ความไม่แน่นอนในสถานการณ์ปัจจุบันยังคงมีผลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจกัมพูชา

ธนาคารโลกคาดการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจกัมพูชาจะหดตัวลงอย่างมากถึงลบร้อยละ 2 ในปีนี้ ทั้งแนวโน้มการเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไปของกัมพูชาควบคู่ไปกับการจ้างงานภายในประเทศที่ต่ำลง ส่งผลไปถึงรายได้ภาคครัวเรือนที่ลดลงสู่การบริโภคภายในประเทศที่ลดลง โดยกัมพูชายังมีความเสี่ยงด้านลบรวมถึงการระบาดของโควิด-19 ในท้องถิ่นที่ยังไม่จบลงทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงอย่างมากเป็นเวลานาน รวมทั้งความตึงเครียดทางการค้าทั่วโลก โดยเศรษฐกิจของกัมพูชามีตัวขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญ ได้แก่ การก่อสร้าง การท่องเที่ยว และการส่งออกสินค้า ยังคงได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากวิกฤตโลกที่เกิดจากการระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน ในแง่บวกธนาคารโลกกล่าวว่าอุปสงค์ในประเทศของกัมพูชาจะค่อยๆกลับมารวมทั้งมีแนวโน้มที่ดีจากการเจรจาการค้าทวิภาคีในปัจจุบัน โดยคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ร้อยละ 4.3 ในปี 2021 และร้อยละ 5.2 ในปี 2022

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50767885/uncertainty-remains-over-economic-outlook/

ข้อมูลด้านค่าครองชีพภายในประเทศกัมพูชาขัดกับความเชื่อมั่นในท้องถิ่น

แรงงานในพื้นที่กล่าวว่ากำลังประสบกับปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น ต่างจากรายงานด้านราคาสินค้าจำพวกอาหาร ค่าขนส่ง และค่ารักษาพยาบาล ที่มีรายงานว่ายังคงมีเสถียรภาพ โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ค่อนข้างต่ำประมาณร้อยละ 2 ต่อปีจนถึงปี 2022 เช่นเดียวกับรายงานราคาอาหารล่าสุดของ World Food Programme สรุปว่าตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2019 ถึงเดือนสิงหาคม 2020 ในกัมพูชาราคาอาหารยังคงค่อนข้างคงที่สำหรับสินค้าอาหารหลักส่วนใหญ่ ซึ่ง COVID-19 และผลจากการเลิกจ้างแรงงานในหลายภาคส่วนส่งผลทำให้อุปสงค์ภายในประเทศลดลงร่วมด้วย โดยนักวิเคราะห์เศรษฐกิจกล่าวว่าระดับเงินเฟ้อควรอยู่ในช่วงระหว่างร้อยละ 0 ถึง 5 และควรอยู่ในช่วงร้อยละ 2 ถึง 3 ดังนั้นค่าครองชีพในกัมพูชายังคงอยู่ภายใต้การควบคุม

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50767708/cost-of-living-data-goes-against-local-sentiment/

แบงค์ชาติกัมพูชาสนับสนุนการใช้สกุลเงินเรียลในระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ

ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติกัมพูชากล่าวว่ากัมพูชาต้องการพัฒนาส่งเสริมสกุลเงินท้องถิ่นเพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจและการเงินต่อวิกฤตที่เกิดขึ้นรวมทั้งสนับสนุนการเติบโตและการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนและครอบคลุม โดยผู้ว่าการกล่าวสุนทรพจน์ในงานครบรอบ 40 ปีของการเปิดตัวสกุลเงินเรียลที่จัดขึ้นในพนมเปญ ซึ่งเขาเสริมว่าในสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่มีความไม่แน่นอนสูงและการพัฒนาภาคเศรษฐกิจและการเงินของกัมพูชายังคงต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย โดยผู้ว่าอยากให้พิจารณาถึงความสำคัญของเงินเรียล (KHR) ในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดนโยบายส่งเสริมให้ใช้สกุลเงินท้องถิ่นเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกในกลยุทธ์การพัฒนาภาคการเงิน เพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ โดยธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) รวมถึงกระทรวงและสถาบันที่เกี่ยวข้องมามีส่วนร่วมในการปรับปรุงการใช้สกุลเงินเรียลอย่างต่อเนื่อง โดยความต้องการธนบัตรเพิ่มขึ้นในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาโดยเฉลี่ยร้อยละ 16 ต่อปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50767469/nbc-makes-argument-for-more-use-of-riels/

