การก่อสร้างสะพานบ่อแก้ว-ไชยบุรี ดำเนินการแล้วกว่า 50%

สะพานบ่อแก้ว-ไชยบุรีแล้วเสร็จไปแล้วกว่าร้อยละ 55 ของโครงการทั้งหมด โดยสะพานดังกล่าวจะมีความยาว 505 เมตรทอดยาวไปตามลำน้ำโขงระหว่างอำเภอปากท่อจังหวัดบ่อแก้วและอำเภอพบพระในจังหวัดไชยบุรีและยังเชื่อมต่อไปยังประเทศไทยได้อีกด้วย สะพานดังกล่าวเกิดจากการระดมทุนของรัฐบาลสปป.ลาวในต้นเดือนตุลาคม 2017 ซึ่งสามารถระดมทุนได้ถึง 3 พันล้านกีบ สะพานแห่งนี้จะให้การเชื่อมโยงที่เข้าถึงได้มากขึ้นจากถนนแห่งชาติหมายเลข 2243 จะเป็นเส้นทางลัดสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ที่เดินทางผ่านพื้นที่และอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างสปป.ลาวและไทย สะพานจะมีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาคนอกจากนี้เมื่อเสร็จแล้วจะเป็นสะพานเหล็กที่ยาวที่สุดในสปป.ลาว อีกด้วย โครงการก่อสร้างสะพานเพื่อเป็นเส้นทางลัดสำหรับการเดินทางหรือการค้าของสปป.ลาวยังมีอีกหลายโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นเพื่อส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวในอนาคตของสปป.ลาว

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Construction110.php

งาน Job Fest by 108-1009 สร้างตำแหน่งกว่า 500 อัตรา

หลังจากการระบาดของ COVID-19 เริ่มเกิดขึ้นหลายธุรกิจกลับมาดำเนินทำให้มีความต้องการแรงงานเช่นกันดังนั้นโอกาสสำหรับทั้งผู้หางานและภาคธุรกิจ จึงเกิดเป็นเป็น Job Fest by 108-1009 ที่จะเป็นตัวกลางในการนำทั้ง 2 ฝ่ายมาเจอกันในงานโดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-30 มิถุนายน 2563 ในรูปแบบออนไลน์ 100% โดยผู้จัดงานมีเป้าหมายที่จะสร้างตำแหน่งงานแก่แรงงานกว่า 500 อัตราและภาคธุรกิจอีกนับร้อย งานจะมีกิจกรรมที่หลากหลายรวมถึงตลาดงานออนไลน์โดยผ่านทาง www.JobFest.la นอกจากนี้ยังมีการสัมมนาสดบน Facebook “Job Fest by 108” สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วม ปัจจุบันจากการระบาดของ COVID-19 ทำให้อัตราการว่างงานของาสปป.ลาวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2 มาเป็นร้อยละ 25 ซึ่งงานดังกล่าวจะช่วยบรรเทาผลกระทบจาก COVID-19 ด้านแรงงาน ในอีกด้านยังถือเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจากการลงทุนและการจ้างงานที่มากขึ้นอีกด้วย

ที่มา : https://laoedaily.com.la/2020/06/09/78851/

โครงการรถไฟฟ้าลาว-จีน คืบหน้าไปกว่า 90 %

นายบุญทองพิชิตผู้อำนวยการฝ่ายการเมืองและหัวหน้าหน่วยต่อต้านการคอร์รัปชั่นของรัฐบาลได้นำคณะผู้แทนกระทรวงคมนาคมและกระทรวงโยธาธิการ เข้าตรวจความคีบหน้าในโครงการรถไฟลาว – ​​จีน Xiaa Qianwen CEO บริษัท รถไฟลาว – ​​จีนรายงานความคืบหน้าการก่อสร้าง รถไฟลาว – ​​จีน ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม 2563 คืบหน้าไปแล้วกว่า 90% ของงานโดยรวม ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟที่แล้วเสร็จจะประกอบด้วยอุโมงค์ 75 สะพาน 164 แห่ง โดยเส้นทางรถไฟส่วนใหญ่เริ่มต้นจากห้วยน้ำเย็นอำเภอนาดีทอนนครหลวงเวียงจันทน์ไปหลวงพระบาง ความยาวรวม 409 ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้างดังกล่าวยังมีโครงการอื่นๆที่จะช่วยส่งเสริมด้านคมนาคมของสปป.ลาว โดยโครงการต่างๆ คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จภายในปี 2564

