แรงงานสปป.ลาวได้ประโยชน์จากการปรับปรุงนโยบายด้านแรงงาน

แรงงานสปป.ลาวได้รับประโยชน์จากการสนับสนุนที่มากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและคนหนุ่มสาวส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงการพัฒนาทักษะการทำงานบางรูปแบบ หลายปีที่ผ่านมากระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมพยายามฝึกอบรมแรงงานโดยเตรียมคนหนุ่มสาวที่มีพื้นฐานไม่ดีและมีทักษะด้านอาชีพที่จำเป็น ตอนนี้คนหนุ่มสาวมีโอกาสมากขึ้นในการพัฒนาทักษะ เนื่องจากนโยบายแรงงานที่ดีขึ้น ซึ่งกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมได้ดำเนินการหลายขั้นตอนเพื่อปกป้องและส่งเสริมสิทธิของแรงงานสปป.ลาว หน่วยงานแรงงานได้ร่วมมือกับภาคเอกชนในการปรับปรุงบริการการจ้างงาน เสริมสร้างการคุ้มครองแรงงานและเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางอุตสาหกรรม นอกจากนี้ได้ปรับปรุงความปลอดภัยของการจ้างงานด้วยการเข้าถึงการคุ้มครองทางสังคมและการเจรจาซึ่งเสริมความแข็งแกร่งทั้งแรงงานและเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งในปัจจุบันสปป.ลาวมีแรงงานมากกว่า 551,200 คนซึ่งหลายคนไม่มีทักษะหรือมีทักษะเพียงเล็กน้อย ประมาณร้อยละ 70 ทำงานในภาคอุตสาหกรรม

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/lao-workers-benefitting-improved-labour-policies-107168

สปป.ลาว, จีน ยกระดับความร่วมมือด้านไอซี

 สปป.ลาวและจีนกำลังขยายความร่วมมือในการสื่อสารข้อมูลและเทคโนโลยี เพื่อปูทางสำหรับการพัฒนาระบบการสื่อสารข้อมูลในสปป.ลาว ซึ่งความร่วมมือนี้จะช่วยขับเคลื่อน “Belt and Road” ของจีนและริเริ่มการพัฒนาระบบดิจิตอลสำหรับการเชื่อมต่อในระดับภูมิภาคที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังจะกระชับความสัมพันธ์และความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมระหว่างสปป.ลาวและจีน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะร่วมมือในการใช้ระบบข้อมูลความเร็วสูงเพื่อบรรลุเป้าหมายการลดความยากจนและการเติบโตทางเศรษฐกิจผ่าน “Digital Silk Road” และวางแผนที่จะยกระดับระบบดิจิตอลในสปป.ลาว ในโอกาสนี้บริษัทโทรคมนาคมชั้นนำจากสปป.ลาวและจีนรวม 4 บริษัท ตกลงที่จะร่วมมือในการบำรุงรักษาและการใช้โครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม โดยจุดประสงค์เพื่อยกระดับระบบโทรคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารโทรคมนาคมในสปป.สู่ระดับสากล นี่เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายของรัฐบาลในการเปลี่ยนสปป.ลาวจากการที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลเพื่อเชื่อมโยงทางบกภายในภูมิภาค

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/laos-china-lift-ict-cooperation-new-heights-107095

กระทรวงสปป.ลาวเน้นข้อกังวลเกี่ยวกับข้าราชการที่“ ไม่มีอยู่จริง”

กระทรวงการต่างประเทศกำลังชี้แจงจำนวนที่แท้จริงของข้าราชการท่ามกลางความกังวลของประชาชนเกี่ยวกับการดำรงอยู่ของตำแหน่งที่เรียกว่า ” ghost ” กระบวนการนี้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการในการยืนยันจำนวนที่แท้จริงของข้าราชการพลเรือนในสปป.ลาว ซึ่งมีการแจกบัตรประชาชนข้าราชการ ก่อนที่จะรับบัตรเจ้าหน้าที่ได้รับคำสั่งให้เข้าแถวและแสดงหลักฐานว่าเป็นบุคคลที่มีชื่อในบัตรประจำตัวประชาชนซึ่งได้รับการออกแบบให้เป็นบัตรเอทีเอ็มเพื่อใช้ในการถอนเงินและไม่สามารถรับบัตรแทนกันได้ การกำหนดให้ข้าราชการแต่ละคนแสดงหลักฐานว่าเป็นเจ้าของที่แท้จริงของบัตรประจำตัวที่ออกใหม่จะช่วยให้รัฐบาลตัดสินว่าข้าราชการที่ได้รับเงินเดือนของรัฐมีอยู่จริงหรือไม่ หากพบเจอการมีอยู่ของ“ghost ” จะขอยกเลิกการจ่ายเงินเดือนเข้าบัญชีธนาคาร และให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องพิจารณาคดีและลงโทษผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย ทั้งนี้ได้แจกจ่ายบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ให้แก่หน่วยงานรัฐ 37 แห่ง และวางแผนที่จะแจกจ่ายบัตรให้กับหน่วยงานกลางของรัฐอีก 9 แห่งและแจกจ่ายบัตรประจำตัวให้กับข้าราชการในจังหวัดในปี 63

