รัฐบาลพยายามลดค่าผ่านทางในแขวงจำปาสัก

ภาครัฐและผู้รับเหมาหลายภาคส่วนกำลังหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการปรับลดค่าผ่านทางสำหรับการใช้ถนนสายหลักในแขวงจำปาสัก ผู้ว่าการจังหวัดจำปาศักดิ์กล่าวว่ารัฐบาลกำลังพยายามหาทางแก้ไขปัญหาที่ถกเถียงกันภายในสิ้นปีนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดผลกระทบจากค่าผ่านทางที่มีต่อผู้ขับขี่ในพื้นที่ ผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวได้ร้องเรียนเกี่ยวกับค่าผ่านทางที่กำหนดให้ใช้ถนนเหล่านี้โดยกล่าวว่าการเรียกเก็บเงินนั้นไม่ยุติธรรมและพวกเขาไม่มีเส้นทางอื่นจึงถูกบังคับให้ต้องจ่าย โดยการหารือเกี่ยวกับแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ได้สรุปแนวทางแก้ไขที่เป็นไปได้ 3 ประการ ประการแรกคือการลดอัตราค่าผ่านทาง ประการที่สองรัฐบาลสามารถหาเงินทุนจากแหล่งต่างๆเพื่อซื้อโครงการจากผู้รับเหมาแล้วลดอัตราค่าผ่านทาง ประการที่สามรัฐบาลอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าสำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ประสบความยากลำบากโดยต้องจ่ายค่าผ่านทางเป็นประจำ สามารถออกบัตรให้กับกลุ่มคนเหล่านี้ได้โดยอนุญาตให้จ่ายน้อยลงและช่วยลดภาระทางการเงิน แม้ว่ารัฐบาลจะดำเนินการแก้ไขปัญหานี้ แต่ค่าผ่านทางจะยังคงอยู่แม้ว่าจะมีแนวโน้มลดลงก็ตาม

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt_7.php

ผู้บริโภคชาวสปป.ลาวยังคงชื่นชอบผลผลิตทางการเกษตรที่นำเข้าจากพื่อนบ้าน

รัฐบาลสปป.ลาวยอมรับว่าชาวสปป.ลาวยังคงนิยมสินค้าเกษตรที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านมากกว่าผลผลิตที่ปลูกเองในประเทศ ตามรายงานของ Lao Post ผู้บริโภคชาวสปป.ลาวยังคงชื่นชอบผลไม้และผักบางชนิดที่นำเข้าจากประเทศไทย เวียดนามและจีนเนื่องจากผู้บริโภคยังคงมีความเชื่อว่าคุณภาพของสินค้านำเข้าสูงกว่าผลผลิตที่ปลูกในประเทศ จากความเชื่อเช่นนี้จึงมักมีการนำเข้าสินค้าทางการเกษตรอย่างผิดกฎหมายหรือลักลอบเข้าประเทศ Mr.Oudone Xaymounty รองหัวหน้าสภาประชาชนนครหลวงเวียงจันทน์กล่าวว่า  “ในช่วงหลายปีมานี้ความต้องการสินค้าเกษตรที่ปลูกในสปป.ลาวไม่เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศทำให้ต้องนำเข้าสินค้ปริมาณมากจากประเทศเพื่อนบ้าน” อย่างไรก็ตามรัฐบาลกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อสนับสนุนภาคการเกษตรหลังจากการแพร่ระบาดอย่างหนักของ COVID-19 ทำให้รัฐบาลเร่งพัฒนาและให้ความสำคัญกับภาคเกษตรมากขึ้นเพราะเป็นจะเป็นแหล่งสำคัญในการสร้างความมั่นคงด้านอาหารแก่ประเทศ

ที่มา : https://laotiantimes.com/2021/01/11/lao-consumers-still-favor-imported-agricultural-produce/

หน่วยงานรัฐบาลสปป.ลาวเร่งศึกษาวิธีการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน

หน่วยงานภาครัฐได้รับคำสั่งให้ศึกษากลไกและแนวทางในการดำเนินนโยบายแปลงสินทรัพย์เป็นทุนเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติมากขึ้น การเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลโดยมีเป้าหมายเพื่อลดภาระหนี้ที่พวกเขาก่อขึ้นจากการดำเนินกิจการรัฐวิสาหกิจ นอกจากนี้ในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัดได้หารือเกี่ยวกับผลกระทบของการระบาดของโรคโควิด -19 ต่อเศรษฐกิจ วิกฤตดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการส่งออกการท่องเที่ยวและภาคบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทำให้รายได้ของ บริษัท และครัวเรือนหดตัว แม้จะมีความท้าทายที่น่ากลัว แต่รัฐบาลก็พยายามที่จะสร้างความมั่นใจให้กับการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยทางสังคมเพื่อให้ประชาชนสามารถหาเลี้ยงชีพและลดความยากจนได้

