รถไฟจีน – สปป.ลาว พลิกโอกาส ศก.ไทย

โครงการรถไฟจีน-สปป.ลาว เปิดเดินรถอย่างเป็นทางการแล้วในวันที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา ตามแผนโครงการสายแถบและเส้นทาง (BRI) เชื่อมโครงข่ายคมนาคมระบบรางระหว่างจีนกับชาติอาเซียนเป็นแห่งแรก ซึ่งจะส่งผลต่อนัยสภาพแวดล้อมทางภูมิรัฐศาสตร์ ล้วนเป็นโอกาสและความท้าทายต่อเอกชนและเศรษฐกิจไทย ด้านกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ จัดเวทีหารือระดับสูงด้านการทูตเศรษฐกิจเรื่องการปรับตัวของไทยต่อโครงการรถไฟจีน-สปป.ลาว โดยเชิญผู้แทนกระทรวงคมนาคม และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งหน่วยงานในภาคธุรกิจร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง เพื่อใช้โอกาสนี้สร้างเศรษฐกิจสัมพันธ์ ในยุคหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 “วิชาวัฒน์ อิศรภักดี” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เมื่อมองผ่านเลนการทูตเศรษฐกิจจะเห็นโอกาสจากโครงการรถไฟจีน-ลาว ใน 3 ประการได้แก่ 1.ส่งเสริมขีดความสามารถภาคเอกชน และผู้ประกอบการไทย และในระยะยาวจะส่งผลต่อการดำเนินเศรษฐสัมพันธ์ระหว่างไทยกับนานาประเทศ 2.การขยายบทบาทของจีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะภูมิภาคลุ่มน้ำโขงจะยังมีอยู่ต่อเนื่อง ซึ่งโครงการรถไฟจีน-ลาว เป็นเพียงหนึ่งหมุดหมายส่งผลในภาพรวม และ 3.โครงการรถไฟดังกล่าวเข้ามาประชิดพรมแดนไทย ทำให้จีนและไทยมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/pr-news/biz2u/980954

รถไฟจีน-ลาว สร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจตั้งแต่เดือนแรก

การรถไฟจีน-ลาวให้ผลลัพธ์ที่ดีในการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนที่แล้ว นับเป็นก้าวสำคัญสำหรับการเชื่อมต่อระดับภูมิภาคและความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองประเทศและทั่วทั้งตะวันออกเฉียงใต้ เอเชีย ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าทางรถไฟระยะทาง 1,035 กม. ซึ่งเชื่อมต่อคุนหมิงในมณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนกับเวียงจันทน์เมืองหลวงของลาว รองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 670,000 คนและสินค้า 170,000 ตันภายในเดือนแรก รถไฟดังกล่าวเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการเดินทางครั้งใหม่สำหรับความร่วมมือระหว่างจีน-ลาว เนื่องจากทำให้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลแห่งนี้กำลังมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางทางบก ส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น และจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนของทั้งสองประเทศในท้ายที่สุด ซึ่งจะสามารถเพิ่มรายได้ให้แก่สปป.ลาวกว่าร้อยละ 21 ในระยะยาว

