ผู้เชี่ยวชาญเรียกร้องให้มีการลงทุนในคลังสินค้าและโรงงานในกัมพูชา

ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์กำลังเรียกร้องให้มีการลงทุนในภาคบริการของกัมพูชาทั้งการให้บริการคลังสินค้าและการเช่าโรงงานเนื่องจากความต้องการสูง แต่ขาดตลาด โดย Sear Rithy ประธานกลุ่ม WorldBridge และผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงกล่าวในงานแสดงภาคอสังหาริมทรัพย์ครั้งที่ 5 ที่จัดขึ้นโดย realestate.com.kh เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่านักลงทุนจำนวนมากต่างพากันหลั่งไหลเข้าสู่ภาคอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น โดยแนะให้นักลงทุนเห็นถึงความเป็นไปได้ในการลงทุนในธุรกิจโรงแรม คาสิโน โรงงานและคลังสินค้า ที่มีความน่าสนใจให้สอดคล้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ภาคการขนส่ง และตอบรับต่อความต้องการที่จะเกิดขึ้นภายในประเทศ ทั้งภาคการผลิตของจีนที่มีการย้ายฐานการผลิตมายังกัมพูชาที่มีความต้องการโรงงานและคลังสินค้าในการผลิตและจัดเก็บสินค้า โดยมองว่าคลังสินค้าหรือโรงงานที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งรัฐบาลมีส่วนร่วมในการขอให้นักลงทุนสร้างโรงงานในแถบชานเมืองที่มีราคาที่ดินยังไม่สูงมาก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50648875/experts-urge-investment-in-warehouses-and-factories/

บิ๊กซีจากประเทศไทยเปิดซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งแรกในกัมพูชา

บิ๊กซีห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่จากประเทศไทยเปิดซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งแรกในกัมพูชาในจังหวัดปอยเปต โดยได้ลงทุนไปกว่า 6.8 ล้านเหรียญสหรัฐในโครงการ มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ปานกลางถึงต่ำด้วยสินค้าที่หลากหลายราคาไม่แพง ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีในกัมพูชา คาดว่าซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้จะช่วยสร้างงานกว่า 1,200 ตำแหน่ง และนำความก้าวหน้ามาสู่กัมพูชา โดยจังหวัดปอยเปตมีประชากรกว่า 200,000 คนระหว่างชายแดนไทยกัมพูชาและเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญ ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้จังหวัดกำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งจากไทย จีน และจากประเทศอื่นๆอย่างมาก โดยเมืองนี้มีโครงการที่จะสร้างคาสิโนในโรงแรม ศูนย์การค้า และการพัฒนาที่อยู่อาศัย ซึ่งได้รับการร่วมมือจากทางภาครัฐและภาคเอกชนกำลังร่วมกันเพื่อสร้างสนามบินพาณิชย์แห่งแรกในปอยเปตอีกด้วย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50648873/thailands-big-c-opens-first-supermarket-in-cambodia/

กระทรวงแรงงานและสวัสดิการคิดกลไกในการกำหนดค่าแรงขั้นต่ำ

กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมกำลังทำงานร่วมกับสหพันธ์กรรมกรสปป.ลาวและผู้แทนภาคแรงงานในการร่างข้อเสนอแนะสำหรับการกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำ การกำหนดและการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำมีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มรายได้และปรับปรุงสวัสดิการของคนงานในระดับขั้นที่ต่ำที่สุด และยังลดความไม่เท่าเทียมกันและส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางสังคม ระหว่างการประชุมเชิงปฏิบัติการไตรภาคีเมื่อสัปดาห์ที่แล้วผู้เข้าร่วมประชุมหารือกันถึงความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มขึ้นในค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งการกำหนดค่าแรงขั้นต่ำเป็นประเด็นสำคัญ การเพิ่มขึ้นของค่าจ้างนั้นเป็นสิ่งสำคัญในการปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของคนงานและบรรเทาความยากลำบาก ท่ามกลางค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นด้วยราคาที่เพิ่มขึ้นทุกเดือนและทุกปี อีกทั้งค่าแรงขั้นต่ำในสปป.ลาวต่ำกว่าที่จ่ายให้แรงงานในเมียนมา กัมพูชาและไทย มีการสำรวจทั่วประเทศเพื่อพิจารณาว่าค่าแรงขั้นต่ำที่มีอยู่เพียงพอสำหรับค่าครองชีพและพบว่าไม่ตรงกับสถานการณ์ปัจจุบัน โรงงานและบริษัทหลายแห่งมีตำแหน่งงานว่าง แต่มีคนเพียงไม่กี่คนที่สนใจทำงานเพื่อรับค่าแรงต่ำ ผลักดันให้คนจำนวนมากข้ามพรมแดนไปหางานทำในประเทศไทยที่ค่าแรงสูงขึ้น  ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมารัฐบาลได้อนุมัติการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ แต่ไม่สามารถป้องกันการเพิ่มขึ้นของราคาอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภค

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/labour-ministry-mulls-mechanisms-setting-minimum-wage-105664

