เวียดนามเผยยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 11.5% ในเดือนม.ค. – ส.ค.

จากข้อมูลของสำนักงานสถิติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2562 ยอดค้าปลีกของเวียดนามเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว คิดเป็นมูลค่าของรายได้จากการค้าปลีกและบริการประมาณ 137.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความต้องการซื้อของคนในท้องถิ่นเพิ่มขึ้น หากมีการปรับปัจจัยด้านราคา ดัชนียอดค้าปลีกในช่วง 7 เดือนแรก  เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.03 ซึ่งสูงกว่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่ ทุกภาคส่วนของยอดค้าปลีก ระบุว่าด้านกำลังซื้อเพื่อการศึกษา และผลิตภัณฑ์วัฒนธรรม เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา รองลงมากลุ่มอาหาร (เพิ่มขึ้น 13.6%) ของครัวเรือน (11%) เครื่องนุ่งห่ม (10.5%) และการขนส่ง (8.5%) นอกจากนี้ จากข้อมูลของสถาบันวิจัยการตลาด คาดว่าตลาดค้าปลีก/ร้านสะดวกซื้อของเวียดนามจะมีอัตราการเติบโตกว่า 2 เท่า ในอีก 3 ปีข้างหน้า และอัตราการขยายตัวร้อยละ 37.4 ในปี 2021 รวมไปถึงสำนักงานการลงทุนต่างประเทศ ระบุว่าภาคการค้าปลีก/ค้าส่ง ติดอยู่ในอันดับที่ 3 ของภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับการดึงดูดจากการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/retail-sales-up-115-percent-in-januaryaugust/159849.vnp

FDI ในภาคโรงแรมและการท่องเที่ยวของย่างกุ้งสูงกว่า 230 ล้านเหรียญสหรัฐ

คณะทำงานด้านการท่องเที่ยวภูมิภาคย่างกุ้งได้อนุญาตให้ก่อสร้างโรงแรมและเกสต์เฮาส์ 21 แห่งมีมูลค่าลงทุนรวม 238.29 ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงสี่เดือนได้ออกใบอนุญาตโรงแรม 33 ฉบับ ใบอนุญาตโรงแรมชั่วคราวหนึ่งใบ อนุญาตเกสต์เฮาส์ 8 ใบ อนุญาตสำหรับการก่อสร้างโรงแรม 18 แห่งจำนวน 2,136 ห้อง ใบอนุญาติก่อสร้างเกสต์เฮาส์ 3 แห่ง ใบอนุญาตทัวร์ขาเข้า 276 ใบ ใบอนุญาตทัวร์ขาออก 121 ใบและใบอนุญาตไกด์นำเที่ยว 218 ใบ การลงทุนรวมสูงถึง 114,924 ล้านจัตและ 238.29 ล้านเหรียญสหรัฐและสามารถสร้างงานใหม่ถึง 2,691 ตำแหน่ง ย่างกุ้งคิดเป็น 70% ของการลงทุนทั้งหมดในภาคโรงแรมและการท่องเที่ยว ในช่วงปลายเดือน ส.ค.อนุญาตให้มีการลงทุนรวม 26,674 ล้านจัต สามารถสร้างงานได้ถึง 335 อัตรา

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/total-fdi-at-hotel-and-tourism-sector-in-yangon-hits-over-230-m-usd

นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาเมียนมาเพิ่มขึ้น

รายงานของกระทรวงแรงงาน นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาเมียนมามากขึ้นหลังยกเลิกวีซ่าและเพิ่มตารางเที่ยวบินใหม่ระหว่างเมืองต่างๆ ในจีนและย่างกุ้ง พบว่าเจ็ดเดือนแรกของปี 62 เพิ่มขึ้น 151% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วคิดเป็นเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 80% และญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แบ่งนักท่องเที่ยวจีน 380,000 คน นักท่องเที่ยวญี่ปุ่น 69,000 คนและนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ 67,000 คน จากประกาศของกระทรวงการโรงแรมและการท่องเที่ยว เมียนมากมีแผนที่จะออกวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจากอิตาลี สเปน ออสเตรเลีย สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี และรัสเซียในวันที่ 1 ต.ค. เป็นระยะเวลาหนึ่งปีเพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/more-chinese-tourists-visit-myanmar