ที่มา : http://en.people.cn/n3/2022/0105/c90000-9940963.html

รถไฟจีน-ลาว เปิดดำเนินการได้ 1 เดือน เป็นที่เรียบร้อย

การรถไฟจีน-สปป.ลาว ซึ่งเปิดให้สัญจรไปเมื่อเดือนที่แล้ว รองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 670,000 คนและสินค้า 170,000 ตัน ทางด้านจีนในแต่ละวันมีจำนวนผู้โดยสารต่อวันได้เพิ่มขึ้นจากประมาณ 19,000 เป็นประมาณ 33,000 มีผู้โดยสารทั้งหมด 620,000 เดินทางในส่วนของจีนในเส้นทางเดียว รถไฟจีน-ลาวได้ให้บริการรถไฟบรรทุกสินค้า 380 ขบวน รวมถึงรถไฟขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ 70 ขบวน ซึ่งขนส่งสินค้าประมาณ 50,000 ตัน สินค้าที่ขนส่งทางรางรถไฟ ได้แก่ ยาง ปุ๋ย และของใช้ในชีวิตประจำวัน อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์จากเซลล์แสงอาทิตย์ ผลิตภัณฑ์ด้านการสื่อสาร รถยนต์ สิ่งทอ ผัก และดอกไม้ รถไฟจีน-ลาวเชื่อมต่อคุนหมิงในมณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนกับเวียงจันทน์เมืองหลวงของลาว เป็นรถไฟต่างประเทศแห่งแรกที่ทั้งสองประเทศร่วมกันสร้างและดำเนินการ โดยทางรถไฟมีระยะทาง 1,035 กม. ซึ่งเป็นโครงการสำคัญของความร่วมมือหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง คุณภาพสูง รวมถึงยุทธศาสตร์ชาติสปป.ลาวที่จะนำพาตัวเองไปสู่ศูนย์กลางการขนส่งอาเซียนและปรับเปลี่ยนตัวเองจากประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลสู่การเชื่อมต่อการขนส่งระดับภูมิภาค
ที่มา : http://en.people.cn/n3/2022/0104/c90000-9940332.html

รถไฟระหว่างประเทศจีน-ลาว (ไทย) เริ่มออกเดินทางจากฉือเจียจวง

เหอเป่ย์ทางตอนเหนือของจีน และจะเดินทางผ่านทางรถไฟจีน-ลาว และมาถึงเวียงจันทน์ (เมืองหลวงของลาว) ภายในเจ็ดวัน โดยบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ 70 ตู้ที่บรรจุยางรถยนต์ เครื่องจักร และสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน รถไฟบรรทุกสินค้าจะเปิดให้บริการสัปดาห์ละครั้งเป็นประจำ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างภูมิภาคปักกิ่ง-เทียนจิน-เหอเป่ยและกลุ่มประเทศอาเซียน
ที่มา : http://www.hebei.gov.cn/english/10718769/10756942/15293295/index.html

รัฐ เอกชน รวมพลังแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

นายกรัฐมนตรีคณะรัฐมนตรี นายกเทศมนตรีนครเวียงจันทน์ ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้แทนหน่วยงานของรัฐเข้าร่วมการประชุมร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชนในการร่วมกันสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ ปัจจุบันภาคเอกชนเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและแก้ไขปัญหาพื้นฐานที่ลาวกำลังเผชิญอยู่ ดังนั้นการเปลี่ยนแนวความคิดเกี่ยวกับภาคเอกชน ควบคู่ไปกับการปฏิรูปโครงสร้างหน่วยงานของรัฐ เป็นสิ่งสำคัญในการตอบสนองอย่างมีประสิทธิผลต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการให้บริการที่ดีขึ้นแก่พลเมืองลาวและภาคธุรกิจรวมถึงเศรษฐกิจโดยรวม ในส่วนภาครัฐนายกรัฐมนตรีได้มีการกระตุ้นให้มีความรับผิดชอบและมีส่วนร่วมในกระบวนการนี้มากขึ้น และให้มีความรับผิดชอบมากขึ้นสำหรับการให้บริการสาธารณะที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ขณะที่คณะรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้แทนหน่วยงานของรัฐต่าง ๆ ได้รับคำสั่งให้ปรับปรุงระบบการจัดเก็บรายได้ให้ทันสมัยพร้อมทั้งอุดช่องโหว่ทางการเงิน
ที่มา:https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_State_253_21.php

