การระบาดของ COVID-19 จะทำให้อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น 25%

นาย Khammany Sambath รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมได้เข้าร่วมการประชุมพิเศษของรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนเกี่ยวกับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 โดยนาย Khamsay Sambath กล่าวว่ารัฐบาลสปป.ลาวได้ดำเนินการป้องกันควบคุมการระบาดของCOVID-19 และพบผู้ติดเชื้อรายแรกในวันที่ 23 มีนาคม 2563 จนถึงปัจจุบันมีผู้ป่วยทั้งหมด 19 รายที่ได้รับการรักษา 10 รายและไม่มีผู้เสียชีวิต แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในสปป.ลาวจะต่ำ แต่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจเช่นการปิดตัวกิจการทำให้ของแรงงานจำนวนมากตกงานในขณะเดียวกันแรงงานกว่า 1 ล้านคนที่ทำงานในต่างประเทศก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน จากสถานการณ์ดังกล่าวรัฐบาลคาดว่าอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นจากปกติ 2% เป็น 25% อย่างไรก็ตามรัฐบาลจะมีการออกนโยบายเพื่อช่วยเหลือแรงงานทุกคน แต่ระยะแรกจะเริ่มช่วยเหลือแรงงานที่อยู่ในระบบประกันสังคมโดยการให้เงินชดเชยในระยะแรกและจะมีการหางานให้แก่แรงงานที่ประสงค์จะทำงานโดยต้องมีการอบรมเพื่อพัฒนาทักษะก่อนถูกส่งไปยังองค์กรต่างๆ

ที่มา: https://laoedaily.com.la/2020/05/18/78253/

กระทรวงเกษตรฯ ร่วมมือสหประชาชาติโครงการอาหารโลกลดผลกระทบด้านอาหาร

องค์การอาหารแห่งสหประชาชาติ (FAO) ของสหประชาชาติโครงการอาหารโลก (WFP) ร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและป่าไม้ของสปป.ลาวเพื่อร่างแผนรับมือและให้ความช่วยเหลือโดยตรงแก่เกษตรกร การวิเคราะห์ของ FAO พบว่าประเทศมีหลายๆ ประเทศนำเข้าอาหารลดลง 2 ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ ส่งผลกระทบด้านโภชนาการต่อประชากร 14.4 ล้านถึง 80.3 ล้านคนทั่วโลก จากสถานการณ์ทำให้องค์การอาหารแห่งสหประชาชาติ (FAO) พยายามปรับปรุงด้านโภชนาการเพื่อปกป้องวิถีชีวิตและความมั่นคงด้านอาหารของกลุ่มประชากรในประเทศ หากไม่มีนโยบายที่มีประสิทธิภาพผู้คนหลายล้านคนทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะประสบกับความหิวโหยเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยแบบ COVID-19 ที่จะเป็นภัยต่อความมั่นคงด้านโภชนาการ นอกจากนี้ด้วยการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นทำให้ความต้องการอาหารลดลง ในทางกลับกันราคาก็มีแนวโน้มลดลงเช่นกันซึ่งจะช่วยลดยอดขายและรายได้ของภาคเกษตร ดังนั้นการแก้ปัญหาด้านโภชนาการและราคาของสินค้าเกษตรก็ควรได้รับการแก้ปัญหาและสนับสนุนต่อไปในอนาคต

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Agriculture_92.php

สปป.ลาวดึงดูดการลงทุนมูลค่า 36 พันล้านเหรียญสหรัฐฯจากนักลงทุนต่างประเทศ

รัฐบาลได้อนุมัติโครงการการลงทุนมากกว่า 6,000 โครงการและจะมีการระดมทุนรวม 36 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กระทรวงการวางแผนและการลงทุนซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการบริหารการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนเปิดเผยตัวเลขล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตั้งแต่ปี 2532-2562 จำนวนโครงการลงทุนทั้งหมดมีมูลค่ารวม 36.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จากสถิติพบว่าจีนเป็นนักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนมูลค่าสูงที่สุดโดยมีโครงการรวมทั้งสิ้น 862 โครงการมูลค่าการลงทุนรวมกัน 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมาจะเป็นประเทศไทยและเวียดนามมีมูลค่าการลงทุน 4.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและ 3.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐตามลำดับ ในอนาคตรัฐบาลจะออกนโยบาบที่จะช่วยส่งเสริมการลงทุน รวมถึงการปรับปรุงบรรยากาศทางธุรกิจและทำให้ธุรกิจต่างๆ ดำเนินงานในสปป.ลาวได้ง่ายขึ้นและเพื่อปรับปรุงสถานการณ์สำหรับผู้ประกอบการรายใหม่กระทรวงการวางแผนและการลงทุนได้จัดตั้งบริการแบบครบวงจรเพื่อให้นักธุรกิจได้รับอนุญาตการลงทุนรวมทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจได้สะดวกขึ้นเพื่อเป็นการสร้างบรรยายกาศที่ดีด้านการลงทุนในประเทศ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos.php

