ICAEW คาดการณ์เศรษฐกิจเวียดนาม โต 7.6% ปีนี้

ตามรายงานของสมาคมผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศอังกฤษ (ICAEW) เปิดเผยว่าถึงแม้จะได้รับผลกระทบทางลบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) คาดว่าจะขยายตัว 7.6% ในปีนี้ ถือเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดในภูมิภาคนี้ ทั้งนี้ สิ่งที่โดดเด่นที่สุด คือ เวียดนามเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศทั่วโลกที่มีการเติบโตไปในทิศทางที่ดีในปี 2563 เนื่องจากประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัส ทำให้เศรษฐกิจของประเทศได้รับอนิสงค์จากการทำกิจกรรมทางธุรกิจระดับโลก พร้อมกับการลงทุนจากต่างชาติ และยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตและการส่งออก

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/icaew-vietnams-gdp-likely-to-expand-76-in-2021-864890.vov

‘การรถไฟเวียดนาม’ ประสบปัญหา เหตุผู้โดยสารน้อยลง

การรถไฟแห่งเวียดนาม (VNR) เผยรายรับในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2564 หดตัวอย่างมาก 51.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากได้รับผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด-19 ด้านการบริการโดยสารนั้น พบว่าจำนวนผู้โดยสารเหลือประมาณ 1.147 ล้านคน ลดลง 35.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทำรายได้กว่า 17.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ ตามข้อมูลของการรถไฟแห่งเวียดนาม ชี้ให้เห็นว่าตัวเลขรายได้และความต้องการด้านการขนส่งและการเดินทาง ล้วนปรับตัวลดลง เป็นผลมาจากข้อจำกัดในการเดินทางไปหลายๆ พื้นที่เสี่ยงติดโควิด-19 ส่งผลให้การรถไฟแห่งเวียดนาม ปรับลดการทำงานในเดือนพฤษภาคม โดยปัจจุบันเวียดนามเปิดขบวนรถไฟขบวนเดียว “ฮานอย-โฮจิมินห์”

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vnr-faces-difficulty-due-to-drop-in-passengers/202781.vnp

Pegatron พาร์ทเนอร์ของ Apple อัดฉีดเม็ดเงินเพิ่มอีก 101 ล้านเหรียญสหรัฐ ในเวียดนาม

ไต้หวันอนุมัติแผนการลงทุนเพิ่มอีก 101 ล้านเหรียญสหรัฐ จากบริษัท Pegatron ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านการผลิตรายใหญ่ของ Apple ที่ดำเนินธุรกิจในเวียดนาม ตามข้อมูลของรอยเตอร์ เผยว่าการลงทุนของ Pegatron ที่ตั้งอยู่ในเมืองไฮฟอง เป็นที่ผลิตและจำหน่ายคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์สื่อสารและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน ทางบริษัทยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดมากนักเกี่ยวกับการลงทุนดังกล่าว อย่างไรตาม สิ่งที่น่าจับตามอง คือ บริษัทเล็งที่จะลงทุนก่อสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) ในเวียดนาม อันเร็วๆนี้ ทั้งนี้ ตามรายงานประจำปีของบริษัท Pegatron ได้ประกาศว่าจะดำเนินขยายโรงงานผลิตในเวียดนามและอินเดีย นับว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อห่วงโซ่อุปทาน

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/apple-partner-pegatron-injects-additional-us101million-into-vietnam-864673.vov

ปลื้มค้าไทย-เวียดนามโต ‘จุรินทร์’ยัน4เดือนแรกขยายตัว20%

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2564 ได้ให้การต้อนรับนายฟาน จี๊ ทัญ (H.E. Mr.Phan Chi Thanh) เอกอัครราชทูตแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย ณ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อหารือแนวทางเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจ และการค้าในยุคโควิด-19 พร้อมผลักดันแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการส่งออกสินค้าไทยและเตรียมฉลองครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม โดยทั้งสองฝ่ายยินดีที่มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับเวียดนาม ใน 4 เดือนแรกของปี 2564 (ม.ค. – เม.ย.) ขยายตัวถึง 20% แม้ในปี 2563 การค้าสองฝ่ายจะต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้มูลค่า 600,000 ล้านบาททำได้ 517,524 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์โควิด ทั้งนี้ การหารือดังกล่าว มี 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ ประเด็นที่ 1 ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย-เวียดนาม (Joint Trade Committee: JTC) และ ประเด็นที่ 2 เวียดนามได้สนับสนุนความเห็นของไทยในการประชุมเอเปกที่ผ่านมา

