‘ประธานาธิบดีมองโกเลียเยือน สปป.ลาว’ กระชับสัมพันธ์สองประเทศ

นายคูเรลสุข อุคนนา ประธานาธิบดีมองโกเลีย พร้อมด้วยภริยา และคณะเจ้าหน้าที่ เดินทางถึงนครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมื่อเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติวัตไต ประธานาธิบดีมองโกเลียและคณะฯ ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากรัฐมนตรีและหัวหน้าสำนักงานประธานาธิบดีแห่ง สปป.ลาว พร้อมกับเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งมองโกเลียประจำ สปป.ลาว  เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มของ สปป.ลาว ประจำมองโกเลีย นายเพ็งสะหวัน แก้วประเสริฐ และเจ้าหน้าที่อื่นๆ ทั้งนี้ ในระหว่างการเยือน สปป.ลาว ประธานาธิบดีมองโกเลีย และนายทองลุน สีสุลิด ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จะจัดการเจรจาอย่างเป็นทางการ และกำหนดให้เข้าพบประธานสมัชชาแห่งชาติของ สปป.ลาว นายไซสมพอน พรหมวิหาร และนายกรัฐมนตรี โสเนกชัย สีพันโดน เพื่อหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์และความร่วมมือทวิภาคี

ที่มา : https://montsame.mn/en/read/330592

สปป.ลาว มีแผนส่งเสริมการส่งออก ‘ผลิตภัณฑ์จากไม้’ ไปยังตลาดสหภาพยุโรป

กรมป่าไม้ของสปป.ลาว กำลังวางแผนที่จะส่งเสริมธุรกิจไม้แปรรูปเพื่อการส่งออกไปยังตลาดสหภาพยุโรป (EU) และได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ไม้ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง โดยนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการทั้งด้านภาษีและไม่ใช่ภาษีสำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้ไปยังตลาดสหภาพยุโรป ทั้งคำสั่งและกฎระเบียบ ตลอดจนข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ไม้ที่มีศักยภาพสูงในด้านความต้องการและมูลค่า และครอบคลุมถึงขั้นตอนของสหภาพยุโรป เช่น ข้อกำหนดสำหรับการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้ เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่กระจายของศัตรูพืช และการจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ไม้แปรรูป เป็นต้น ทั้งนี้ ตามรายงานของสำนักข่าวใน สปป.ลาว กล่าวถึงความต้องการผลิตภัณฑ์ไม้จากสหภาพยุโรปที่มีมากขึ้น จะทำให้ลาวมีโอกาสสำหรับการขยายธุรกิจของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

ที่มา : https://scandasia.com/laos-plans-to-boost-wood-export-to-eu-markets/

‘สมาชิกสภาแห่งชาติลาว’ ขอรัฐบาลเพิ่มความเข้มงวดในการจัดการเงินตราต่างประเทศ

สมาชิกสภาแห่งชาติลาว กล่าวในการประชุมสามัญครั้งที่ 6 ขอให้รัฐบาล สปป.ลาว เพิ่มความเข้มงวดในการจัดการสกุลเงินต่างประเทศ เพื่อลดอัตราเงินเฟ้อ ควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ไม่เอื้ออำนวย โดยขอให้รัฐบาลดำเนินการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น ควรทำผ่านการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดและการตรวจสอบการใช้สกุลเงินต่างประเทศโดยผู้นำเข้าและผู้ส่งออก การชำระค่าสินค้านำเข้าควรดำเนินการผ่านระบบธนาคาร และควรเก็บบันทึกรายรับที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศและการโอนไปยังประเทศอื่น อีกทั้งยังเสนอแนะว่าควรมีการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศนอกระบบธนาคารให้เข้มงวดมากขึ้น เนื่องจากร้านแลกเงินเอกชนบางแห่งยังคงเปิดดำเนินการผ่านระบบออนไลน์อยู่ รวมถึงยังขอให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการจัดเก็บรายได้ ควบคุมการใช้จ่ายในโครงการพัฒนาและการชำระหนี้ ตลอดจนเพิ่มผลผลิตในประเทศเพื่อทดแทนสินค้านำเข้า

ที่มา : https://english.news.cn/20231102/03a14c21757f49faac6caa12a1d0f976/c.html

‘ภาคบริการ’ เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจ สปป.ลาว

คำเจน วงโพสี รัฐมนตรีกระทรวงการวางแผนและการลงทุน สปป.ลาว เผยอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของ สปป.ลาว ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2566 ขยายตัว 4.4% โดยการค้าส่งและค้าปลีก การขนส่ง และการบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ถือเป็นธุรกิจที่มีผลประกอบการดีที่สุด ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจภาคบริการขยายตัว 5.6% ซึ่งมีส่วนทำให้ GDP สปป.ลาว ขยายตัวได้ ทั้งนี้ การจัดเก็บภาษี ขยายตัว 3.9%, ภาคการผลิตอุตสาหกรรม ขยายตัว 3.5% ภาคเกษตรกรรมและการป่าไม้ ขยายตัว 3.4% นอกจากนี้ รัฐมนตรีฯ ได้กล่าวเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการรักษาเสถียรภาพทางการเมืองที่แข็งแกร่งและความสงบเรียบร้อยทางสังคม ทั้งนี้ ในปี 2567 คาดว่าภาคอุตสาหกรรมจะมีอัตราการเติบโตสูงสุดที่ 5% ตามมาด้วยภาคบริการ ขยายตัว 4.8% ภาษีและศุลกากร ขยายตัว 3.9% และภาคเกษตรกรรม ขยายตัว 2.6% หากบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ GDP สปป.ลาว ปี 2567 จะมีมูลค่า 293,786 พันล้านกีบลาว รายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อปี 1,787 ดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://english.news.cn/20231102/f12f1f851a9440fc92b266c671b19d89/c.html

