi/246578.vnp

‘จีน’ เตรียมกลับมาเปิดด่านชายแดนเวียดนาม จ.หลาวกาย

คุณ Ha Duc Thuan รองผู้อำนวยการคณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจจังหวัดหลาวกาย กล่าวว่าประเทศจีนจะกลับมาเปิดพรมแดนและเปิดเส้นทางชายแดนกับเวียดนามในจังหวัดหลายกาย (Lao Cai) ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคมเป็นต้นไป และทำการแจ้งไปยังหน่วยงานและภาคธุรกิจให้เตรียมความพร้อมกับการกลับมาของจีนแผ่นดินใหญ่ ทั้งการปฏิบัติเกี่ยวกับการส่งออกและการนำเข้า และกิจกรรมการเข้าออกที่ต้องเป็นไปตามกฎระเบียบ อย่างไรก็ดี ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของประเทศจีน ได้ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมการนำเข้าและส่งออกตามชายแดนอย่างรุนแรง โดยมูลค่าการนำเข้าและส่งออกสินค้าและบริการผ่านประตูชายแดนจังหวัดหล่าวกาย อยู่ที่ประมาณ 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 9 เดือนของปี 2565 หดตัว 39.4% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/china-to-resume-operation-of-border-gates-with-vietnam-in-lao-cai/246567.vnp

ตลาด Mingala แห่งใหม่จะแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2566

คณะกรรมการพัฒนาเมืองย่างกุ้ง (YCDC) เผย การก่อสร้างตลาด Mingala แห่งใหม่มีกำหนดแล้วเสร็จในปลายเดือนเมษายน พ.ศ. 2566 และร้านค้าที่สร้างเสร็จแล้วบางส่วนจะเปิดขายในต้นปีนี้ โดยการก่อสร้างเริ่มต้นในปี 2562 ซึ่งตลาดแห่งใหม่จะเป็นอาคารสูง 17 ชั้นที่มีร้านค้ากว่า 5,000 ร้านค้า ลิฟต์ 21 ตัว และลานจอดรถที่สามารถรองรับรถได้มากกว่า 700 คัน และภายในตลาดจะประกอบไปด้วยโรงภาพยนตร์ ร้านอาหาร ธนาคาร และซูเปอร์มาร์เก็ต เมื่อสร้างเสร็จแล้ว บรรดาร้านค้า ที่เคยค้าขายในตลาดเดิมจะย้ายไปอยู่ที่ตลาดใหม่ได้ทันที ส่วนผู้ที่ต้องการเช่าร้านค้าเพื่อค้าขายสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่แผนกการตลาดของ YCDC ทั้งนี้ตลาด Mingala แห่งใหม่ในเมือง Mingala Taungnyunt ของภาคย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เดิมเป็นตลาดระดับไฮเอนด์ที่เคยขายสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งปลีกและส่ง ถูกไฟไหม้ไปแล้ว 2 ครั้ง ในเดือนพฤษภาคม 2553 และเดือนมกราคม 2559

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/new-mingala-market-to-be-completed-in-april-2023/#article-title