เซ็นทรัลไฮแลนด์ เปิดตัวศูนย์โรงงานแปรรูปผักผลไม้ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม

จากคำแถลงการณ์ของประธานคณะกรรมการบริษัท Dong Giao Foodstuff Export JSC เปิดเผยว่าศูนย์การแปรรูปผักผลไม้จะช่วยด้านการปรับปรุง และควบคุมคุณภาพสินค้าให้มีเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งโรงงานดังกล่าวประกอบไปด้วยสายการผลิตอัตโนมัติ โดยหนึ่งในสายการผลิต จะสามารถผลิตน้ำผลไม้อยู่ที่ 20,000 ตันต่อปี ตามมาด้วยผักผลไม้แช่แข็ง 22,000 ตันต่อปี และผักผลไม้กระป๋อง 10,000 ตันต่อปี เป็นต้น รวมไปขนาดของโรงงานถูกออกแบบให้สามารถผลิตสินค้าได้มากถึง 52,000 ตันต่อปี และครอบคลุมพื้นที่กว่า 6 เฮกตาร์ ในขณะที่ ศูนย์การแปรรูปผักผลไม้จะสามารถสร้างรายได้กว่า 86.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี และช่วยให้คนในพื้นที่มีงานทำอีกหลายหมื่นคนในภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม การค้า และการบริการ เป็นต้น นอกจากนี้ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรกรรมและพัฒนาชนบท ระบุว่า ศูนย์การแปรรูปผักผลไม้จะสามารถส่งเสริมสภาพแวดล้อมในการทำฟาร์มผักผลไม้ให้ดีมากยิ่งขึ้น และสามารถสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงกับทั้งภาคธุรกิจและเกษตรกร เพื่อสนับสนุนสินค้าเกษตร

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/535191/central-highlands-launches-the-largest-fruit-vegetable-processing-centre.html#UqzY7GvJQp3zqrJk.97

กระทรวงฯส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวของกัมพูชาในเวียดนาม

กระทรวงการท่องเที่ยวส่งเสริมให้ประเทศกัมพูชาเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยว โดยระหว่างงาน International Travel Expo ครั้งที่ 15 ณ นครโฮจิมินห์ของเวียดนามได้หารือร่วมกันเพื่อส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวภายใต้สโลแกน “สองมณฑลหนึ่งปลายทาง” ซึ่งกัมพูชาและเวียดนามได้ตกลงร่วมมือกันในการท่องเที่ยวทางทะเลเมื่อท่าเรือใหม่ในจังหวัดกัมปอตเสร็จสิ้น โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2564 ซึ่งความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวทางทะเลเป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยกัมพูชาตั้งเป้าที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามปีละ 1 ล้านคนขณะที่เวียดนามคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาอยู่ที่ 5 แสนคน ซึ่งต้องการสร้างผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวใหม่และพัฒนาจุดหมายปลายทางที่มีอยู่เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว โดยเมื่อปีที่แล้วกัมพูชาต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ 6.2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในจำนวนนี้มีประมาณ 8 แสนคนเป็นนักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50641198/ministry-promotes-kingdoms-tourism-market-in-vietnam/

เวียดนามจัดการประชุมส่งเสริมทางการค้ากับตลาดในแอฟริกาตะวันออก

จากการประชุมของหน่วยงานกระทรวงต่างประเทศเวียดนาม และคณะเอกอัครราชทูตแอฟริกาตะวันออก ณ นครฮานอย โดยวัตถุประสงค์ของการประชุมในครั้งนี้ คือ ส่งเสริมทางการค้าระหว่างประเทศให้มากขึ้น ซึ่งประเทศในทวีปแอฟริกาถือเป็นตลาดขนาดใหญ่ มีประชาชนกว่า 1.6 พันล้านคน และมีความพร้อมในด้านเงินทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ที่มีศักยภาพทั้งด้านการค้าและการลงทุน ด้วยเหตุนี้ เวียดนามจึงเน้นการสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกว่า 70 ประเทศในภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก หากประเมินสถิติทางการค้าของทั้ง 2 ภูมิภาค พบว่า ในปี 2561 มีมูลค่าการค้าขยายตัวมากกว่า 17.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากตัวเลขดังกล่าว มีการเติบโตกว่าร้อยละ 300 เมื่อเทียบกับปี 2551 นอกจากนี้ การประชุมในครั้งนี้ จะมุ่งเน้นในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างองค์กรของภาครัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การดำเนินการเปิดโมเดลใหม่ทางด้านเกษตรกรรม และโทรคมนาคม เป็นต้น และอีกปัจจัยหนึ่งที่เวียดนามต้องการทำธุรกิจในภูมิภาคแอฟริกา เนื่องมาจากสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศของเวียดนามกับตลาดดั้งเดิม กำลังเข้าใกล้ช่วงอิ่มตัว ด้วยเหตุนี้ เวียดนามจึงต้องหาโอกาสในการค้ากับตลาดใหม่ เช่น กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/conference-held-to-tap-potential-market-of-middle-eastafrica/160127.vnp