สภากาชาดสวิตฯ มอบเงิน 2.5 พันล้านกีบสำหรับโครงการพัฒนากาชาดสปป.ลาว

สภากาชาดสวิสได้ตกลงที่จะมอบ 241,511 ฟรังก์สวิส (ประมาณ 2.5 พันล้านกีบ) ให้กับสภากาชาดลาวสำหรับโครงการพัฒนาสังคมแห่งชาติ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสร้างขีดความสามารถของสภากาชาดลาว บันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการได้ลงนามเมื่อวันอังคารโดยตัวแทนของทั้งสองหน่วยงานที่ศูนย์ถ่ายเลือดแห่งชาติในเวียงจันทน์ ความร่วมมือระหว่างสภากาชาดลาวและกาชาดสวิสให้การสนับสนุนด้านเทคนิคและการเงินแก่การดำเนินการตามยุทธศาสตร์ของสภากาชาดลาว โดยสนับสนุนขั้นตอนและระบบการจัดการทางการเงิน และเสริมสร้างความเข้มแข็งของสภากาชาดลาว จุดมุ่งหมายหลักประการหนึ่งของโครงการนี้คือการปรับปรุงกลยุทธ์และนโยบายของสภากาชาดลาว เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยสำหรับความพยายามในการตอบสนองต่อภัยพิบัติอย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพเป้าหมายที่สองคือการพัฒนากลไกตอบสนองของสภากาชาดลาวโดยการจัดหาอุปกรณ์ที่เหมาะสมและการฝึกอบรมบุคลากรเพื่อดำเนินการตอบสนองภัยพิบัติในเวลาที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพในสามจังหวัดเป้าหมาย วัตถุประสงค์ที่สามคือการเสริมสร้างบริการสนับสนุนสังคมแห่งชาติกาชาดลาวและการระดมอาสาสมัครโดยร่วมมือกับสหพันธ์สภากาชาด
ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Swiss_251_21.php

การสำรวจสำมะโนเกษตรกร เปิดเผยเกษตรกรเข้าถึงการศึกษาในระดับต่ำ

การสำรวจสำมะโนเกษตรกรครั้งที่ 3 พบว่าการเข้าถึงการศึกษาของเกษตรกรมีน้อยลง โดยร้อยละ 28 ของเกษตรกรไม่เคยเข้าเรียนในโรงเรียน ร้อยละ 31 เรียนจบแค่ชั้นประถมศึกษา ร้อยละ 14 จบมัธยมศึกษาตอนต้น และเพียงร้อยละ 6 จบมัธยมศึกษาตอนปลายด้านผู้หญิงยังมีการศึกษาน้อยกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยผู้หญิงร้อยละ 32 ไม่เคยไปโรงเรียน สำมะโนเกษตรกรดังกล่าวดำเนินการโดยสำนักสถิติลาวและกระทรวงการวางแผนและการลงทุนโดยความร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและป่าไม้ และได้รับการสนับสนุนจากองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการรวมตัวกันของผู้เชี่ยวชาญหลายคนในด้านสถิติและการเกษตร เพื่อรับประกันความเกี่ยวข้องของข้อมูลที่ออกมา และยังเป็นการสำรวจสำมะโนการเกษตรแห่งแรกในสปป.ลาวที่ใช้โหมดการสัมภาษณ์ส่วนตัวโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการเก็บรวบรวมข้อมูลการใช้วิธีนี้แสดงถึงความพยายามของสำนักสถิติลาวและกระทรวงเกษตรและป่าไม้ในการเปลี่ยนไปใช้วิธีดิจิทัลในการรวบรวมข้อมูล ผลการสำรวจสำมะโนเบื้องต้นจะเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับรัฐบาลในการดำเนินการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและชนบทอย่างมีประสิทธิผล เพื่อปรับปรุงมาตรฐานการครองชีพในพื้นที่ชนบทข้อมูลที่ได้รับยังมีความสำคัญต่อความสำเร็จของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 9 และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนภายใต้วาระ 2030
ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Farmers250.php

ญี่ปุน มอบเงิน 8.8 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับอุปกรณ์สนามบินสปป.ลาว