ที่มา : http://www.pasaxon.org.la/pasaxon-detail.php?p_id=1537&act=politic1-detail

ญี่ปุ่นให้เงินมากกว่า 123 พันล้านกีบสำหรับการตอบสนองต่อ Covid-19

รัฐบาลญี่ปุ่นให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนกว่า 123 พันล้านคิป (1.5 พันล้านเยน) สำหรับการซื้อเครื่องมือแพทย์เพื่อสนับสนุนในการรับมือกับการระบาดของโควิด -19 เงินทุน 1.5 พันล้านเยน (US $ 13.7 ล้าน) จะถูกนำไปใช้ในการจัดหาอุปกรณ์ให้กับรัฐบาลสปป.ลาว การลงนามในครั้งนี้ญี่ปุ่นมีจุดมุ่งหมายในการสนับสนุนสปป.ลาวในความพยายามอย่างต่อเนื่องในการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน สอดคล้องกับแนวคิด“ ไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง” ซึ่งอุปกรณ์การแพทย์ที่ให้ไว้ภายใต้โครงการนี้คาดว่าจะนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพทั่วสปป.ลาวโดยเฉพาะในชุมชนท้องถิ่นที่ระบบการดูแลสุขภาพยังไม่มีประสิทธิภาพ การแพร่กระจายทั่วโลกของ Covid-19 ก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจและผู้คนของทุกประเทศรวมถึงสปป.ลาวและญี่ปุ่น ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความพยายามร่วมกันเพื่อลดผลกระทบของโรคร้ายแรงนี้ทั้งในด้านเศรษฐกิจและระบบสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Japan_108.php

นายจ้างยังคงต้องจ่ายค่าจ้างให้แรงงานตามปกติ

กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมของลาวได้สั่งให้นายจ้างตรวจสอบให้แน่ใจว่าแรงงานได้รับการชดเชยอย่างเป็นธรรมในช่วง COVID-19 ระบาด อธิบดีกรมจัดการแรงงานนาย Phongxaysack Intharath พูดในงานแถลงข่าวเมื่อวันอังคารที่มาถึงขั้นตอนที่กระทรวงแรงงานใช้ในการประกันการจ่ายเงินของพนักงานและการจ่ายเงินประกันสังคมแก่แรงงานที่ได้รับผลกระทบจากกCOVID-19 เพื่อบรรเทาอัตราการว่างงานที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเลื่อยๆ และจะทำให้เศรษฐกิจตกต่ำลง กระทรวงได้ออกคำสั่งเฉพาะสำหรับนายจ้างธุรกิจที่หยุดดำเนินการในเดือนเมษายน จะต้องจ่ายค่าจ้างพนักงานตามปกติและธุรกิจที่ประสบปัญหาทางการเงินอย่างรุนแรงต้องจ่ายพนักงานอย่างน้อยร้อยละ 50 ของค่าจ้างปกติทั้งนี้กระทรวงได้ขอให้นายจ้างเคารพกฎหมายแรงงานและปฏิบัติตามกฎระเบียบและสัญญาจ้างที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ปัจจุบันอัตราการว่างงานในประเทศลาวเพิ่มขึ้นจากระดับเฉลี่ย 2% เป็น 25% และคาดว่าจะมีการเพิ่มขึ้นไปอีกหากรัฐบาลไม่มีมาตราการที่ช่วยเหลือแรงงาน

ที่มา : https://laotiantimes.com/2020/06/04/ministry-of-labor-orders-employers-to-pay-wages-despite-pandemic/