GMAC ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอเรียกคืนสิทธิพิเศษทางการค้าจาก EU ต่อกัมพูชา

สมาคมผู้ผลิตเครื่องนุ่งห่มของกัมพูชาได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมาธิการยุโรปจากผลกระทบของ COVID-19 และการถูกเพิกถอนสิทธิประโยชน์ทางการค้า Everything but Arms (EBA) ของสหภาพยุโรปบางส่วน ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยส่งผลกระทบต่อการส่งออกของกัมพูชาไปยังสหภาพยุโรปประมาณ 1 ใน 5 ของมูลค่าการส่งออกไปยังสหภาพยุโรป ซึ่งภาคเสื้อผ้า รองเท้าและสินค้าเพื่อการเดินทาง มีมูลค่ารวม 1.1 พันล้านยูโรสำหรับการส่งออก แบ่งเป็นการส่งออกเสื้อผ้ามูลค่าราว 770 ล้านยูโร, รองเท้า 210 ล้านยูโร และสินค้าด้านการท่องเที่ยว 120 ล้านยูโร โดยการถอนสิทธิพิเศษทางการค้าในครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อการเข้าถึงตลาดในสหภาพยุโรปของกัมพูชาประมาณร้อยละ 20 ซึ่งจากการสำรวจสมาชิกพบว่าผู้ผลิตรองเท้ามีปริมาณการผลิตลดลงเฉลี่ยร้อยละ 20-40 ในช่วงครึ่งแรกของปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50767213/gmac-seeks-court-order-to-restore-trade-perks-from-eu/

สินเชื่อด้อยคุณภาพภายในกัมพูชาภายใต้ธนาคารไมโครไฟแนนซ์ยังคงคงที่

หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้สำหรับภาคอุตสาหกรรมการเงินรายย่อยของกัมพูชายังคงทรงตัวที่ร้อยละ 2.31 ในเดือนสิงหาคมหลังจากเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 1.33 ในเดือนมกราคมและสูงสุดในเดือนพฤษภาคมที่ร้อยละ 2.61 ตามรายงานของอุตสาหกรรมการธนาคาร โดยจากรายงานด้านการเงินส่วนบุคคลและสินเชื่อเพื่อการเกษตร ได้รับผลกระทบมากที่สุดโดยบันทึกอัตรา NPL ไว้ที่ร้อยละ 3.37 และร้อยละ 3.31 ตามลำดับ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสวนทางกับความกังวลที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับเสถียรภาพของภาคการเงินรายย่อยของกัมพูชาเนื่องจากความกลัวว่าจะมีปริมาณการว่างงานในประเทศเป็นจำนวนมาก ทั้งในภาคเครื่องนุ่งห่มและการท่องเที่ยวเนื่องจากผลกระทบของการระบาดของโควิด-19 ที่อาจจะส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ของประชากรภายในประเทศได้ โดยสำหรับอัตรา NPL ที่ต่ำกว่าร้อยละ 5 ถือว่าเป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรมระดับโลก แต่อย่างไรก็ตามคนในอุตสาหกรรมยังคงกลัวว่าอัตรา NPL อาจพุ่งสูงขึ้นในช่วงปลายปี เมื่อเงินกู้ที่มีการระงับการชำระ 6 เดือน ซึ่งได้รับการปรับโครงสร้างใหม่ในเดือนมีนาคมและเมษายนเสร็จสิ้นลงและหากภาวะเศรษฐกิจยังคงแย่ลง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50767152/mfis-bad-loans-remain-in-a-stable-condition/