การประชุมคณะทำงานด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาชนบท

การประชุมคณะทำงานด้านการเกษตรและการพัฒนาชนบท (SWG-ARD) ได้สนับสนุนการประสานงานและการดำเนินการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (NSEDP) และความสำเร็จของ SDGs ที่เกี่ยวข้องกับภาคส่วน ที่ประชุมได้มีการดำเนินการอย่างมีนัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับภาคส่วนภายใต้ SWG-ARD และประเด็นที่เกิดขึ้นใหม่ เช่นหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุดและโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร รวมถึงการสำรวจสำมะโนประชากรด้านการเกษตรที่นำไปสู่การกำหนดแผนพัฒนาการเกษตรและป่าไม้ 5 ปีข้างหน้า นโยบายและการจัดการเพื่อสนับสนุนผู้ถือหุ้นรายย่อยเพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางชีวภาพที่ใกล้เข้ามา เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านลบต่อการดำรงชีวิตในชนบทเป็นสิ่งจำเป็นอย่างเร่งด่วน มันเป็นเวลาที่ดีในการเปลี่ยนแปลงการเกษตรจากกิจกรรมการยังชีพเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและ FAO พร้อมที่จะสนับสนุนรัฐบาลและประชาชนของสปป.ลาวในการบรรลุเป้าหมายนี้

ที่มา : http://kpl.gov.la/En/Detail.aspx?id=47907

สปป.ลาว, ฮังการีเตรียมยกเลิกวีซ่าการทูตร่วมกัน

สปป.ลาวและฮังการีจะยกเลิกข้อกำหนดวีซ่าสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทางการทูตหรือผู้ให้บริการของตน ณ วันที่ 9 กันยายน อนุญาตให้ผู้ถือหนังสือเดินทางจากทั้ง 2 ประเทศอยู่ในประเทศเจ้าบ้านได้เป็นระยะเวลา 90 วันโดยไม่ต้องมีวีซ่า ผู้ถือหนังสือเดินทางในหมวดหมู่นี้จะต้องไม่อยู่เกินกว่าระยะเวลา 90 วันที่อนุญาต แต่อาจเข้าประเทศอีกครั้งหลังจากอยู่นอกประเทศเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อให้มีคุณสมบัติในการสละสิทธิ์วีซ่าและหนังสือเดินทางจะต้องมีอายุอย่างน้อย 6 เดือนนับจากวันที่ผู้ถือออกจากประเทศ ภายใต้ข้อตกลงพลเมืองของทั้งสองประเทศไม่ว่าจะเป็นสมาชิกของสถานทูต สถานกงสุลหรือผู้แทนขององค์กรระหว่างประเทศที่จะต้องยื่นขอวีซ่าในรูปแบบที่เหมาะสม ซึ่งคู่สมรสและบุตรของผู้ถือหนังสือเดินทางจะต้องทำเช่นเดียวกัน

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos.php

กัมพูชาจะกลายเป็นฐานการผลิตที่สำคัญสำหรับ บริษัทจักรยานของสหรัฐฯ

Ken International เป็นผู้ผลิตจักรยานจากสหรัฐกล่าวว่ากัมพูชาจะกลายเป็นฐานการประกอบและฐานการผลิตที่สำคัญในไม่ช้า โดยบริษัทผลิตจักรยานในปีที่แล้วถึง 3 ล้านคัน ซึ่งบริษัทกำลังสร้างโรงงานผลิตจักรยานใกล้กับกรุงพนมเปญบนพื้นที่ถึง 40,000 ตารางฟุต เป็นการร่วมลงทุนกับ Shanghai General Sports โดยจะเสร็จสมบูรณ์ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งปีที่แล้วกัมพูชาส่งออกจักรยาน 1.5 ล้านคัน ไปยังสหภาพยุโรปมูลค่ารวมถึง 331 ล้านเหรียญสหรัฐตามรายงานจากธนาคารโลก ทำการแซงไต้หวันในส่วนของการเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานที่ใหญ่ที่สุดในตลาดสหภาพยุโรป นอกจากนี้ Trek Bicycle ของสหรัฐฯ ประกาศว่ามีแผนที่จะย้ายการผลิตจักรยานอย่างน้อย 2 แสนคัน จากจีนมายังกัมพูชาในปีนี้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/639577/kingdom-to-become-a-key-manufacturing-base-for-us-bike-firm/

การลดลงของนักท่องเที่ยวในเสียมราฐไม่ได้เป็นสาเหตุของความกังวล

นายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าการลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยวในเมืองเสียมเรียบ ซึ่งไม่ควรเป็นสาเหตุที่น่ากังวลแนะให้ดูภาพรวมโดยสังเกตว่าจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศโดยรวมมากขึ้น โดยมีการชะลอตัวเล็กน้อยในจำนวนนักท่องเที่ยวในเสียมราฐ เพราะตอนนี้กัมพูชามีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ เป็นทางเลือกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจากศูนย์โบราณคดีอังกอร์และแถบชายฝั่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้นรวมถึงจังหวัดกัมปอต, แกบ, เกาะกง, รัตนคีรีและมณฑปคีรี โดยจากรายงานล่าสุดของกระทรวงการท่องเที่ยวระบุว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจากเสียมเรียบตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายนลดลง 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ภาพรวมของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในกัมพูชาเพิ่มขึ้นถึง 11.2% คิดเป็นจำนวน 3.3 ล้านคน ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งเมื่อปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึง 6.2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10.7% โดยคาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวถึง 7 ล้านคน ในปี 2563 สร้างรายได้ให้แก่ประเทศ 4.3 พันล้านเหรียญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50639576/pm-says-fall-in-siem-reaps-tourist-numbers-not-a-cause-for-concern/