รัฐบาลให้ความช่วยเหลือแรงงานที่ตกงานจากสถานการณ์ COVID-19

คนงานที่เดินทางกลับสปป.ลาวหลังจากออกจากงานในประเทศไทยเนื่องจากการระบาดของโรค Covid-19 จะได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลในการหางานใหม่ โดยกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมได้ขอให้กรมแรงงานและสวัสดิการสังคมในแต่ละจังหวัดและเวียงจันทน์รวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานหมู่บ้านเกี่ยวกับจำนวนคนตกงานจากประเทศไทยโดยกระทรวงคาดการณ์ว่ามีจำนวนประมาณ 79,208 คนและจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการที่ธุรกิจหลายแห่งปิดทำการชั่วคราว การช่วยเหลือดังกล่าวจะครอบคลุมไปยังแรงงานในประเทศที่ได้รับผลกระทบด้วย ซึ่งรัฐบาลจะจัดการหางานให้แก่แรงงานที่ประสงค์จะทำงานแต่ก่อนหน้านั้นจะต้องมีการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพของแรงงานก่อนจะถูกส่งออกไปยังองค์กรหรือธุรกิจต่างๆ เพื่อให้ทั้งภาคธุรกิจและแรงงานได้รับประโยชน์ทั้งสองฝ่าย แรงงานมีงานทำและบริษัทได้แรงงานที่มีคุณภาพไปส่งเสริมธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt90.php

รถไฟลาว จีนบรรลุเป้าหมายในการก่อสร้าง

การก่อสร้างทางรถไฟลาว – ​​จีนได้เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปลายปี 2559 และมีเป้าหมายจะแล้วเสร็จในปลายปี 2563 แต่มีความกังวลจากความคืบหน้าของโครงการที่ไม่น่าพอใจ จากสถานการณ์การระบาดของโรคระบาด COVID-19  อย่างไรก็ตามรัฐบาลสปป.ลาวมั่นใจว่างานก่อสร้างโดยรวมของรถไฟลาว – ​​จีนจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อให้ทันเวลาและมีประสิทธิภาพ บริษัท รถไฟลาว – ​​จีน จำกัดที่เป็นผู้รับผิดชอบงานก่อสร้างดังกล่าวจี้แจ้งว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ไม่มีความคล่องตัวมากนักในการก่อสร้างทำให้อาจมีการล่าช้ากว่ากำหนด แต่อย่างไรก็ตามในวันที่7 พฤษภาคมที่ผ่านมาทางบริษัทได้บรรลุข้อตกลงในเรื่องการก่อสร้างกับทางรัฐบาลสปป.ลาวทำให้ในขณะนี้การก่อสร้างสามารถทำได้คล่องตัวมากขึ้น และจะเร่งให้ทันตามกำหนดการส่งมอบแก่รัฐบาลสปป.ลาว รถไฟขบวนนี้จะใช้มาตรฐานเดียวกับประเทศจีนและระบบเทคนิคทั้งหมดของจีนโดยความเร็วจะสูงถึง 160 กม. / ชม. ซึ่งเป็นรถไฟไฟฟ้าที่ขนส่งสินค้าและผู้โดยสารขนส่งสินค้าด้วยกัน เป็นประโยชน์ต่อการส่ออกของทั้ง 2 ประเทศรวมถึงการสนับสนุนการท่องเที่ยวไปด้วย