ที่มา:http://vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Ministry_addresses_236.php

ผู้ใช้น้ำจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมสำหรับภัยแล้ง สปป.ลาว

ตามรายงานของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบการติดตามตรวจสอบการไหลของแม่น้ำ ระดับน้ำในแม่น้ำโขงและแม่น้ำสาขาบางส่วนอยู่ในระดับต่ำ คาดว่าจะลดลงเนื่องจากเดือนตุลาคมเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของฤดูแล้ง สถานการณ์ที่ผิดปกตินี้กำลังส่งผลกระทบต่อการจัดหาน้ำใช้ในครัวเรือนรวมถึงกิจกรรมทางธุรกิจและการเกษตร เป็นข้อบ่งชี้ว่าผู้บริโภคควรเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาการขาดแคลนน้ำรายงานที่ออกโดยกรมอุตุนิยมวิทยาและอุทกวิทยาในเดือนกรกฎาคมระบุว่าปริมาณน้ำฝนในเดือนนั้นต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 70% รายงานที่อัปเดตไม่สามารถใช้ได้กับสื่อทันที แต่ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่าสปป.ลาวส่วนใหญ่ยกเว้นพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้มีปริมาณน้ำฝนต่ำเป็นประวัติการณ์ตลอดฤดูฝนที่ผ่านมา รัฐบาลจึงได้จัดตั้งกองทุนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยหวังที่จะระดมเงินเพื่อเสริมสร้างศักยภาพของสปป.ลาวเพื่อรองรับรูปแบบการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Water_235.php

หอการค้า สปป.ลาว – ยุโรป เปิดตัวบริการให้การรับรองแรงงานเด็ก

หอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติลาว (LNCCI) และหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งยุโรปในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (ECCIL) ได้เปิดตัวบริการรับรองการใช้แรงงานเด็กอย่างเป็นทางการ รองประธาน LNCCI และนายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม ประธาน ECCIL และ กรรมการผู้จัดการบริษัท Hi-Tech Lao Apparel จำกัด ได้ลงนามข้อตกลงเพื่อเปิดบริการการรับรอง ทั้ง LNCCI และ ECCIL มีประวัติศาสตร์อันยาวนานของความร่วมมือที่มีประโยชน์ในการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจในสปป.ลาวโดยให้บริการแก่ภาคเอกชน การเปิดตัวบริการรับรองการใช้แรงงานเด็กร่วมกันเป็นการสร้างสายการบริการใหม่สำหรับทั้งสององค์กรและคาดว่าจะเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันระหว่างประเทศและเพิ่มโอกาสทางการค้า บริการนี้มีเป้าหมายอยู่ที่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและองค์กรขนาดใหญ่และไม่จำกัดเฉพาะภาคธุรกิจหรือผลิตภัณฑ์ใด ๆ การดำเนินการตามบริการการรับรองสำหรับแรงงานเด็กและ LNCCI ECCIL ได้รับการสนับสนุนโดยโปรแกรมผู้เชี่ยวชาญของ German Gesellschaft fuer Internationale Zusammenarbeit (GIZ)

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/lao-european-business-chambers-launch-child-labour-free-certification-service-106884

กลุ่มประเทศ แม่โขง-ล้านช้าง แลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญด้านการจัดการพลเมือง