เวียดนามและสาธารณรัฐเช็ก มียอดการค้าเพิ่มขึ้น 5.6% ในช่วงครึ่งแรกของปี 62

จากรายงานสถิติของสหภาพยุโรป เปิดเผยว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562 มูลค่าการค้าระหว่างประเทศเวียดนามและสาธารณรัฐเช็ก อยู่ที่ 591.14 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยสาธารณรัฐเช็กมีการนำเข้ากว่า 557.78 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.96 ในขณะที่ มูลค่าการส่งออกไปยังเวียดนามอยู่ที่ 33.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 30.33 ซึ่งภายในปี 2562 คาดว่าการค้าระหว่างสองประเทศ มีมูลค่าสูงถึง 1.182 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.66 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และคาดว่าสาธารณรัฐเช็กจะมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.93 ในขณะที่ ในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปีนี้ สินค้าสำคัญที่สหภาพยุโรปนำเข้าจากเวียดนาม ได้แก่ เครื่องจักร อุปกรณ์ไฟฟ้า รองเท้า เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ และผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับทางด้านเกษตรกรรม-ป่าไม้ เป็นต้น นอกจากนี้ จากข้อมูลสำนักงานสถิติศุลกากรเวียดนาม ระบุว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามมีการส่งออกสินค้าไปยังกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้น ได้แก่ เยอรมัน (3.43%), ฮังการี (7.94%), เดนมาร์ก (4.74%), เอสโตเนีย (16.17%) และเนเธอร์แลนด์ (8.97%) เป็นต้น

ที่มา :  https://en.vietnamplus.vn/vietnamczech-republic-trade-up-56-percent-in-first-half/160131.vnp

เวียดนามส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2562

จากข้อมูลของหน่วยงานด้านการแปรรูปและพัฒนาตลาดสินค้าเกษตรเวียดนาม (The Agro Processing and Market Development Authority) เปิดเผยว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2562 เวียดนามมีมูลค่ารายได้จากการส่งออกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์น้ำทางทะเล (Aquatic Product) 5.52 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยตลาดส่งออกสำคัญของเวียดนาม ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐฯ จีน และเกาหลีใต้ ซึ่งหากคิดสัดส่วนของมูลค่าการนำเข้าของประเทศดังกล่าว พบว่ามีสัดส่วนรวมกันอยู่ที่ร้อยละ 56.5 ของรายได้รวมจากการส่งออกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์น้ำทางทะเล ในขณะที่ สินค้าประเภทกุ้ง และปลาสวายยังคงเป็นสินค้าส่งออกสำคัญ สามารถแยกประเภทสินค้า ดังนี้ การส่งออกกุ้งข้าวร้อยละ 25.7 ของมูลค่าการส่งออกรวม รองลงมาปลาสวายร้อยละ 24.05 ของมูลค่าการส่งออกรวม ตามลำดับ นอกจากนี้ จากข้อมูลของเลขาธิการสมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตอาหารทะเลเวียดนาม ระบุว่าหลังจากการพิจารณาถึงการตอบโต้การทุ่มตลาดจากที่ผู้ประกอบการเวียดนามกว่า 31 ราย ที่ส่งออกกุ้งไปยังสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้อัตราภาษีอยู่ที่ร้อยละ 0 ซึ่งจะทำให้สร้างโอกาสที่ดีในการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกาได้เพิ่มขึ้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/aquatic-exports-fetch-over-55-billion-usd-in-eight-months/160091.vnp

ส่องเขตเศรษฐกิจพิเศษนังฮอย ประกาศแผนการขยายตัวเพิ่มขึ้น

จากคำประกาศของคณะกรรมการประชาชนประจำจังหวัด เปิดเผยว่าในเขตพื้นที่เศรษฐกิจนังฮอย (Nhon Hoi) มีการขยายตัวพื้นที่มากกว่า 2,300 เฮกตาร์ โดยแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ กว่า 8 พื้นที่ เพื่อให้ครอบคลุมทั้งด้านการท่องเที่ยว การค้าและบริการ และพื้นที่อุตสาหกรรม เป็นต้น รวมไปถึง ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ได้มีการวางแผนให้มุ่งเน้นไปที่ด้านการท่องเที่ยว บริการ อุตสาหกรรม ท่าเรือ  การประมง และพลังงานทดแทน ซึ่งเขตเศรษกิจพิเศษดังกล่าวจะเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจและต่างประเทศครบวงจร นอกจากนี้ จากตัวเลขสถิติการลงทุนจากต่างประเทศ ระบุว่า การลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษนังฮอยในเวียดนาม มีมูลค่า 2.49 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยโครงการลงทุนจากต่างชาติ 81 โครงการ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/535006/nhon-hoi-economic-zone-announces-expansion-plans.html#gFqP7mcsTv71MPOY.97