ที่มา : https://laoedaily.com.la/2020/05/13/78008/

รัฐบาลอนุญาตให้ธุรกิจกลับมาเดินกิจการได้ปกติเปิดใหม่

รัฐบาลอนุญาตให้ธุรกิจกลับมาเดินกิจการได้ปกติเพื่อลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ แต่ผู้จัดการโครงการและธุรกิจจะต้องปฏิบัติตามมาตรการเพื่อลดการแพร่กระจายของ Covid-19 อย่างเคร่งครัด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุนดร. Kikeo Chanthaboury ซึ่งเป็นสมาชิกของคณะทำงานเฉพาะกิจที่รับผิดชอบในการจัดการกับผลกระทบทางเศรษฐกิจของ Covid- กล่าวว่า ” โครงการเหมืองแร่ 20 แห่ง, โครงการไฟฟ้า 13 แห่ง, โครงการรถไฟและทางด่วน, โรงงาน 20 แห่งในเขตพัฒนาที่ครอบคลุม ไชเชษฐาโรงงานเก้าแห่งในเขตเศรษฐกิจพิเศษ สะหวัน-เซโน และโรงงาน 4 แห่งในเขตเศรษฐกิจพิเศษจำปาสักสามารถดำเนินการต่อได้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาเติบโต” สถาบันวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติและศูนย์สถิติแห่งชาติสปป.ลาวคาดการณ์ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจะอยู่ในช่วง 3.3-3.6% ในปีนี้ซึ่งการคาดการณ์ใหม่นี้ถือเป็นอัตราที่ลดลงจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ถึง 7.2% ในปีนี้ลดลงมา 5.9% ซึ่งหลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดดีขึ้นแล้ว รัฐบาลจะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจและเข้าสู่แผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจในแต่ละด้านต่อไป

ที่มา: http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt89.php

คำม่วนประกาศใช้กฎเกณฑ์ในการบริหารพื้นที่การเกษตรอย่างยั่งยืน

เว็บไซต์ช่องทางเผยแพร่ข่าวสารของรัฐบาลสปป.ลาว ได้ประกาศราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่เอกสารทางกฎหมายในเรื่องการพัฒนาที่ดินและพื้นที่เพาะปลูก ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การบริหารจัดการด้านการเพาะปลูกและที่ดินเกิดประสิทธิภาพสูงสุด สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การคุ้มครองสิ่งแวดล้อมประเทศและแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยจังหวัดที่จะเป็นต้นแบบในการพัฒนาคือจังหวัดคำม่วนซึ่งเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสำหรับการพัฒนาด้านเกษตร เนื่องจากมีพื้นที่เพาะปลูกครอบคลุมประมาณ 132,000 เฮกตาร์โดยมีการอนุรักษ์ 87,000 เฮกแตร์สำหรับการผลิตอาหารและ 44,000 เฮกเตอร์สำหรับทำธุรกิจการเกษตร นอกจากการพัฒนาแล้วยังมีการออกกฎระเบียบในการใช้ที่ดิน โดยเจ้าของที่ดินต้องแจ้งความประสงค์ต่อเจ้าหน้าที่จังหวัดในการนำที่ดินไปใช้ในเรื่องใดและจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมหากต้องการเปลี่ยนแปลงพื้นที่เพาะปลูกไปเป็นอย่างอื่นทั้งนี้เพื่อรักษาความมั่นคงและยั่งยืนด้านอาหารของประเทศ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Khammuan_87.php

บ้านเรือนกว่า 100 หลังได้รับความเสียหายจากลูกเห็บในเซียนควง

เมื่อไม่นานมานี้มีพายุลูกเห็บและฝนตกหนักทั่วอำเภอขามจังหวัดเซียนควงทำลายบ้านเรือนในพื้นที่กว่า 100 หลัง นายชัยเพ็ญพิมพ์วงศ์สาผู้ว่าการอำเภอกล่าวกับหนังสือพิมพ์เดอะไทมส์ “ลูกเห็บมีขนาดเท่าลูกเทนนิสและฝนตกหนักทำให้หมู่บ้านหลายแห่งในพื้นที่โดยเฉพาะหมู่บ้านสามไซ ได้รับความเสียหาย แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ” เขากล่าว ขณะนี้สถานการณ์ดังกล่าวดีขึ้นแต่อยู่ในขั้นตอนที่ต้องช่วยเหลือประชาชนทั้งการหาที่อยู่ชั่วคราวรวมถึงการซ่อมบำรุงบ้านเรือนต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่กำลังระดมทุนจากภาคธุรกิจโดยเฉพาะเจ้าของเหมืองแร่สังกะสีเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านในการซ่อมแซมบ้านของผู้ที่ได้รับความเสียหาย พายุดังกล่าวถูกแจ้งเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาและอุทกวิทยาภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในช่วงวันที่ 24-26 เมษายน อย่างไรก็ตามถึงแม้สถาการณ์จะดีขึ้นรัฐบาลขอให้ผู้คนจับตาดูสภาพอากาศอย่างใกล้ชิดและตรวจสอบสถานีข่าวระดับชาติและท้องถิ่นเพื่อรับข้อมูลล่าสุดเพื่อป้องกันและรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้อีกในช่วงฤดูนี้