การคาดการณ์ใหม่ของ GDP กัมพูชา โดย AMRO

สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคอาเซียน +3 (AMRO) ได้คาดการณ์การเติบโตของ GDP ของกัมพูชาใกล้เคียงกับการอัปเดตของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) โดย AMRO ได้คาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาในปีนี้จะอยู่ที่ลบร้อยละ 4.5 และจะเติบโตเป็นร้อยละ 5.4 ในปีหน้า ซึ่งต่ำกว่าที่ ADO คาดการณ์ไว้เล็กน้อยที่ร้อยละ 5.5 โดยการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 เป็นความท้าทายระดับโลกอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยรัฐบาลได้กำหนดนโยบายสนับสนุนความช่วยเหลือทางสังคมสำหรับผู้ได้รับผลกระทบ และการสนับสนุนทางการเงินสำหรับ SMEs ภายในประเทศเพื่อการสนับสนุนภาคธุรกิจให้รอดพ้นในช่วงวิกฤตทำกำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50766974/amros-new-forecast-of-cambodias-economic-growth-similar-with-adb/

อัตราเงินเฟ้อของกัมพูชาในช่วง COVID-19 อยู่ที่ร้อยละ 3

อัตราเงินเฟ้อของกัมพูชายังคงอยู่ในระดับต่ำอยู่ที่ประมาณร้อยละ 3 ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่คงที่ในขณะที่ทุนสำรองระหว่างประเทศของประเทศยังคงสามารถรองรับการนำเข้าสินค้าและบริการได้นานถึง 10 เดือน กล่าวโดยธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเปิดเผยระหว่างการประชุมกับตัวแทนของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในกัมพูชา โดยธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ได้ปรับการคาดการณ์การเติบโตของกัมพูชาในปี 2020 เป็นลบร้อยละ 4 จากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ติดลบร้อยละ 5.4 ในเดือนมิถุนายนเนื่องจากภาคการเกษตรมาการปรับตัวที่ดีขึ้นและปริมาณการผลิตที่นอกเหนือจากเครื่องนุ่งห่มที่เพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงค่อนข้างคงที่ที่ร้อยละ 2.1 ในปี 2020 ก่อนที่จะลดลงสู่ร้อยละ 1.8 ในปี 2021 เนื่องจากราคาน้ำมันที่ต่ำทำให้ต้นทุนการขนส่งและการผลิตลดลงด้วย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50766833/cambodias-inflation-stands-at-3-percent-during-covid-19/

พลังงานแสงอาทิตย์ยังคงมีความสำคัญกว่าการนำขยะมาผลิตพลังงานในกัมพูชา

โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 30 เมกะวัตต์ในจังหวัดโพธิสัตว์ ได้เริ่มผลิตไฟฟ้าให้กับกริดแห่งชาติโดยมีโครงการที่ได้รับอนุมัติอีกสามโครงการที่จะผลิตพลังงานในปลายปี 2020 แต่สิ่งนี้ยังคงมีคำถามเกี่ยวกับการที่จะนำขยะภายในท้องถิ่นมาเข้าขบวนการเปลี่ยนเป็นพลังงาน หรือที่เรียกันว่าพลังงานขยะ (WTE) ยังไม่ถูกนำมาใช้ ซึ่งโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์รวม 140 เมกะวัตต์จะแล้วเสร็จใน 4 จังหวัดทั่วกัมพูชาภายในสิ้นปี 2020 โดยพลังงานแสงอาทิตย์เป็นทิศทางที่กัมพูชากำลังดำเนินไปในแง่ของพลังงานหมุนเวียนในขณะนี้แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการศึกษาความเป็นไปได้ของโรงไฟฟ้าขยะชุมชนก็ตาม ซึ่งอัตราค่าไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าขยะอยู่ที่ประมาณ 0.14 ถึง 0.15 ดอลลาร์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมงที่ขายให้กับ Electricite du Cambodge (EDC) และอัตราค่าไฟฟ้าจากเขื่อนพลังน้ำอยู่ที่ 0.06 ถึง 0.07 ดอลลาร์ต่อกิโลวัตต์ และจากโรงไฟฟ้าถ่านหินประมาณ 0.08 เหรียญต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง ตามรายงานของกระทรวงสิ่งแวดล้อมมีการรวบรวมและส่งขยะมูลฝอยกว่า 1.7 ล้านตัน ไปยังที่ทิ้งขยะซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยขยะมูลฝอยคิดเป็นร้อยละ 51 ของขยะทั้งหมดในปี 2561