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt_6.php

สปป.ลาวจะส่งออกข้าว 2,000 ตันไปยังจีนตามโควต้าที่ได้รับ

สปป.ลาวมีแผนส่งข้าวขัดมัน 2,000 ตันไปยังจีนในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงโควต้าการค้าระหว่างรัฐบาลสปป.ลาวและจีน จากรายงานเวียงจันทน์ไทมส์เมื่อวันพุธ (6 ม.ค. ) โดยอ้างจากกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ของสปป.ลาว ข้อตกลงการค้าข้าวขัดมันของสปป.ลาวกับจีนจะบรรลุเป้าหมายทั้งหมดภายในสิ้นปี 2564 ถึงแม้จะมีความท้าทายจากการระบาดของโรคโควิด -19 ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันจีนเป็นตลาดส่งออกข้าวที่ใหญ่ที่สุดสำหรับสปป.ลาว รายได้ของสปป.ลาวจากการส่งออกข้าวขัดมันไปยังจีนจากกรอบความร่วมมือดังกล่าวช่วยทำให้มูลค่าการค้าเพิ่มขึ้นในช่วงหลายๆปีที่ผ่านมา

ที่มา : https://www.thestar.com.my/aseanplus/aseanplus-news/2021/01/07/laos-to-export-2000-tonnes-of-rice-to-china-in-january

ผู้มาเยือนหลวงพระบางลดลงกว่า 584,380 คน ในปี 2563

เมืองหลวงพระบางมีนักท่องเที่ยวเพียง 257,647 คนในปี 63 ลดลง 68 % ในปี 62 เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด -19 ซึ่งเป็นชาวต่างชาตติจำนวน 142,435 คนและเป็นชาวสปป.ลาว 133,212 คน โดยรวม 257,647 คน ลดลง 584,380 คนจาก 860,035 คนที่มาเยี่ยมชมเมืองในปี 62 ในปี 61 หลวงพระบางได้นำเสนอในหัวข้อการท่องเที่ยว“ 52 สถานที่ที่ต้องไป” ของ New York Times ซึ่งจุดประกายความสนใจของนักท่องเที่ยวในสปป.ลาวมากขึ้น และยังอยู่ในอันดับที่ 11 ในรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยว 20 อันดับแรกของ Architectural Digest ประจำปีในปี 62 ย่านเมืองเก่าของเมืองนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 2538 โดยยูเนสโก ซึ่งระบุว่าสถาปัตยกรรมของเมืองนี้มีความสำคัญทางวัฒนธรรมและควรค่าแก่การคุ้มครองโดยองค์การสหประชาชาติ เมืองหลวงพระบางมีโรงแรมและรีสอร์ท 97 แห่งเกสต์เฮาส์ 394 แห่งร้านอาหาร 421 แห่งและ บริษัท ทัวร์ 97 แห่ง มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการกำหนดอย่างเป็นทางการมากมายรวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ 111 แห่งสถานที่น่าสนใจทางวัฒนธรรม 78 แห่งและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ 39 แห่ง ทั้งนี้จำนวนนักท่องเที่ยวไม่เพียงแต่ในหลวงพระบางเท่านั้น แต่ยังลดลงทั่วประเทศเนื่องจากข้อ จำกัด การเดินทางทั่วโลกซึ่งเป็นผลมาจากการแพร่ระบาด

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Visitors5.php

การก่อสร้างสะพานแห่งที่ 5 ที่เชื่อมระหว่างสปป.ลาวและไทย

การก่อสร้างสะพานแห่งที่ 5 ที่เชื่อมระหว่างสปป.ลาวและไทยข้ามแม่น้ำโขงได้เริ่มขึ้นหลังจากมีการลงนามในข้อตกลงในเดือนธ.ค. จะใช้เวลาสร้าง 36 เดือนจะเชื่อมแขวงบอลิคำไซในสปป.ลาวกับจังหวัดบึงกาฬของไทย ขณะนี้งานมีศูนย์กลางอยู่ที่บริเวณที่จะสร้างสะพานและสถานที่ตรวจคนเข้าเมือง กำลังเคลียร์ที่ดินบนพื้นที่ 50 เฮกเตอร์ก่อนที่จะเริ่มการก่อสร้างและตอนนี้งานนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว 80% ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างทั้งหมดประมาณ 130.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสปป.ลาวจะต้องรับผิดชอบบางส่วน 46.13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต้นทุนการก่อสร้างของสปป.ลาวจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศเพื่อนบ้านของไทยผ่านการจัดหาเงินกู้ เมื่อสะพานสร้างเสร็จในปี 66 จะช่วยให้แขวงบอลิคำไซกลายเป็นศูนย์กลางการค้าในภูมิภาคอีกแห่งและเป็นเส้นทางขนส่งสำหรับสปป.ลาว ไทยและเวียดนามในระยะทางเพียง 150 กม. สะพานดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงและยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี – เจ้าพระยา – แม่โขง ระหว่างสปป.ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ เวียดนามและไทย จะทำให้สปป.ลาวได้รับประโยชน์จากบริการขนส่งสาธารณะรวมทั้งดึงดูดการค้าและการลงทุนมากขึ้น รวมถึงการเพิ่มขึ้นของการท่องเที่ยว แต่ทางการจำเป็นต้องจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมและปรับปรุงบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้มาเยือน

