“เวียดนาม” มาแรง! ขึ้นแท่นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวโตเร็วที่สุดในโลก

จากข้อมูลของสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนาม (VNAT) ระบุว่าเวียดนามยังคงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในโลก หากพิจารณาในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ จะเห็นได้ว่าเวียดนามดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ จำนวน 954,000 คน เพิ่มขึ้น 9 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมีอัตราการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเฉลี่ย 62% ต่อเดือนในช่วงเดือน ม.ค.-ก.ค. ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่มาจากเอเชียแปซิฟิก รวมถึงกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ทั้งนี้ ดัชนีการพัฒนาการเดินทางและการท่องเที่ยว แสดงให้เห็นอันดับของเวียดนามในปี 2564 ขยับเลื่อนดีขึ้น 8 อันดับ ด้วยดัชนีชี้วัดหลัก 6 จาก 17 ตัวที่ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-among-destinations-with-fastest-tourism-growth-in-the-world-2052341.html

“สปป.ลาว” ใช้งบ 20 พันล้านกีบ เร่งป้องกันน้ำท่วม

นครเวียงจันทร์เตรียมใช้เงินวงเงินกว่า 20 พันล้านกีบ จะเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในช่วงฤดูฝนที่ทำให้ท่อระบายน้ำอุดตัน รวมถึงซ่อมแซมและขยายช่องระบายน้ำ จัดการกับพืชและเศษซากต่างๆ ที่อุดตันท่อระบายน้ำและควบคุมระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ ผู้อำนวยการฝ่ายโยธาธิการและขนส่งของนครเวียงจันทร์ กล่าวว่าสำนักงานกำลังร่วมมือกับสำนักงานจัดการและบริการเมืองเวียงจันทร์ และเจ้าหน้าที่จากเขต 9 ของเมืองในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมระยะยาว อย่างไรก็ตาม ตัวเลขของงบประมาณข้างต้นนั้นยังเป็นการประมาณการเบื้องต้นเท่านั้น เนื่องจากงานบางส่วนที่วางแผนไว้อาจไม่สามารถทำได้ในช่วงฤดูฝน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten163_City.php

กัมพูชาอนุมัติโครงการการลงทุนใหม่มูลค่ากว่า 17 ล้านดอลลาร์ ในเขตกันดาล

สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ได้อนุมัติโครงการลงทุนใหม่ 4 โครงการ ในจังหวัดกันดาล มูลค่ารวม 17 ล้านดอลลาร์ ซึ่งโครงการการลงทุนใหม่ครอบคลุมอุตสาหกรรมการผลิต รองเท้า, เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ไม้, โซฟา และวัสดุบรรจุภัณฑ์ โดยคาดว่าจะสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่นประมาณ 2,800 ตำแหน่ง โครงการแรกเป็นของ บริษัท RG Footwear (Cambodia) Co., Ltd. ดำเนินกิจการเกี่ยวกับการผลิตรองเท้า ในขณะเดียวกัน บริษัท Xing Gang Wood Industry (Cambodia) Co., Ltd. คาดว่าจะตั้งโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่ทำจากไม้ ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุ โดยในบริษัทต่อมาคือ บริษัท Zhejiang Jeni Furniture Co., Ltd. จัดตั้งโรงงานผลิตโซฟาและผ้าคลุมโซฟา ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุ และบริษัทสุดท้าย คือ บริษัท FF LL (Cambodia) Co., Ltd. จัดตั้งโรงงานผลิตวัสดุบรรจุภัณฑ์ทุกประเภทในเขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุเช่นเดียวกัน ซึ่งกัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศมูลค่ารวม 6.6 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเดือน มกราคม-มิถุนายน ปีนี้ เมื่อเทียบกับการส่งออกในปีที่แล้วที่มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 4.72 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501135969/17m-investment-projects-in-kandal-p-sihanouk-provinces/

