Covid-19 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมตัดเย็บเสื้อผ้าในกัมพูชากว่า 130 แห่ง

อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มและรองเท้าของกัมพูชาได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการระบาดของ COVID-19 อย่างต่อเนื่องกับการส่งออกที่ได้รับผลกระทบในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกล่าวว่ามีโรงงานถึง 130 โรงงานที่ยื่นขอให้ระงับการผลิตและส่งผลกระทบต่อแรงงานกว่า 100,000 ราย ซึ่งสำหรับไตรมาสที่สองของปีนี้การส่งออกเสื้อผ้าและรองเท้าจะลดลง 50 ถึง 60% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยในปัจจุบันกัมพูชายังไม่ได้รับคำสั่งซื้อใดๆ จากผู้ซื้อในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนรวมถึงในอนาคตอันใกล้ ซึ่งสามารถสรุปได้ว่าการส่งออกเสื้อผ้าและรองเท้าจะได้รับผลกระทบอย่างหนักในไตรมาสที่สองของปีนี้ สหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางการตลาดหลักสำหรับการส่งออกเสื้อผ้าของกัมพูชาได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ CoVid-19 ด้วย โดยรัฐบาลและเจ้าของโรงงานตกลงที่จะให้ค่าจ้างขั้นต่ำ 70 เหรียญสหรัฐต่อเดือนสำหรับพนักงานที่ถูกระงับแต่ละราย ซึ่งรัฐบาลให้เงินสนับสนุน 40 เหรียญสหรัฐส่วนที่เหลืออีก 30 เหรียญสหรัฐจะเป็นภาระของเจ้าของโรงงาน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50717977/coronavirus-takes-its-toll-on-garment-industry-with-130-factories-suspending-operations-affecting-100000-workers/

กัมพูชาบันทึกการไหลเข้าของ FDI เพิ่มขึ้น 21% ในภาคอสังหาริมทรัพย์

การไหลเข้าของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเข้าสู่ภาคอสังหาริมทรัพย์ (รวมอสังหาริมทรัพย์และคอนโดมิเนียมทุกประเภท) ในกัมพูชามีมูลค่ามากกว่า 437.3 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2562 ตามข้อมูลจากรายงานNBC’s Annual Banking Supervision Report 2019 ในบรรดาการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เข้าสู่ภาคอสังหาริมทรัพย์จีนมีการลงทุนมากสุดในกัมพูชา คิดเป็นส่วนแบ่งประมาณ 58.8% (หรือมากกว่า 262 ล้านเหรียญสหรัฐ) จาก FDI ทั้งหมดตามมาด้วยสิงคโปร์ 15.2% จากสหรัฐ 53.5 ล้านเหรียญสหรัฐ, เกาหลีใต้ 27.25 ล้านเหรียญสหรัฐ, ญี่ปุ่น 15.5 ล้านเหรียญสหรัฐ และจากประเทศอื่นๆ 19.5 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยสินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เช่น การก่อสร้างและการจำนองส่วนบุคคล โดยการเติบโตของสินเชื่อสำหรับการจำนองอยู่ที่ 41.7%

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50717905/cambodia-logged-21-percent-increase-in-inflow-of-fdi-into-the-real-estate-sector-in-2019/

ธนาคารกลางเมียนมาลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ในรอบปี

ธนาคารกลางของเมียนมา (CBM) ลดอัตราดอกเบี้ยอีก 1.5% เป็นครั้งที่ 3 เมื่อ 27 เมษายน 63 ที่ผ่านมา เนื่องจากการระบาดของ COVID-19  CBM ปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก 0.5 % ในวันที่ 12 มีนาคม ครั้งที่สองในวันที่ 24 มีนาคม และวันที่ 27 เมษายน 63 รวมเป็น 3% ภายในสองเดือน การลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวคาดว่าจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้กู้และช่วยผลักดันเศรษฐกิจ

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/central-bank-cuts-interest-rates-again.html

ลงนามความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระบบการเงินดิจิตอล

เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2020 ที่ผ่านมา ณ สำนักงานใหญ่ บริษัท Star Telecommunications ได้มีการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือระหว่างธนาคารร่วมทุนลาว – ​​เวียดนามและบริษัท StarTelTraining Limited โดยจุดประสงค์ของการลงนามความร่วมมือครั้งนี้เพื่อการบริการด้านการเงินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะมีการพัฒนาระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการ ความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยสร้างรากฐานที่ดีสำหรับอนาคตของระบบการเงินแบบดิจิทัลที่จะมีส่วนอย่างมากในการเข้ามาพฤติกรรมการใช้จ่ายและการทำธุรกรรมการเงินภายในของประเทศ ปัจจุบันระบบการเงินดิจิตอลเข้ามามีบทบาทในแต่ละภาคส่วนของสปป.ลาวอย่างมากทั้งด้านการชำระภาษีที่ทำได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นยังรวมถึงการชำระภาษีศุลกากรที่ทำให้ขั้นตอนต่างๆทำได้สะดวกและเร็วขึ้นเอื้อประโยชน์ในด้านการค้าอย่างมาก ทั้งนี้ในอนาคตจะยังคงมีการวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เหมาะกับยุคของการเปลี่ยนแปลงเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการให้บริการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

ที่มา : https://laoedaily.com.la/2020/04/27/77145/

ยอดผู้ติดเชื้อCOVID-19 ของสปป.ลาวจนถึงขณะนี้ยังไม่มีกรณีขพบผู้ป่วยรายใหม่

เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2563 ที่หน่วยปฏิบัติการปฏิบัติงานของกระทรวงสาธารณสุข COVID-19 กระทรวงสาธารณสุขจัดแถลงข่าวรายงานสถานการณ์ของ COVID-19 ในการแถลงมีใจความสำคัญถึงยอดผู้ติดเชื้อและมาตราการต่างๆที่ยังคงต้องดำเนินต่อไป ดร. รัตนเกตุพันธุ์ ผู้อำนวยการกรมควบคุมโรคติดเชื้อกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า “เราจะไม่ลดมาตรการเฝ้าระวังเพื่อระบุผู้ต้องสงสัยที่ติดเชื้อและสำหรับผู้ที่เดินทางข้ามชายแดนใหม่จะต้องดำเนินมาตรการจากประเทศต้นเคร่งครัดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด” นอกจากนี้ตามจังหวัดและรอยต่อพรหมแดนต่างๆ ยังมีการขยายระยะการ Lockdown ออกไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคมเพื่อให้มั่นใจว่าสปป.ลาวจะไม่กลับมาติดเชื้อรอบใหม่เพราะหากเกิดการแพร่เชื้อรอบใหม่จะสร้างผลกระทบที่รุนแรงแก่ระบบสุขภาพและเศรษฐกิจของสปป.ลาว

ที่มา : https://laoedaily.com.la/2020/04/27/77144/

กัมพูชาส่งออกไปยังไทยเพิ่มขึ้น 115%

การส่งออกของกัมพูชาไปยังประเทศไทยพุ่งสูงขึ้นในช่วงสามเดือนแรกของปีนี้แม้ว่าทั้งสองประเทศจะมีการขนส่งที่เข้มงวดมากขึ้นสำหรับการค้าข้ามพรมแดนเนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคมปีนี้การส่งออกทั้งหมดของกัมพูชาไปยังประเทศเพื่อนบ้านมีมูลค่า 612 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 115% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยข้อมูลจากทางการของกระทรวงพาณิชย์ของกัมพูชาระบุว่ากัมพูชานำเข้าสินค้า 1,891 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบเป็นรายปี ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาเพิ่มขึ้นร้อยละ 31 ในช่วงสามเดือนแรกเป็น 2,503 ล้านดอลลาร์ ซึ่งการค้าทวิภาคีที่เพิ่มขึ้นระหว่างสองประเทศสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสองประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลต่อรัฐบาล โดยเป็นสินค้าเกษตรเป็นส่วนใหญ่ของการส่งออกของกัมพูชาไปยังประเทศไทยในขณะที่การส่งออกของไทยไปยังกัมพูชาส่วนใหญ่ประกอบด้วยแหล่งพลังงาน ปุ๋ยการเกษตร ปูนซีเมนต์ อาหารและเครื่องสำอาง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50717339/cambodias-exports-to-thailand-soar-115-percent/