เจ้าหน้าที่ในการจัดการพลเมืองจากสปป.ลาว, จีน, พม่า, ไทย, เวียดนามและกัมพูชาพบกันที่เมืองปากเซ แขวงจำปาสัก เพื่อหารือเกี่ยวกับการระบบทะเบียนราษฎรและสถิติสำคัญ (CRVS)  ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจากสาธารณรัฐเกาหลีได้พูดคุยเกี่ยวกับการควบคุมคุณภาพเชิงสถิติการรวมและการเปรียบเทียบข้อมูลสถิติการเสียชีวิต สถิติการเสียชีวิตของมารดาและเด็ก สถิติที่ยังไม่เกิดและข้อมูลเกี่ยวกับทารกที่มีอายุน้อยกว่าหนึ่งสัปดาห์ ผู้เข้าร่วมยังได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของธนาคารโลกเกี่ยวกับมุมมองระดับโลกเกี่ยวกับการลงทะเบียนครอบครัวรวมถึงระบบข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการพลเรือนการลงทะเบียนและการระบุตัวพลเมือง ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศไทยได้แบ่งปันแนวทางปฏิบัติในการจัดการทะเบียนราษฎรและรวบรวมสถิติที่สำคัญโดยใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์และสปป.ลาวได้แนะนำกลยุทธ์ในการลงทะเบียนพลเมืองและสถิติสำคัญ  โครงการความร่วมมือได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากประเทศจีนภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ซึ่งดำเนินการตั้งแต่ปี 61-63 การแบ่งปันความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติงาน CRVS ก็เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/lancang-mekong-countries-share-expertise-citizen-management-106882

การใช้ smart technology ในอุตสาหกรรมการก่อสร้างสปป.ลาว

ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมในสาขาการก่อสร้างและสถาปัตยกรรมได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการก่อสร้างอัจฉริยะในระหว่างการสัมมนา“Smart Construction – 4th Industrial Revolution and Digital Transformation in the Construction Industry” จัดขึ้นโดยสำนักงานส่งเสริมการค้าและการลงทุนแห่งประเทศสาธารณรัฐเกาหลี และบริษัท Heerim Architects and Planners จากเกาหลีใต้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ CSR เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสองประเทศในอุตสาหกรรมการก่อสร้างของสปป.ลาว ซึ่งในปัจจุบันอุตสาหกรรมการก่อสร้างในสปป.ลาวส่วนใหญ่ยังคงใช้เทคโนโลยีในท้องถิ่น แต่ smart technology มีข้อได้เปรียบอย่างมากในการช่วยให้บริษัทก่อสร้างสามารถใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ช่วยให้สามารถสร้างและออกแบบสิ่งปลูกสร้างที่รับประกันความปลอดภัยมากขึ้น การทำงานที่รวดเร็วขึ้น มีความแม่นยำ ใช้แรงงานจำนวนน้อยลง

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/lao-construction-industry-eyes-use-smart-technology-106805

การลงทุนในอุตสาหกรรมสปป.ลาวซบเซา

อัตราการเติบโตของโรงงานในสปป.ลาวยังคงอยู่ในระดับปานกลาง แม้รัฐบาลจะปรับปรุงนโยบายและกฎระเบียบเพื่อดึงดูดนักลงทุน จำนวนโรงงานเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 5 ต่อปี สปป.ลาวมีโรงงาน 13,148 แห่งในปี 59 ซึ่งรวมถึงหน่วยงานขนาดใหญ่ ขนาดกลางขนาดเล็กและครัวเรือน ปัญหาหลักในการประเมินในเชิงลึกของแต่ละอุตสาหกรรมที่ไม่สามารถทำได้คือการรวบรวมข้อมูล อย่างไรก็ตามสถิติที่เก็บรวบรวมพบว่ามีโรงงานขนาดใหญ่เพียงไม่กี่แห่งที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้โดยประมาณร้อยละ 80 เป็นธุรกิจครัวเรือน ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนในการรักษาสิ่งแวดล้อมนั้นไม่เพียงพอ โรงงานหลายแห่งใช้พลังงานมากและปล่อยมลพิษทางอากาศในอัตราที่สูง โดยมีชาวต่างชาติเป็นเจ้าของบริษัท 354 แห่ง เป็นกิจการร่วมค้า 2,115 บริษัท และการลงทุนในประเทศ 10,679 บริษัท โรงงานขนาดใหญ่ 714 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 5.43  ขนาดกลาง 784 แห่งหรือร้อยละ 5.96 ขนาดเล็ก 6,707 แห่งหรือร้อยละ 51.01 และเวิร์กช็อปในครัวเรือน 4,943 แห่งคิดเป็น 37.6% ของทั้งหมด โรงงานผลิตสินค้าอุตสาหกรรมและบริการมากกว่า 80 ประเภทและอีกหลายโรงงานเป็นโรงสีข้าวและโรงงานข้าวโพดหวาน ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตมีตั้งแต่คอนกรีตจนถึงเฟอร์นิเจอร์ เพื่อดึงดูดนักลงทุนเพิ่มเติม รัฐบาลควรดำเนินการทบทวนและระบุมาตรการที่สามารถปรับปรุงบรรยากาศการลงทุน