ที่มา : https://www.naewna.com/business/578555

ผู้เชี่ยวชาญ ชี้เวียดนามก้าวขึ้นเป็นจุดที่สดใสของนักลงทุนต่างชาติ

องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) เผยเวียดนามได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางชั้นนำของนักลงทุนชาวญี่ปุ่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบกับคาดว่าเวียดนามจะมีจำนวนประชากรสูงถึง 106 ล้านคนในปี 2593 ด้วยจำนวนคนชนชั้นกลางที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นแรงหนุนต่อภาคธุรกิจค้าปลีก ทั้งนี้ Torben Minko รองประธานหอการค้ายุโรปในเวียดนาม กล่าวว่าธุรกิจยุโรปมีความมั่นใจถึงความพยายามและมาตรการรับมือต่างๆในการต่อสู่กับโควิด-19 ของเวียดนาม อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจล่าสุดของหอการค้ายุโรป เผยว่าดัชนีบรรยากาศทางธุรกิจ (BCI) พุ่งแตะระดับ 73.9 จุด ในไตรมาสแรกของปีนี้ นับว่าเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 ก่อนเกิดการระบาด เมื่อถามถึงแนวโน้มสภาพแวดล้องทางธุรกิจเวียดนามในไตรมาสหน้า คาดว่าเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน นอกจากนี้ หน่วยงานจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลกอย่าง Moody’s, S&P และ Fitch ปรับมุมมองในทิศทางที่เป็นบวกต่อเวียดนาม

องค์กรระหว่างประเทศ มีมุมมองในเชิงบวกต่อเศรษฐกิจเวียดนาม

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดการณ์การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เวียดนามในเชิงบวก ด้วยอัตราการขยายตัว 6.7% ปีนี้ และ 7.3% ในปี 2565 อีกทั้ง ตามรายงานของธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) คาดว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะขยายตัว 6.5% ในปี 2564 ในขณะที่ บริษัทฟิทช์ Fitch Ratings (Fitch) ตั้งเป้าขยายตัวไว้ที่ 7% ทั้งนี้ คุณทิม อีแวนส์ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท HSBC ได้เน้นย้ำถึงผลประโยชน์อันมหาศาสจากการทำธุรกิจในเวียดนาม ภายในการสัมมนาผ่านเว็บที่จัดขึ้นร่วมกันระหว่างธนาคารและสำนักงานการลงทุนต่างประเทศ นอกจากนี้ คุณมิเชล วี ผู้อำนวยการธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดประจำเวียดนาม กล่าวว่าความคืบหน้าของการฉีดวัคซีนโควิด-19 ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ

ที่มา : http://hanoitimes.vn/international-organizations-hold-optimistic-view-on-vietnam-economic-outlook-317653.html

เวียดนามเผยไตรมาส 2 ยอดการส่งออกข้าวพุ่ง

ราคาส่งออกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับยอดคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มจะยังคงทิศทางขาชึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว ถึงแม้ว่าจะเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรง ราคาส่งออกข้าวในตลาดต่างประเทศยังคงอยู่ในระดับสูง ทั้งนี้ สิ่งที่น่าจับตามอง คือ ราคาส่งออกข้าวขาวหัก 5% ของเวียดนาม อยู่ที่ประมาณ 488-492 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ขณะที่ ราคาส่งออกข้าวหัก 5% ที่มาจากอินเดีย ปากีสถานและไทย อยู่ที่ 388, 443 และ 455 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของผู้ค้าข้าว ระบุว่าราคาส่งออกข้าวของเวียดนาม ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้าถึง 500 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน สาเหตุจากอุปสงค์ทั่วโลกลดลง นอกจากนี้ ข้าวเวียดนามยังคงเผชิญกับการแข่งขันทางด้านราคาที่รุนแรง จากภูมิภาค ได้แก่ อินเดีย ไทยและปากีสถาน ที่มีราคาถูกกว่า

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnamese-rice-exports-enjoy-second-quarter-boost-864091.vov

“อีคอมเมิร์ซ” ช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมบริการขนส่งในเวียดนาม

อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซและสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวันในเวียดนาม คาดว่าจะเป็นแรงผลักดันของการเติบโตการจัดส่งพัสดุ สำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เนื่องมาจากมีจำนวนผู้ซื้อสินค้าจากบ้านที่เพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางการระบาดของเชื้อไวรัส คุณ Nguyen Thi Hong Ngoc ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ของบริษัท GHN กล่าวว่านอกเหนือจากจำนวนการสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นในฮานอยและโฮจิมินห์แล้วนั้น ภูมิภาคอื่นๆ ก็ยังมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากปี 2563 จนถึงเดือนแรกของปีนี้ ซึ่งในช่วงต้นปี ยอดคำสั่งซื้อของบริษัท GHN ที่จัดส่งในพื้นที่ต่างจังหวัด มีสัดส่วนรวมกันมากกว่า 70% ของประชากรรวมทั่วประเทศ และเพิ่มขึ้น 25.30% ต่อปี เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว นอกจากนี้ ตามรายงานของ Allied Market Research แสดงให้เห็นถึงปัจจัยต่างๆ อาทิ อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซที่ค่อยๆเติบโต รวมถึงธุรกิจให้บริการกับลูกค้าผู้บริโภคโดยตรง (B2C) ที่เพิ่มสูงขึ้นและการเติบโตของการบริการการค้าระหว่างหว่างประเทศ สิ่งเหล่านี้ จะช่วยผลักดันการขยายตัวของตลาดโดยรวม

ที่มา : http://hanoitimes.vn/e-commerce-boosts-vietnams-express-delivery-industry-317650.html

เวียดนามเผยเมืองไหเซือง ส่งออกลิ้นจี้ไปยังไทยเป็นครั้งแรก

บริษัท Ameii Vietnam ทำการส่งออกลิ้นจี่สดกว่า 10 ล้านตัน ไปยังประเทศไทย เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. นับว่าเป็นครั้งแรกที่ผลไม้สดของเวียดนามไปยังชั้นวางสินค้าในประเทศไทย ทางตัวแทนของบริษัทดังกล่าว กล่าวว่าการส่งออกลิ้นจี่ข้างต้นนั้น ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของธุรกิจ เนื่องจากประเทศไทยเป็นเมืองชั้นนำของผลไม้สดในภูมิภาค และสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าลิ้นจี่ของเวียดนามสามารถแข่งขันกับผลไม้ชนิดอื่นได้ อย่างไรก็ดี จากรายงานของกรมวิชาการทางการเกษตรและพัฒนาชนบท จังหวัดไฮเซือง (Hai Duong) เมื่อวันที่ 31 พ.ค. เผยว่าทางจังหวัดได้เก็บเกี่ยวและจำหน่ายลิ้นจี่ 29,000 ตัน และในจำนวนดังกล่าว มีปริมาณ 15,000 ตัน ที่ทำการส่งออกไปยังประเทศจีน สปป.ลาวและกัมพูชา

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/hai-duong-exports-lychee-to-thailand-for-first-time/202634.vnp

เวียดนามเผยช็อปปิ้งอาหารออนไลน์พุ่ง

จากข้อมูลล่าสุดในไตรมาสแรกของปี 2564 จัดทำโดย iPrice Group ผู้นำด้านอีคอมเมิร์ซ แสดงให้เห็นถึงความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่หมวดสินค้าอื่นๆ กลับลดลง และจากการรศึกษา พบว่าการเข้าชมเว็บไซต์ซื้อของออนไลน์เพิ่มขึ้น 13% ในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งปัจจัยโควิด-19 ถือเป็นตัวเร่งการซื้อสินค้าจำเป็นในช่องทางออนไลน์ ทั้งนี้ ตามรายงาน Asia Pulse #2 ที่เผยแพร่โดยบริษัทวิจัยทางการตลาด “Kantar Vietnam” แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์เช่นเดียวกัน กลุ่มอาหารยังถือเป็นผู้นำในหมวดสินค้าอุปโภคบริโภค อย่างไรก็ตาม เมื่อปีที่แล้ว อาหารสำเร็จรูปกลายเป็นสินค้าที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด และเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีอัตราการบริโภคสูง (FMCG)

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnams-online-food-shopping-in-surge-317640.html