สปป.ลาว-ไทย ร่วมหารือเกี่ยวกับการก่อสร้าง ‘สะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขง’

รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ สปป.ลาว และไทย ได้ทำการเจรจาเกี่ยวกับการก่อสร้างสะพานสำหรับใช้เป็นทางรถไฟข้ามแม่น้ำโขง ระหว่างนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว กับจังหวัดหนองคาย ประเทศไทย ซึ่งขยายเส้นทางรถไฟข้ามพรมแดนจากหนองคายไปยังสถานีรถไฟเวียงจันทน์ (สถานีคำสะหวาด) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเข้าถึงประเทศจีนได้สะดวกขึ้น ทั้งนี้ จากการหารือทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะส่งเสริมให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันพิจารณาวิธีการส่งเสริมปริมาณการค้า
ทวิภาคี โดยการขจัดอุปสรรคทางการค้าที่มีอยู่และทำให้การทำธุรกิจง่ายขึ้น และมุ่งเป้าไปที่การส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างสปป.ลาว กับประเทศไทย โดยใช้เส้นทางรถไฟเป็นระบบขนส่งหลัก

ที่มา : https://english.news.cn/20231101/4129819645d347a6a2b36f7d10d100ed/c.html

‘การเติบโตทางเศรษฐกิจ สปป.ลาว’ ช่วงสองปีครึ่งที่ผ่านมาเติบโตได้ 4.03%

นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว เผยอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศตั้งแต่ปี 2564 ถึงกลางปี 2566 ขยายตัวได้ 4.03% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4% ทั้งนี้ รัฐบาลได้ปรับลดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจตลอดทั้งปี 2566 จากที่คาดการณ์ไว้ 4.5% ปรับลดเหลือขยายตัว 4.2% เนื่องจากผลกระทบของค่าเงินกีบที่อ่อนค่ารุนแรงและปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งจะส่งผลให้ GDP ต่อหัวของประชากร สปป.ลาว ปีนี้มีแนวโน้มปรับลดลงมาอยู่ที่ 1,712 ดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม รัฐบาล สปป.ลาว มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้รายได้ต่อหัวของประชากรบรรลุเป้าหมายที่ระดับ 2,880 ดอลลาร์สหรัฐ ให้ได้ภายในปี 2568 นอกจากนี้ รัฐบาลมีความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับความไม่มั่นคงทางการเงิน อัตราเงินเฟ้อที่สูง และอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน โดยได้สั่งให้ธนาคารกลางใช้กลไกทั้งหมดในลักษณะบูรณาการเพื่อรักษาปริมาณเงิน M2 ในวงกว้างให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ เน้นการใช้สกุลเงินต่างประเทศกับการนำเข้าที่มีลำดับความสำคัญ ยกเลิกร้านแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและบริการแลกเปลี่ยนสกุลเงินทั่วไป ให้แลกเปลี่ยนได้เฉพาะกับธนาคารพาณิชย์

ที่มา : https://english.news.cn/20231101/5e4ef2c249474f61b71121209ad22634/c.html#:~:text=VIENTIANE%2C%20Nov.%201%20(Xinhua,Lao%20Prime%20Minister%20Sonexay%20Siphandone.

สปป.ลาว-เกาหลีใต้ ร่วมมือลดความซับซ้อนการโอนเงินข้ามพรมแดน

สปป.ลาวและเกาหลีใต้ ผนึกกำลังในโครงการนำร่องเพื่ออำนวยความสะดวกกระบวนการโอนเงินข้ามพรมแดนสำหรับคนงานลาวในต่างประเทศและแรงงานต่างด้าวในลาว เนื่องจากแรงงานชาวลาวในต่างประเทศมักเผชิญกับอุปสรรคในการโอนเงินข้ามพรมแดน รวมถึงปัญหาการเปิดบัญชีธนาคารในต่างประเทศ ขั้นตอนเอกสารการโอนเงินที่ซับซ้อน และต้นทุนการโอนเงินที่สูง ปัญหาเหล่านี้นำไปสู่ช่องทางการโอนเงินที่ผิดกฎหมายและมีความเสี่ยงอยู่บ่อยครั้ง กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมและธนาคารแห่ง สปป. ลาว ได้ทำการศึกษาเครื่องมือและช่องทางการชำระเงิน เพื่อสร้างระบบโอนเงินที่สะดวกมากยิ่งขึ้นสำหรับแรงงานชาวลาวส่งเงินกลับประเทศผ่านช่องทางของสถาบันการเงิน ทั้งนี้ จากความร่วมมือระหว่างธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศใน สปป.ลาว และบริษัท Global Loyalty Network Company (GLN) ของเกาหลีใต้ ได้สร้างแพลตฟอร์มการเงินดิจิทัล โดยจะนำร่องใช้งานเริ่มต้นที่เป้าหมายแรก คือ เกาหลีใต้ และแผนในอนาคตคือการขยายไปยังประเทศอื่นๆ เช่น ไทย และญี่ปุ่น