คาดการค้าทวิภาคี กัมพูชา-อังกฤษ เติบโตภายใต้โครงการใหม่

หลังอังกฤษตัดสินใจเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับ Brexit ทำให้สหราชอาณาจักรจำเป็นที่จะต้องแทนที่ Generalized Scheme of Preferences (GSP) ด้วยโครงการใหม่ที่มีชื่อว่า Developing Countries Trading Scheme (DCTS) สำหรับกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา (LDC) ในการกระตุ้นภาคการค้าทวิภาคี ซึ่งจะทำการยกเว้นภาษีในอัตราร้อยละ 99 ให้กับประเทศในกลุ่ม LDC เพื่อเป็นการกระตุ้นการนำเข้าสินค้าจากประเทศที่กำลังพัฒนา โดยกัมพูชาถือเป็นหนึ่งในผู้รับผลประโยชน์จากทั้งหมด 65 ประเทศทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันกลุ่มประเทศ LDC มีประชากรประมาณร้อยละ 13 ของประชากรโลก แต่มูลค้ากลับคิดเป็นเพียงประมาณร้อยละ 1 ของมูลค่าการค้าโลก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501136142/cambodia-uk-trade-to-soar-under-new-scheme/

“เวียดนาม” เผย 8 เดือนแรก นำเข้าปิโตรเลียม พุ่ง 150%

กรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยข้อมูล ณ วันที่ 15 ส.ค. ว่าเวียดนามนำเข้าปิโตรเลียมทุกชนิด 5.65 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าราว 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 150% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในเดือน พ.ค. เพียงเดือนเดียว ธุรกิจปิโตรเลียมได้นำเข้า 651,000 ตัน เป็นมูลค่า 736 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในแง่ของปริมาณเพิ่มขึ้น 5.4% แต่มูลค่าลดลง 9.4% เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว เนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวลดลง ทั้งนี้ เวียดนามนำเข้าน้ำมันดีเซลมากกว่า 3.17 ล้านตัน คิดเป็น 60% ของปริมาณผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมทั้งหมด ในขณะเดียวกัน เกาหลีใต้ยังคงเป็นตลาดนำเข้าปิโตรเลียมรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ซึ่งในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ปริมาณอยู่ที่ 2.17 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 92% รองลงมามาเลเซียและสิงคโปร์

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-s-petroleum-imports-rise-150-over-eight-months-2051972.html

อุตสาหกรรมการบินเวียดนาม โชว์ไตรมาส 2 กลับมาฟื้นตัวจากการเปิดประเทศ

สำนักงานการบินพลเรือนเวียดนาม (CAAV) เปิดเผยว่าในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ จำนวนผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 23.3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 74.2% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) และมีปริมาณการขนส่งสินค้าทางอากาศประมาณ 651,000 ตัน เพิ่มขึ้น 6.8%YoY ทั้งนี้ ตามข้อมูลของสำนักงานการบิน แสดงให้เห็นว่าตลาดในประเทศเริ่มกลับมาฟื้นตัวตั้งแต่เดือนเม.ย. ขยายตัวอีกครั้งในเดือนพ.ค. และกลับมาขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในเดือนมิ.ย. โดยในเดือนมิ.ย. เพียงเดือนเดียว เวียดนามรองรับผู้โดยสารรวมกันได้ 5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 38.8%YoY ถือว่าเป็นตัวเลขอยู่ในระดับมากที่สุดก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 และอัตราการเข้านั่งของสายการบินในประเทศ เดือนมิ.ย. อยู่ในระดับสูง ตั้งแต่ 85%-87% ขึ้นอยู่กับสายการบิน นอกจากนี้ ผู้อำนวยการของเวียดนามแอร์ไลน์ กล่าวว่าตลาดการบินของเวียดนามจะมีแนวโน้มเชิงบวก เนื่องจากรัฐบาลได้เปิดเที่ยวบินในประเทศและเส้นทางการบินระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ตลาดสายการบินระหว่างประเทศยังคงประสบปัญหามากมาย เนื่องจากยังมีการแพร่ระบาดของเชื้อโรค รวมถึงประสิทธิภาพของวัคซีนที่ลดลงและราคาเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงขึ้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1299728/aviation-industry-rebounds-in-q2-thanks-to-opening-of-routes.html

ราคาหัวหอมตลาดปะโคะกู พุ่งแตะ 3,000 จัตต่อปอนด์

สัปดาห์สุดท้ายของเดือนส.ค.2565 ราคาหัวหอม ณ ตลาดปะโคะกู เขตมะกเว ของเมียนมา พุ่งแตะแตะระดับ 3,000 จัตต่อปอนด์ ขณะที่สัปดาห์แรกของเดือน ราคาอยุ่ที่ 1,700 จัตต่อปอนด์ ส่วนสัปดาห์ที่สองราคาขยับขึ้นเป็น 2,000 จัตต่อปอนด์ สาเหตุเกิดจากบางพื้นที่ประสบปัญหาไม่สามารถเพาะปลูกได้ ส่งผลให้ผลผลิตจึงต่ำกว่าปกติ ทั้งนี้ ในปี 2562 ราคาหัวหอมอยู่ที่ประมาณ 3,000 จัตต่อปอนด์ และตั้งแต่ปี 2563 ถึงกลางปี ​​2565 ราคาดิ่งลงเหลือประมาณ 1,000 จัตต่อปอนด์