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/investment-lao-industry-stagnates-106623

เขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อแตน แขวงหลวงน้ำทา ดึงดูดนักลงทุนมากขึ้น

เขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อแตน แขวงหลวงน้ำทาหวังที่จะดึงดูดนักลงทุนมากขึ้นโดยเฉพาะในด้านการศึกษาและการแพทย์ พิธีเปิดเขตอุตสาหกรรมการศึกษาและการแพทย์จัดขึ้นในวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานบริษัท the Yunnan Hai Cheng Industrial Group Stock กล่าวว่าเขตดังกล่าวแบ่งออกเป็นพื้นที่พัฒนา 4 แห่ง ได้แก่ การพาณิชย์ การธนาคารและการเงิน การขนส่ง การศึกษาและสุขภาพ และการท่องเที่ยว เมื่อเสร็จสมบูรณ์คาดว่าจะมีผู้คนราว 300,000 คนอาศัยอยู่ที่นี่ ดังนั้นภาคการศึกษาและสุขภาพจึงมีความสำคัญ ในขณะเดียวกันโครงการนี้จะใช้เวลา 2-3 ปีกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ จะลงทุนประมาณ 500-600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะมีโรงเรียนนานาชาติและโรงพยาบาลเพื่อการรักษาโรคมะเร็งที่ทันสมัย จะมีศูนย์รวบรวมเซลล์ต้นกำเนิดและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยอื่น ๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้คนในแขวงทางตอนเหนือของสปป.ลาวและพื้นที่ใกล้เคียง จนถึงปัจจุบันมีบริษัทต่างชาติมากกว่า 20 แห่งซึ่งส่วนใหญ่มาจากประเทศจีนแสดงความสนใจในการลงทุนด้านการศึกษาและสุขภาพ ภาคการศึกษาและการแพทย์จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นส่วนสำคัญของการขยายเขตพื้นที่เศรษฐกิจ ภาคการศึกษาจะไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับโรงเรียน แต่ยังรวมถึงวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยซึ่งจะกลายเป็นศูนย์แลกเปลี่ยนการศึกษาสำหรับสปป.ลาวและจีน

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/luang-namtha-sez-eyeing-more-investors-106715

ติดตามนักท่องเที่ยวขาเข้าในสปป.ลาวเพื่อบรรลุเป้าหมายสำหรับปี 62

จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศที่เดินทางมาพักผ่อนในสปป.ลาวในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นกว่า 3.4 ล้านคนเมื่อเทียบกับช่วง 9 เดือนแรกของปีที่ผ่านมา หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 11% ของปีที่ผ่านมา ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนเพิ่มขึ้น 26% ประเทศไทย​เพิ่มขึ้น 6% เวียดนามเพิ่มขึ้น 11% สหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 22% สหรัฐราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น 22% ฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 11% เยอรมันเพิ่มขึ้น 13% ในทางกลับกันสาธารณรัฐเกาหลีลดลง 1% เดนมาร์กลดลง 27% สวิสเซอร์แลนด์ลดลง 18% และฟินแลนด์ลดลง 28% กระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และท่องเที่ยว กล่าวว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเนื่องจากการส่งเสริมการท่องเที่ยวสปป.ลาว – ​​จีน และการประชาสัมพันธ์ที่เพิ่มมากขึ้น เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าชาวจีนมากกว่า 1 ล้านคนจากทั้งหมด 4.5 ล้านคนจะมาเที่ยว สปป.ลาว ในช่วง 3 เดือนข้างหน้าซึ่งเป็นฤดูการท่องเที่ยว แม้ว่าสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตัวเลขเป้าหมายและเจ้าหน้าที่กำลังมองหาวิธีในการฟื้นฟูพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของรัฐบาลที่มีผู้เข้าชม 4.5 ล้านคนในปี 62 โดยทั่วประเทศจะสร้างแหล่งท่องเที่ยวให้มากขึ้น ปรับปรุงป้ายประชาสัมพันธ์และปรับราคาที่พักตามข้อร้องเรียนเกี่ยวกับต้นทุนที่สูง บางจังหวัดกำลังปรับปรุงคุณภาพของที่ระลึกและให้ข้อมูลเกี่ยวกับความสำคัญบนบรรจุภัณฑ์ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ได้ปรับปรุงบริการที่จุดผ่านแดนและฝึกอบรมเจ้าหน้าที่เพื่อให้ข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Tourist_231.php