ภาคเอกชนทำข้อตกลงรัฐบาลสปป.ลาวเพื่อพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน

บริษัท Evolution Power Investment Corporation (EPIC) และ Khounmixay Bridge และ บริษัท ก่อสร้างและซ่อมแซมถนน (KMX) ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับรัฐบาลสปป.ลาว เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนที่สะอาดในจังหวัดเซกอง ทางตอนใต้ของสปป.ลาวภายใต้ MOU นั้น EPIC และ KMX จะได้รับอนุญาตให้ทำการศึกษาความเป็นไปได้ทางเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อมของโครงการโรงไฟฟ้าเทคโนโลยีความร้อนสะอาดในเขตดากจึง จังหวัดเซกองโดยโครงการคาดว่าจะมีค่าใช้จ่าย 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐและคาดว่าจะเริ่มดำเนินการในปี 2570 เพื่อผลิตไฟฟ้าและส่งออกไปยังประเทศไทย เวียดนามและกัมพูชา รวมถึงการบริโภคในประเทศโดยโครงการมุ่งมั่นที่จะใช้แหล่งเชื้อเพลิงที่สกัดในประเทศเพื่อผลิตพลังงานเพื่อการส่งออกและเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น พลังงานความร้อนจะเป็นส่วนสำคัญในการผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับภูมิภาคอาเซียนและได้จะรับกระแสความนิยมจากทั่วโลกซึ่งในอนาคตพลังงานสะอาดจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของสปป.ลาวต่อไป  

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt106.php

กระทรวงแรงงานออกข้อบังคับธุรกิจยังคงต้องจ่ายเงินให้คนงานตามปกติ

กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมได้สั่งให้ธุรกิจในภาคการผลิตและบริการเคารพกฎหมายแรงงานกฎหมายที่เกี่ยวข้องและระเบียบเกี่ยวกับการจ่ายเงินของคนงานที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ Covid-19 กระทรวงแรงงานได้ออกคำสั่งพิเศษเพื่อช่วยเหลือแรงงานและบังคับใช้กับภาคธุรกิจโดยมาตรการที่กระทรวงดำเนินการนั้นเกี่ยวข้องกับกฎหมายแรงงานกฎหมายประกันสังคมและคำสั่งที่ 6 ของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับมาตรการส่งเสริมการป้องกันควบคุมและเตรียมความพร้อมในการตอบสนองต่อ Covid-19 ซึ่งกระทรวงได้สั่งให้ธุรกิจที่หยุดดำเนินการในเดือนเมษายนจ่ายค่าจ้างตามปกติแก่แรงงานในส่วนธุรกิจที่ประสบปัญหาทางการเงินร้ายแรงควรจ่ายค่าแรงอย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์ของค่าจ้างปกติ มาตราการดังกล่าวมีขึ้นช่วยเหลือแรงงานที่อาจตกงานในสถาการณ์ COVID-19 ซึ่งคาดการณ์จะมีแรงงานว่างงานเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 25 ซึ่งหากให้มีการว่างงานสูงมากๆอาจนำมาซึ่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจที่รุนแรงในระยะยาว

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Labour106.php

รัฐบาลสปป.ลาวได้ชี้แจงการใช้จ่ายฉุกเฉินสำหรับการฟื้นฟูการศึกษาและสาธารณสุข

ตั้งแต่การระบาดของ COVID-19 ในประเทศต่างๆ ทั่วโลกรวมถึงสปป.ลาว เพื่อมุ่งเน้นมาตรการเชิงปฏิบัติเพื่อป้องกันการควบคุมและแก้ไขการระบาดของ COVID-19  เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 รัฐบาลอัดฉีดงบประมาณ 10 พันล้านกีบ เพื่อใช้สำหรับการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์รวมถึงงบประมาณอีก 6.64 พันล้านกีบเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ด้านอื่นๆ และยังมีวงเงินฉุกเฉินอีก 100 ล้านกีบที่เป็นเงินสำรองในกรณีที่ COVID-19 กลับมาระบาดอย่างรุนแรงในด้านการศึกษารัฐบาลอนุมัติวงเงิน6.9 พันล้านกีบเพื่อสนับสนุนด้านการศึกษา จำนวนเงินดังกล่าวจะเป็นส่วนช่วยในการฟื้นฟูในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของสปป.ลาว และจะเป็นฐานสำคัญในการทำให้เศรษฐกิจสปป.ลาวกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง

ที่มา : https://laoedaily.com.la/2020/06/01/78655/

รัฐบาลสปป.ลาวผ่อนปรนมาตรการ COVID-19 หลังไม่พบผู้ติดเชื้อ

รัฐบาลได้ยกเลิกข้อจำกัด ในการควบคุมการแพร่ระบาดของ Covid-19 ทำให้ผู้คนสามารถค่อยๆกลับไปสู่การใช้ชีวิตภายใต้การดำรงชีวิตสมัยใหม่ (New normal) หลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อของสปป.ลาวลดลงเรื่อยๆจนไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้เสียชีวิต โดยรัฐบาลได้มีข้อกำหนดในการผ่อนปรนกิจกรรมต่างให้กลับมาไม่ว่าจะเป็น สถานศึกษาที่จะกลับมาเปิด รวมถึง ห้างสรรพสินค้า ตลาดและสนามกีฬาต่างๆ รวมถึงการเดินทางที่จะอนุญาตให้มีการเดินทางระหว่างจังหวัดก้นได้แต่ด่านพรหมแดนยังคงปิดอยู่  อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีการยกเลิกข้อจำกัดแต่ทุกคนยังคงต้องปฎิบัติตามคำแนะนำภาครัฐและระมัดระวังต่อไป การลดมาตรการดังกล่าวจะเป็นส่วนช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของสปป.ลาวหลังจากได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้ว่างเพิ่มขึ้นถึง 25% รวมถึงการค้าการลงทุนที่หยุดชะงักลง รัฐบาลหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเศรษฐกิจสปป.ลาวจะกลับเติบโตได้ดีอีกครั้งหลังจากผ่านพ้นวิกฤตCOVID-19 และจากมาตรการฟื้นฟูและอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt_eases_103.php

กระทรวงการลงทุนเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่แหล่งฐานข้อมูลด้านเศรษฐกิจสปปป.ลาว

กระทรวงการวางแผนและการลงทุนได้เปิดตัวเว็บไซต์เวอร์ชั่นใหม่ทำให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงข้อมูลทางเศรษฐกิจและธุรกิจที่สำคัญได้ง่ายขึ้น เว็บไซต์ www.investlao.gov.la ซึ่งบริหารงานโดยกรมส่งเสริมการลงทุนของกระทรวงจะเป็นช่องทางสำหรับให้ข้อมูลที่จำเป็นและครบถ้วนแก่นักลงทุนเพื่อเริ่มธุรกิจในสปป.ลาว โดยข้อมูลจะเกี่ยวข้องกับสถิติที่ธุรกิ ดัชนีชี้วัดด้านเศรษฐกิจและยังรวมถึงข้อมูลด้านการลงทุนเฉพาะเจาะจงในแต่ละจังหวัดไม่เพียงแค่เป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูลแต่ยังเป็นเว็บไซต์สำหรับการลงทะเบียนเพื่อขออนุญาตประกอบกิจการหรือการลงทุนในเว็บเดียวซึ่งแตกต่างจากอดีตที่การขอใบอนุญาตมีหลายขั้นตอนและต้องแยกดำเนินการทำให้ ภาคธุรกิจค่อนข้างลำบากในการเริ่มธุรกิจแต่ละครั้ง ดังนั้นการพัฒนาระบบเว็บไซต์ดังกล่าวจะช่วยปรับปรุงบรรยากาศทางธุรกิจช่วยส่งเสริมให้มีการลงทุนและดำเนินการธุรกิจที่มากขึ้นจะนำมาซึ่งการขยายของเศรษฐกิจสปป.ลาว

ที่มา: http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Investment_102.php