 

ที่มา: https://news-eleven.com/article/236144

 

แรงงานสปป.ลาวและต่างด้าว แห่ลงทะเบียนในเขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อแก้ว

นายโอดล มณีบูรณ์ หัวหน้ากรมแรงงานและสวัสดิการสังคม ของ สปป.ลาว กล่าวว่า ภายหลังการขึ้นทะเบียนแรงงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อแก้วเมื่อช่วงต้นเดือนส.ค.2565 ที่ผ่านมา มีแรงงานได้ขึ้นทะเบียนแล้ว 1,267 คน โดยมีแรงงานจากจีน เมียนมา และประเทศอื่นๆ ทั้งนี้นายโอดล ยังกล่าวเสริมอีกว่า หลังจาก 2 สัปดาห์ของการขึ้นทะเบียนและตรวจสุขภาพของแรงงาน เป็นที่แน่ชัดว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อแก้วมีปัญหาที่ต้องแก้ไข แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย

ที่มา: https://laotiantimes.com/2022/08/22/bokeo-sez-registers-lao-and-foreign-workers/

คนละครึ่งทาง! จับตา ‘พาณิชย์’ ไฟเขียว ขึ้นราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็น 7 บาท

ขณะนี้กรมการค้าภายใน อยู่ระหว่างการพิจารณาการปรับขึ้นราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หลังจากที่ผู้ผลิตได้ทำเรื่องขอปรับขึ้นราคาขาย เพราะต้นทุนการผลิตปรับขึ้นทั้งหมด ทั้งแป้งสาลี น้ำมันปาล์ม ค่าไฟ บรรจุภัณฑ์ ค่าขนส่ง ฯลฯ แต่กรมคงไม่อนุญาตให้ปรับขึ้นเท่ากันหมดทุกราย ทุกยี่ห้อ เพราะต้นทุนของผู้ผลิตแต่ละรายไม่เท่ากัน และไม่ให้ปรับขึ้นได้ซองละ 2 บาทจากปัจจุบันซองละ 6 บาท เป็น 8 บาท เพราะจะสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อยมากเกินไป แต่อาจจะให้ปรับขึ้นได้ไม่เกินซองละ 1 บาท จาก 6 บาท เป็น 7 บาท แต่มีข้อแม้ว่า เมื่อต้นทุนการผลิตลดลง ผู้ผลิตจะต้องปรับลดราคาขายลงด้วย ด้านนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า การปรับราคาจะไม่พิจารณาให้ขึ้นราคาได้เท่ากันทุกยี่ห้อ จะพิจารณาตามต้นทุนของผู้ผลิตทีละรายที่ได้ยื่นมา และกำลังเร่งรัดอยู่

ที่มา : https://www.dailynews.co.th/news/1389088/

 

 

การค้า กัมพูชา-สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นกว่า 45% แตะ 5,892 ล้านดอลลาร์

การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 45 หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 5,892 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการส่งออกของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 47 คิดเป็นมูลค่า 5,695 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม รายงานโดยกรมศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชา ซึ่งการนำเข้าของกัมพูชาจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 3 คิดเป็นมูลค่า 196 ล้านดอลลาร์ โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ ได้แก่ สิ่งทอ รองเท้า สินค้าเพื่อท่องเที่ยว และสินค้าเกษตร ในขณะที่กัมพูชานำเข้ายานพาหนะ อาหารสัตว์ และเครื่องจักร จากสหรัฐฯ เป็นสำคัญ ซึ่งในปัจจุบันกัมพูชาได้รับสิทธิพิเศษทางการค้าจากสหรัฐฯ (GSP) ที่ถือเป็นประโยชน์อย่างมากต่อภาคการส่งออกของกัมพูชา โดยในปี 2021 กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ มูลค่า 8.7 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 33 เมื่อเทียบกับปี 2020

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501134689/cambodia-us-trade-surges-45-to-5892-million/