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Over86.php

การนำเข้าสินค้าเดือนเมษายนมีมูลค่า 529 ล้านดอลลาร์

ศูนย์ข้อมูล – กระทรวงข้อมูลการค้าของสปป. ลาวภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์เปิดเผยว่ามูลค่าการนำเข้าและส่งออกของสปป. ลาวในเดือนเมษายน 2563 สูงถึง 529 ล้านดอลลาร์ โดยการส่งออกมีมูลค่า 208 ล้านดอลลาร์และมูลค่าการนำเข้า 320 ล้านดอลลาร์ขาดดุลประมาณ 112 ล้านดอลลาร์ สปป.ลาวส่งออกสินค้าสำคัญได้แก่ ไม้แปรรูป เศษเหล็ก ทองแดง แร่ทองคำ แตงโม เสื้อผ้า ในด้านมูลค่าการนำเข้าถึงแม้จะยังมีแนวโน้มที่เพิ่มอย่างเนื่องแต่สินค้าที่นำเข้าโดยส่วนใหญ่เป็นเครื่องจักรกลที่ใช้ในอุตสาหกรรมรวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า บ่งชี้ให้เห็นถึงการเติบในด้านอุตสาหกรรมของสปป.ลาวทำให้ต้องมีการนำเข้าสินค้าทุนมามากขึ้น นอกจากนี้การเติบโตของเศรษฐกิจสปป.ลาวส่งผลต่อรายได้ต่อหัวของประชากรสูงขึ้นทำให้ระดับผู้ที่มีรายได้ปานกลางของสปป.ลาวมีมากขึ้น จึงมีความต้องการบริโภคมากขึ้นมูลค่าการนำเข้าของสปป.ลาวจึงสูงนั้นเอง

ที่มา : https://laoedaily.com.la/2020/05/07/77633/

รัฐบาลสปป.ลาวจะมีมาตราการช่วยเหลือแรงงานในประเทศ

รัฐบาลลาวกำลังหารือเกี่ยวกับมาตรการเชิงปฏิบัติเพื่อช่วยเหลือแรงงานสปป.ลาวหลายคนที่ว่างงานและต้องเผชิญกับการสูญเสียรายได้เนื่องจากการระบาดของ COVID-19ก่อนหน้านี้สถาบันวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติลาวเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการช่วยเหลือแรงงานโดยสมาชิกของโครงการสวัสดิการสังคมแห่งชาติควรเป็นกลุ่มแรกของคนงานที่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลนอกจากนี้สถาบันยังแนะนำให้รัฐบาลช่วยเหลือแรงงานที่ไม่ได้จดทะเบียนภายใต้โครงการสวัสดิการสังคมรวมถึงผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศไทยประมาณ 100,000 คนในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ นอกจากนี้รัฐบาลควรส่งเสริมให้คนว่างงานได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเกษตรเพื่อให้พวกเขาสามารถเข้าถึงความมั่นคงด้านอาหารขั้นพื้นฐาน มาตราขั้นต่อไปหลังจากการช่วยเหลือจะเข้าสู่การฟื้นเศรษฐกิจทั้งภาคการลงทุนและพัฒนาศักยภาพของแรงงานสปป.ลาวรัฐบาลควรสนับสนุนการฝึกอบรมแรงงานลาวเพื่อนำไปใช้ในอุตสาหกรรมที่ทันสมัยรวมถึงสนับสนุนการเข้ามาลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของต่างประเทศ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govtd84.php