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมามีการลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับ “การจัดหาอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับสนามบิน” และความช่วยเหลือแบบให้เปล่าที่กระทรวงการต่างประเทศในเวียงจันทน์โดยนาย Phoxay Khaykhamphithoune รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศและนาย Kenichi Kobayashi เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำลาว ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว รัฐบาลญี่ปุ่นจะมอบเงินช่วยเหลือจำนวน 8.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามรายงานของสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น โครงการนี้จะจัดหาอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับสนามบิน เช่น รถประจำทางเพื่อขนส่งผู้โดยสารระหว่างอาคารผู้โดยสารกับเครื่องบิน ระบบปรับอากาศในสนามบิน และสะพานขึ้นเครื่อง เงินช่วยเหลือดังกล่าวจะมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างสภาพแวดล้อมการขนส่งและการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยการปรับปรุงคุณภาพการบริการสนามบินในประเทศสปป.ลาวและเสริมสร้างความสามารถในการตอบสนองแก่ผู้ใช้บริการ อีกทั้งความช่วยเหลือของญี่ปุ่นยังเป็นสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลลาวในการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกที่สนามบินนานาชาติและส่งเสริมการเชื่อมต่อระหว่างลาวกับส่วนอื่น ๆ ในภูมิภาค
ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Japan_249.php

นายกรัฐมนตรีสปป.ลาว แนะภาครัฐและเอกชนต้องทำงานร่วมกันเพื่อเอาชนะความท้าทายในปัจจุบัน

นายกรัฐมนตรีสปป.ลาว เรียกร้องให้ภาครัฐและเอกชนกระชับความร่วมมือ เพื่อเอาชนะความท้าทายที่เกิดจากวิกฤตโควิดและเร่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ สปป.ลาวจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากศักยภาพและโอกาสผ่านโครงการทางรถไฟและทางด่วนลาว-จีน เพื่อพัฒนาโลจิสติกส์ บริการ และการท่องเที่ยว และบูรณาการเศรษฐกิจของเรากับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ด้านตัวแทน SME กล่าวว่าหน่วยงานของรัฐควรกำหนดนโยบายและกลไกที่เอื้อต่อการเติบโตของธุรกิจ ทำให้พวกเขาสามารถเข้าถึงเงินทุนเพื่อเพิ่มผลผลิต เพื่อที่พวกเขาจะได้สามารถผลิตสินค้าเพื่อการส่งออกและปรับปรุงบริการได้มากขึ้น ในช่วงหนึ่งของการประชุมนายกรัฐมนตรียังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ผู้ประกอบธุรกิจควรทบทวนการดำเนินงานและเรียนรู้วิธีนำเสนอการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้มีประสิทธิผลมากขึ้น ผู้ประกอบการจำเป็นต้องเป็นมืออาชีพและใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้นในการปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ในขณะเดียวกันควรที่จะร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อให้สามารถขยายธุรกิจของตนต่อไปได้
ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Public_248.php

จีนคาดผู้โดยสาร 1 ล้านคนโดยสารรถไฟลาว-จีน

จีนคาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางด้วยรถไฟลาว-จีนมากกว่า 1 ล้านเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีน แม้ว่าจะมีข้อจำกัดในการเดินทางก็ตามสำนักข่าวรอยเตอร์อ้างสื่อทางการจีนว่าวันตรุษจีนจะมีการเดินทางเพิ่มขึ้นตามเส้นทางรถไฟที่เชื่อมระหว่างลาวและจีน เทศกาลตรุษจีนที่จะเริ่มต้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ และเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับชาวจีน โดยในแต่ละปีมีผู้โดยสารเดินทางหลายพันล้านคน ด้านสปป.ลาวได้ประกาศว่าจะเปิดประเทศอีกครั้งเพื่อรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 มกราคม 2022 อย่างไรก็ตามแม้ว่ากฎระเบียบในปัจจุบันจะไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างจีนและสปป.ลาว แต่คุนหมิงรายงานว่ายอดขายตั๋วเพิ่มขึ้น นับตั้งแต่การรถไฟลาว-จีนเปิดเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม มีผู้โดยสารมากกว่า 300,000 คนเดินทางบนเส้นทางรถไฟสายจีน รวมทั้งบริการขนส่งสินค้าทำการเดินทางข้ามพรมแดน โดยสินค้ามูลค่ากว่า 16 ล้านเหรียญสหรัฐได้ถูกขนส่งระหว่างลาวและจีนในวันพุธ

ที่มา : https://laotiantimes.com/2021/12/17/china-expects-1-million-passenger-trips-on-laos-china-railway/