เวียดนามส่งออกเหล็กกล้า 1.93 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562

จากรายงานของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562 มูลค่าการส่งออกเหล็กกล้าของเวียดนามอยู่ที่ 1.93 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยสหรัฐอเมริกายังคงเป็นผู้นำเข้าเหล็กกล้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม หากดูภาพรวมของการค้าเหล็กกล้าของเวียดนาม พบว่ามูลค่าการส่งออกเหล็กกล้าของเวียดนามไปยังตลาดต่างประเทศทั่วโลกอยู่ที่ 378.31 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 5 ของมูลค่าการส่งออกเหล็กกล้าโดยรวมของเวียดนาม ตามมาด้วยญี่ปุ่น อินเดีย ไทย และเกาหลีใต้ ตามลำดับ ในขณะเดียวกัน เวียดนามส่งออกเหล็กกล้าไปยังเมียนมาลดลงอย่างมาก 33.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 49.53 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://en.nhandan.com.vn/business/item/7884802-vietnam%E2%80%99s-steel-exports-bring-in-us$1-93-billion-in-first-seven-months.html

เวียดนามเผยมีการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพพุ่งสูงขึ้น 48%

ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 มีการลงทุนในกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพเวียดนามอยู่ที่ 246 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 48 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเกาหลีใต้เป็นประเทศที่เข้ามาลงทุนมากที่สุดในเวียดนาม รองลงมาสิงคโปร และญี่ปุ่น ตามลำดับ เวียดนามเล็งเห็นการขยายตัวของโครงการขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น และคาดว่าในปีนี้ กลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพเวียดนามจะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นประมาณ 50-100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อครั้ง ซึ่งหากสถานการณ์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจเวียดนามแตะระดับ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และไม่อีกกี่ปีข้างหน้า มูลค่าของธุรกิจเวียดนามจะเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะเดียวกัน ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ต่างชาติสนใจลงทุนในเวียดนาม เนื่องมาจากโครงสร้างของเศรษฐกิจดิจิทัลอยู่ในช่วงก่อตัวอย่างแข็งแกร่ง และประชากรเวียดนามมีปริมาณการใช้โทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ มูลค่าการลงทุนในเวียดนามอยู่ที่ 5.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 จ่อีกกี่ปีข้างหน้า อาตตะระดับ 500 ล้านดอลลารเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ที่มา :   https://e.vnexpress.net/news/business/data-speaks/investment-in-startups-up-48-pct-3977006.html  

จังหวัดด่งนายเกินดุลการค้า 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 8 เดือนของปี 2562

จากข้อมูลของสำนักสถิติเวียดนาม เปิดเผยว่านครด่งนายเกินดุลการค้า 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2562 โดยมูลค่าการส่งออก 12.76 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.22 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่ การนำเข้ามีมูลค่า 10.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.11 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ส่งผลให้นครด่งนายเกินดุลการค้า ซึ่งคณะกรรมการประชาชนเวียดนาม ระบุว่าการขยายตัวของการส่งออกในจังหวัด มีอัตราการขยายตัวลดลง เป็นผลมาจากการส่งออกของสินค้าเกษตรในท้องถิ่นลดลง ได้แก่ มะม่วงหิมพานต์ พริกไทย กาแฟ และยางพารา เป็นต้น นอกจากนี้ สหรัฐอเมริกายังคงเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของนครด่งนาย รองลงมาญี่ปุ่น และจีน ตามลำดับ ในขณะเดียวกัน นครด่งนายนำเข้าสินค้าสำคัญจากเกาหลีใต้ จีน และไต้หวัน เช่น อาหารสัตว์ ข้าวโพด พลาสติก เป็นต้น

ที่มา :   https://en.vietnamplus.vn/dong-nai-sees-21billionusd-trade-surplus-in-eight-months/159927.vnp

เวียดนามเผยยอดการค้ารวมเพิ่มขึ้น 7.3% ในช่วง 8 เดือนแรก

จากข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม (MoIT) เปิดเผยว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามมีมูลค่าการค้ารวม 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยสินค้าส่งออกหลักของเวียดนาม ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ และชิ้นส่วน เป็นต้น ซึ่งทำให้เวียดนามเกินดุลการค้าอยู่ที่ 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงเดือนมกราคม – สิงหาคม ในขณะที่ สหรัฐอเมริกายังคงเป็นผู้นำเข้าสินค้าเวียดนามรายใหญ่ที่สุดด้วยมูลค่า 38.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.3 yoy รองลงมาสหภาพยุโรป จีน และอาเซียน นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่าผู้ประกอบการควรคำนึงถึงกฎระเบียบเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดสินค้า (Origin of goods) เพื่อจะได้รับสิทธิพิเศษทางการค้า

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-export-turnover-up-73-percent-in-eight-months/159828.vnp