ที่มา : https://laotiantimes.com/2023/10/31/laos-south-korea-partner-to-simplify-cross-border-money-transfers/

‘สปป.ลาว จะใช้มาตรการเข้มขึ้น’ เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ

พรรคปฏิวัติประชาชนลาว ได้มีมติในการดำเนินมาตรการที่เข้มข้นขึ้นเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อและรักษาเสถียรภาพของสกุลเงิน​​กีบ ในระหว่างการประชุมสมัยที่ 7 คณะกรรมพรรคฯ เห็นพ้องเกี่ยวกับมาตรการที่ไม่เพียงแต่เพื่อรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ แต่ยังเพื่อเร่งบรรเทาผลกระทบจากน้ำท่วมไปพร้อมกันด้วย โดยขอให้ภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง จัดทำแผนรับมือกับไฟป่าที่อาจเกิดขึ้นและทำงานหนักขึ้นเพื่อกระตุ้นการผลิตทางการเกษตร ลดการนำเข้าสินค้าที่สามารถปลูกหรือผลิตในประเทศได้ นอกจากนี้ คณะกรรมการยังได้แนะนำให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาชนบทและการลดความยากจนมากขึ้น ตลอดจนยกระดับมาตรฐานการศึกษาและบริการด้านสุขภาพ สร้างงานมากขึ้น และบรรเทาปัญหาสังคม รวมถึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการอย่างละเอียดถี่ถ้วนสำหรับกิจกรรมสำคัญของประเทศในปีหน้า รวมถึงการประชุมสุดยอดอาเซียนและการรณรงค์การท่องเที่ยวในปี 2567

ที่มา : https://english.news.cn/20231030/9c87d6967a994892a36a4a93e5706cfd/c.html

สปป.ลาว-ไทย กระชับความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์

นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว และเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทย ยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมมิตรภาพเพื่อนบ้านที่ดีและความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดของทั้งสองประเทศ ซึ่งนำไปสู่การตระหนักถึงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อการเติบโตและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศร่วมกัน เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเสริมสร้างความร่วมมือทวิภาคีและพหุภาคีทั้งในด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือในการสร้างและยกระดับโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยงระหว่างลาวกับไทยผ่านระบบถนนและทางรถไฟ ตลอดจนโครงการท่องเที่ยวเชิงนิเวศผ่านชุมชนระหว่างทั้งสองประเทศ รวมถึงให้คำมั่นที่จะส่งเสริมกลไกการประสานงานและความร่วมมือระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของลาว กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทยต่อไป เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าชายแดนไทย-ลาว และสนับสนุนระหว่างกันในเวทีระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/laos-thailand-strengthen-strategic-partnership/270428.vnp

นายกฯ หนุนศุลกากรหนองคาย One Stop Service ดันส่งออกชายแดน-จีน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเป็นประธานการประชุมติดตามประเด็นปัญหาการส่งออก ขั้นตอนพิธีศุลกากร การค้าชายแดนและการพัฒนา One Stop Service ระหว่างราชอาณาจักรไทย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ สำนักงานศุลกากร จังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยนายเศรษฐา ระบุว่า ตนต้องการให้จังหวัดได้พัฒนาระบบโลจิสติกส์ เพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ เพื่อผลักดันศูนย์ให้บริการเบ็ดเสร็จ (One Stop Service :OSS) ทำให้การบริการภาครัฐรวมอยู่ในระบบเดียว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ เพื่อรองรับความต้องการและส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีน หากจังหวัดหนองคายดำเนินการเป็นจังหวัดแรก ที่รวมบริการทั้งหมด เพื่อขยายตัวอย่างไปจังหวัดต่างๆ สำหรับไทย-จีนมีความสัมพันธ์ที่ดี ซึ่งจากการพูดคุยหารือนักลงทุนประเทศจีนมีความสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งสินค้าเกษตร ขอให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเร่งประสานงานให้เกิดความร่วมมือ นำนักลงทุนมาลงทุนในประเทศไทยให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยปัจจุบันจุดผ่อนปรนจังหวัดหนองคายมีด่านชายแดนริมโขงอยู่ 4 จุด ซึ่งค่อนข้างแออัดหลังจากสถานการณ์โควิดปรับตัวดีขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ยังคงเปิดไม่ครบทุกจุด ด้านมูลค่าการค้า ณ จุดผ่านแดนอยู่ที่ประมาณ 400-500 ล้านบาท โดยไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้ากับ สปป.ลาว มาโดยตลอด

ที่มา : https://www.prachachat.net/economy/news-1425864