ตัวแทนหน่วยงานสหรัฐสนับสนุนการเฝ้าระวังโรคสัตว์ป่า ในสปป.ลาว 617,744 เหรียญสหรัฐ

สำนักงานลดภัยคุกคามด้านการป้องกันแห่งสหรัฐอเมริกาได้ให้เงินสนับสนุนมากกว่า 5.4 พันล้านกีบ (617,744 ดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อพัฒนาโครงการเครือข่ายเฝ้าระวังโรคสัตว์ป่าแห่งชาติในสปป.ลาว MOU ได้มีการลงนามระหว่างรองหัวหน้าภาควิชาปศุสัตว์และประมงกระทรวงเกษตรและป่าไม้และผู้อำนวยการสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าสู่สปป.ลาว ภายใต้โครงการซึ่งดำเนินไปจนถึงเดือนธันวาคม 65 สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าจะทำงานร่วมกับหน่วยงานลดภัยคุกคามเพื่อสร้างขีดความสามารถภายในหน่วยงานภาครัฐและสถาบันต่าง ๆ เพื่อพัฒนาเครือข่ายเฝ้าระวังสุขภาพสัตว์ป่าระดับประเทศที่มีประสิทธิภาพ ระเบียบด้านสุขภาพ (IHR2005) และองค์การโลกสำหรับแนวทางสุขภาพสัตว์ การเพิ่มขีดความสามารถของประเทศในการเฝ้าระวังโรคสัตว์ป่าและการตอบสนองที่เกิดขึ้นจากความคิดริเริ่มนี้จะสนับสนุนรัฐบาลในการบรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์เพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามของโรคติดเชื้อที่เกิดขึ้นใหม่ต่อสุขภาพของประชาชนความหลากหลายทางชีวภาพ โครงการนี้นำโดยห้องปฏิบัติการสุขภาพสัตว์แห่งชาติสปป.ลาว มุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถภายในรัฐบาลเพื่อดำเนินการเฝ้าระวังสัตว์ป่าในระดับประเทศ งานนี้จะค้นหาเชื้อโรคที่มีความสำคัญต่อสุขภาพของสัตว์และผู้คนตามลำดับความสำคัญที่กำหนดโดยรัฐบาล

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/us-agency%E2%80%99s-617744-supports-lao-wildlife-disease-surveillance-105666

Moody’s ยังคงจัดอันดับของกัมพูชาไว้ที่ B2

Moody’s ยังคงยืนยันจัดอันดับเครดิตผู้ออกตราสารหนี้ระยะยาวไว้ที่ระดับ B2 ของกัมพูชาจากการเติบโตของ GDP ที่มีแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง รวมถึงหนี้สินภาครัฐที่ค่อนข้างต่ำ โดยมองว่าการลดทอนสิทธิประโยชน์ทางภาษี (EBA) จะส่งผลกระทบในเชิงลบต่อการส่งออกทั้งสิ่งทอเสื้อผ้าและรองเท้าที่ทำการส่งออกไปยังสหภาพยุโรป ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดเสถียรภาพได้ คือการขาดดุลทางการคลังเล็กน้อยเนื่องจากส่วนหนึ่งของการดำเนินนโยบายทางด้านภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการรักษาระดับการชำระภาษีให้สูงและหนี้สินภาครัฐในระดับที่ต่ำ โดยเชื่อว่าการเติบโตที่ชะลอตัวในจีนอาจนำความเสี่ยงต่อเนื่องมาถึงกัมพูชาเนื่องจากมีการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจค่อนข้างมาก ซึ่ง Moody’s ได้คาดการณ์การเติบโตของ GDP ไว้ที่ 7% ภายในปี 2562 และ 5.5% สำหรับปี 2563 จาก 7.5% ในปี 2561 ซึ่งอัตราการเติบโตอาจจะดูชะลตัวลงแต่กัมพูชาก็ยังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตสูง โดยการปรับอันดับเครดิตอาจขึ้นอยู่กับการดำเนินการปฏิรูปโครงสร้างที่ชี้ไปที่ความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้นและเป็นการลดอุปสรรคในการทำธุรกิจ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความหลากหลายทางเศรษฐกิจและรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50648299/moodys-maintains-cambodias-b2-rating-says-outlook-stable/

การจัดตั้งคณะกรรมการเศรษฐกิจดิจิทัลของกัมพูชา

รัฐบาลกัมพูชาได้จัดตั้งคณะกรรมการระหว่างกระทรวง เพื่อทำงานในการรวบรวมร่างกรอบนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลและนโยบายรัฐบาลดิจิทัล โดยคณะกรรมการนี้มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังเป็นประทานในการประชุม ซึ่งคณะกรรมการได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่หลักในการรวบรวมและร่างกรอบนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลและกรอบนโยบายดิจิทัลเพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลเพื่อตรวจสอบการอนุมัติ โดยคณะกรรมการจะจัดตั้งคณะทำงานแยกออกเป็นสองกลุ่ม คือด้านนโยบายเศรษฐกิจนำโดยสภาเศรษฐกิจแห่งชาติสูงสุดและอีกกลุ่มหนึ่งอยู่ด้านนโยบายรัฐบาลนำโดยกระทรวงไปรษณีย์และโทรคมนาคม ซึ่งมองว่ากัมพูชากำลังจะเริ่มนำวิธีการทำธุรกิจที่ชาญฉลาดมาใช้ในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น รวมถึงมีนวัตกรรมมามีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่แข็งแกร่งขึ้น แรงงานที่มีความเชี่ยวชาญทางดิจิทัลมากขึ้นและเศรษฐกิจที่มั่นคงมากขึ้น โดยจะมีการเชื่อมต่อรวมถึงการสร้างเครือข่ายข้อมูลการบริหารระดับชาติที่เชื่อมต่อทุกสำนักงานของเมืองหลวงแต่ละแห่งใน 25 จังหวัดภายใต้กรอบรัฐบาลดิจิทัล

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50648297/digital-economy-committee-formed/