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50766293/solar-still-beats-waste-to-energy/

ADB คาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจกัมพูชาจะเติบโตช้าลงในปีนี้

ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ได้ปรับการคาดการณ์การเติบโตของกัมพูชาในปี 2020 เป็นลบร้อยละ 4 จากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ติดลบร้อยละ 5.4 ในเดือนมิถุนายนเนื่องจากผลการดำเนินงานทางการด้านการเกษตรที่ดีขึ้นและปริมาณการผลิตสินค้าที่นอกเหนือจากภาคอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มที่เพิ่มขึ้น โดยเสริมถึงเศรษฐกิจท้องถิ่นจะฟื้นตัวมาอยู่ที่ร้อยละ 5.9 ในปี 2021 แต่อย่างไรก็ตามการคาดการณ์นี้ยังไม่เป็นที่แน่นอนและจะขึ้นอยู่กับการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ยังคงดำเนินอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงค่อนข้างคงที่ที่ร้อยละ 2.1 ในปี 2020 ก่อนจะลดลงเหลือร้อยละ 1.8 ในปี 2021 เนื่องจากราคาน้ำมันที่ต่ำทำให้ต้นทุนการขนส่งและการผลิตลดลง โดยธนาคารเพื่อการพัฒนาระบุว่าการชะลอตัวอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมการก่อสร้างและเครื่องนุ่งห่ม รวมถึงการเก็บเกี่ยวที่ไม่ดีจากสภาพอากาศเลวร้ายยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50765972/adb-revised-forecast-says-economy-to-plunge-this-year/

กัมพูชาหารือเกี่ยวกับศูนย์โลจิสติกส์ภายในประเทศ

กระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง (MPWT) กำลังหารือเกี่ยวกับร่างกรอบข้อตกลงของกัมพูชาสำหรับการพัฒนาศูนย์โลจิสติกส์ภายในประเทศ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวง MPWT กล่าวว่า Phnom Penh Logistics Complex (PPLC) เป็นศูนย์กลางที่มีศักยภาพในการส่งเสริมภาคการขนส่งของกัมพูชาให้มีประสิทธิภาพและสามารถแข่งขันกับประเทศต่างๆในภูมิภาคและทั่วโลกได้ ทั้งในด้านต้นทุนและบริการ ซึ่งจะส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาให้บรรลุวิสัยทัศน์ของรัฐบาลในการพัฒนาประเทศสู่ประเทศที่มีรายได้ปานกลางภายในปี 2030 และเป็นประเทศที่มีรายได้สูงภายในปี 2050 โดยทำงานทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและบริษัทเพื่อให้แน่ใจว่าโครงการจะดำเนินไปอย่างราบรื่นตามกำหนดการที่วางไว้ ซึ่งประธานสมาคมโลจิสติกส์แห่งกัมพูชา (CLA) กล่าวว่าความท้าทายสำหรับภาคการขนส่งของกัมพูชาคือการขาดการเชื่อมต่อทางถนน ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ใช้เวลามากขึ้น รวมไปถึงค่าธรรมเนียมที่ไม่เป็นทางการในการขนส่งสินค้าภายในประเทศ โดยมองว่าโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ของกัมพูชาถือเป็นอุปสรรคต่อการค้ามานานควรได้รับการปรับปรุงแก้ไข

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50765766/logistics-centre-under-discussion/