การศึกษาความเป็นไปได้ของกรุงพนมเปญในการเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์

ธนาคารพัฒนาเอเชียได้เริ่มศึกษาความเป็นไปได้สำหรับศูนย์โลจิสติกส์ในกรุงพนมเปญ โดยศูนย์โลจิสติกส์ของกรุงพนมเปญเป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บทด้านโลจิสติกส์ของรัฐบาลกัมพูชาจะได้รับการพัฒนาในรูปแบบการเป็นหุ้นส่วนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งหลังจากการประชุมหารือระหว่างกระทรวงคมนาคมและ ADB โดยกระทรวงได้ออกมาแถลงว่าการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจในกัมพูชาต้องการการพัฒนาด้านโลจิสติกส์ในกรุงพนมเปญและในเขตเมืองอื่นๆ  ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้า ทำให้กัมพูชาตอบสนองต่อการลงทุนในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยทางกระทรวงกล่าวว่ากัมพูชาจะกลายเป็นที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาคเอเซียเมื่อพูดถึงเรื่องโลจิสติกส์และการขนส่ง

ที่มา: https://www.khmertimeskh.com/50639291/feasibility-study-for-phnom-penh-logistics-centre-underway/

CDC อนุมัติโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในกำปงชนังและโพธิสัตว์

สภาเพื่อการพัฒนาของกัมพูชา (CDC) ได้อนุมัติการลงทะเบียนของโครงการสวนพลังงานแสงอาทิตย์ในจังหวัดกำปงชนังและโพธิสัตว์ โดยโซล่าฟาร์มทั้งสองแห่งเป็นการลงทุนของ บริษัท Schneitec Sustainable แต่ละแห่งจะมีความจุอยู่ที่ 60 MW และมีต้นทุนในการสร้าง 58 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งแห่งแรกจะสร้างขึ้นในเขต Krakor ในจังหวัด โพธิสัตว์จะเริ่มดำเนินการในเดือนเมษายนปีหน้า และแห่งที่สองจะตั้งอยู่ในเมือง Teuk Phos ของกำปงชนัง โดยจะเริ่มจ่ายไฟได้ในปลายปี 2020 แต่รัฐบาลยังได้เพิ่มการนำเข้าพลังงานจากประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มอีกด้วย  ซึ่งกัมพูชามีสวนพลังงานแสงอาทิตย์สองแห่งคือ โรงงานขนาด 10 MW ในเมือง Bavet ของเมืองสวายเรียง และสวนพลังงานแสงอาทิตย์ 80 MW ในเขต Oudong ของเมืองกำปงสปือ โดย Keo Ratanak อธิบดี EDC กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วกัมพูชาผลิตไฟฟ้าอย่างน้อย 390 MW หรือประมาณ 15% ของพลังงานทั้งหมดจากโซล่าฟาร์มในปีหน้า ซึ่งเมื่อปีที่แล้วกัมพูชาใช้พลังงานไป 2,650 MW เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ที่มา: https://www.khmertimeskh.com/50639293/cdc-approves-solar-parks-in-kampong-chhnang-and-pursat/

สปป.ลาวเปลี่ยนการท่องเที่ยวให้กลายเป็นเสาหลักทางเศรษฐกิจ

สปป.ลาวคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 4.5 ล้านคนในปีนี้และจะได้รับรายได้เกือบ 8 ล้านดอลลาร์ รัฐบาลได้ดำเนินโครงการพัฒนารวมถึงการเพิ่มและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้วยการลงทุนในประเทศและต่างประเทศการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและข้อเสนอทางวัฒนธรรมที่หลากหลายมากขึ้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ชี้ให้เห็นว่าการออกวีซ่าอิเล็กทรอนิกส์ที่ท่าอากาศยานนานาชาติวัตไตและสะพานมิตรภาพไทย-สปป.ลาว 1 เปิดใช้งานในระดับทดลองเพื่อใช้กลไกนี้ทั่วประเทศ ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวสปป.ลาวที่มากที่สุดมาจากประเทศไทย (เกือบครึ่งหนึ่งของทั้งหมด) เวียดนามและจีน (มากกว่า 800,000 ต่อปีในแต่ละกรณี) อีกทั้งเจ้าหน้าที่วางแผนที่จะทำสิ่งที่จะเพิ่มตัวเลขเหล่านี้ โดยมองไปที่อเมริกาและยุโรปซึ่งตลาดหลักคือสหรัฐอเมริกาและฝรั่งเศสมีผู้เข้าชมประมาณ 50,000 และ 40,000 คนตามลำดับ

ที่มา: https://www.plenglish.com/index.php?o=rn&id=46475&SEO=laos-to-turn-tourism-into-a-pillar-of-its-economy