ตลาดหลักทรัพย์กัมพูชายังคงเติบโตภายใต้การระบาดของ Covid-19

ตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา (CSX) ดูดีในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาแม้จะมีการระบาดทั่วโลกของไวรัส Covid-19 โดยดัชนี CSX ดีดตัวขึ้นสูงสุดที่ 700 จุด ตามข้อมูลภายในระยะเวลาสองเดือนดัชนีได้แสดงความผันผวนอย่างมีนัยสำคัญเริ่มลดลงจาก 704.74 จุดในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์จนกระทั่งอยู่ที่ประมาณ 590 จุดในช่วงต้นเดือนเมษายน นับตั้งแต่กลางเดือนเมษายนที่ผ่านมามีการเติบโตที่แข็งแกร่งจนกระทั่งฟื้นตัวกลับมาเป็น 703.24 จุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา การเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นของ PWSA, GTI และ PAS นั้นเพิ่มขึ้น 2.51% โดยมีระดับสูงถึง 6,000 riels, 4,000 riels และ 17,540 riels ตามลำดับจากข้อมูลของ CSX โดยมองว่าหลังจากการระบาดของ COVID-19 สิ้นสุดลงจะส่งผลทำให้ราคาหลักทรัพย์ในตลาดเพิ่มขึ้นอีก ขณะนี้มี 5 บริษัท ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ คือ Sihanoukville Autonomous port, Phnom Penh Special Economic Zone, Phnom Penh Autonomous Port, Grand Twin International Cambodia and Phnom Penh Water Supply Authority.

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50717297/securities-market-grows-despite-the-pandemic/

เวียดนามเผยยอดลงทุน FDI 12.33 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ใน 4 เดือนแรก

กรมส่งเสริมการลงทุนระหว่างประเทศ (FIA) กระทรวงการวางแผนและการลงทุนเวียดนาม เปิดเผยว่ามูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศไปยังเวียดนาม 12.33 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ลดลงร้อยละ 14.5 เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ตามตัวเลขดังกล่าว ยังสูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 2561 และ 2560 ซึ่งในช่วง 4 เดือนแรกนี้ มีโครงการลงทุนจากต่างชาติ 984 โครงการ ด้วยเงินทุนจดทะเบียนรวม 6.78 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 9 สำหรับจำนวนโครงการ แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 27 สำหรับมูลค่าเมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะเดียวกัน นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นราว 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 65 เมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งนี้ สิงคโปร์ยังเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 41 หรือมูลค่า 5.07 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาจีน ไต้หวันและเกาหลีใต้ ตามลำดับ ในขณะที่ เมืองบักเลียวได้รับเม็ดเงินลงทุน FDI สูงสุด รองลงมาฮานอยและบิ่ญเซือง ตามลำดับ นอกจากนี้ ผลของการศึกษาสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดว่าเม็ดเงินลงทุน FDI จะลดลงต่ำกว่า 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีนี้ หากไวรัสยังคงดำเนินต่อไปในช่วงครึ่งหลังของปี

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/715866/viet-nams-fdi-hits-1233-billion-in-the-first-4-months.html

JETRO : เผยธุรกิจต่างชาติชื่นชมการปรับปรุงนโยบายการค้าของเวียดนาม

รองประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) กล่าวว่าผู้ประกอบการต่างชาติชื่นชมความพยายามในการปรับปรุงนโยบายการค้าระหว่างประเทศของเวียดนาม อย่างใกล้ชิดกับแนวโน้มโลก จากการสัมภาษณ์กับสำนักข่าวเวียดนาม (VNA) ระบุว่าเวียดนามได้ลงนามข้อตกลงการค้าเสรีกับสหรัฐฯ และเข้าร่วมองค์การค้าโลก รวมถึงข้อตกลง CPTPP ขณะที่ เศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากนโยบายปฏิรูป ‘โด่ยเหมย’ ในปี 1986 ทั้งนี้ GDP ของเวียดนาม เพิ่มขึ้นจาก 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 1986 มาอยู่ที่ 245 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2018 นับว่าเป็นอัตราเติบโตสูงสุดในอาเซียน การเติบโตดังกล่าวส่วนหนึ่งมาจากการดึงดูดผู้ประกอบการต่างชาติและการส่งออกขยายตัว นอกจากนี้ ผลการสำรวจของเจโทรเมื่อปีที่แล้ว เกี่ยวกับการดำเนินงานของธุรกิจญี่ปุ่นในเอเชียและโอเชียเนีย ระบุว่าธุรกิจญี่ปุ่นส่วนใหญ่ร้อยละ 63.9 วางแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังเวียดนาม สำหรับความคิดเห็นดีที่สุดนั้น เป็นเรื่องของขนาดตลาดและศักยภาพในการเติบโตของตลาด พร้อมกับความมั่งคงทางสังคมและการเมือง

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/jetro-vice-chairman-foreign-firms-laud-vietnams-improving-global-trade-policies/172418.vnp