ที่มา : https://www.straitstimes.com/asia/construction-of-fifth-lao-thai-bridge-begins

สปป.ลาวจะเริ่มฉีดวัคซีน COVID-19 แก่กลุ่มเป้าหมายถัดไปในสัปดาห์หน้า

หลังจากที่สปป.ลาวได้เริ่มฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 100 คนและไม่มีผลข้างเคียงทำให้สปป.ลาวมีแผนที่จะเริ่มฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มเป้าหมายถัดไปคือกลุ่มเจ้าหน้าที่การแพทย์ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงมีโอกาสที่จะได้รับเชื้อสูง รองศาสตราจารย์ ดร. ภูธร เมืองปัก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันอังคาร (5 ม.ค. ) “ผู้คนต้องการวัคซีนสองปริมาณเพื่อพัฒนาภูมิคุ้มกันต่อ COVID-19  เจ้าหน้าที่แนวหน้ากลุ่มแรกรวมทั้งเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์จะได้รับการฉีดวัคซีนครั้งแรกในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนและครั้งที่สองในวันที่ 22 ธันวาคม”  โครงการฉีดวัคซีนดังกล่าวเปิดตัวหลังจากประเทศจีนจัดหาวัคซีนให้แก่สปป.ลาว 2,000 โดสที่พัฒนาโดย Sinopharm (China National Pharmaceutical Group Co. , Ltd. ) และจากรัสเซียจำนวน 500 โดสซึ่งเป็นวัคซีน Covid-19 ที่พัฒนาโดยสถาบันวิจัย Gamaleya ของรัสเซีย กระทรวงสาธารณสุขคาดว่าปีนี้ประชากรสปป.ลาวประมาณร้อยละ 20 หรือประมาณ 1.6 ล้านคนจะได้รับการฉีดวัคซีนและคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 50 ของประชากรภายในปี 2565 ซึ่งจะใช้งบประมาณมากถึง 18 เหรียญสหรัฐฯ และหากฉีดวัคซีนประชากรทุกคนจะใช้งบประมาณในการฉีดวัคซีนเกือบ 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ที่มา : https://www.thestar.com.my/aseanplus/aseanplus-news/2021/01/06/laos-declares-covid-19-vaccinations-safe-more-to-be-inoculated-next-week

สปป.ลาวปรับปรุงถนนหมายเลข 13 North

ถนนหมายเลข 13 North กำลังได้รับการปรับปรุงในบางจุดที่ได้รับความเสียหาย โดยการพัฒนาจะเกิดขึ้นในระยะทาง 58 กม. ระหว่างทางแยกสียุทธในเวียงจันทน์และโพนหงในเวียงจันทน์ การปรับปรุงจะใช้เวลาสามปีปัจจุบันดำเนินการไปแล้วประมาณหนึ่งปี ถนนหมายเลข 13 North ถือเป็นถนนเส้นที่มีความสำคัญต่อสปป.ลาวอย่างมากและจำเป็นต้องได้รับการบำรุงรักษาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากถนนสายดังกล่าวเป็นสายหลักในการขนส่งสินค้าเพื่อส่งออกไปยังจีนและยังเป็นถนนที่ใช้ลำเรียงสินค้าจากรอบนอกสปป.ลาวเข้ามายังเมืองหลวงของสปป.ลาว ก่อนหน้านี้ถนนหมายเลข 13 North ได้รับเสียหายจนทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางและการขนส่ง การปรับปรุงแก้ไขถนนหมายเลข 13 North จะเป็นส่วนช่วยสนับสนุนให้ระบบคมนาคมมีประสิทธิภาพมากขึ้นสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์แห่งชาติสปป.ลาว ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการพัฒนาด้านเศรษฐกิจของสปป.ลาวในอนาคต

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Upgrade_3.php

โอกาส-ความท้าทายโครงการรถไฟและทางด่วนสปป.ลาว-จีน

ถึงแม้จะมีโอกาสมากมายที่เข้ามายังสปป.ลาวผ่านโครงการลงทุนรถไฟสปป.ลาว – ​​จีนและทางด่วนเวียงจันทน์ – โบเตน แต่สปป.ลาวก็จำเป็นต้องจัดการกับความท้าทายที่มาพร้อมกับโอกาสครั้งนี้ ทางรถไฟและทางด่วนเป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีนและสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของรัฐบาลสปป.ลาวที่จะเปลี่ยนประเทศจากการไม่มีทางออกสู่ทะเลเป็นแผ่นดินที่เชื่อมต่อในภูมิภาค อย่างไรก็ตามยังมีข้อควรพิจารณาที่ต้องได้รับการแก้ไขเพื่อที่จะได้รับประโยชน์มากขึ้นจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ประการแรกจำเป็นต้องสร้างถนนที่เชื่อมทางรถไฟกับแหล่งผลิตเพื่อให้ขนส่งสินค้าได้สะดวก ประการที่สองต้องบูรณาการโลจิสติกส์และบริการข้ามพรมแดนเพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้า ประการที่สามการพัฒนาเมืองอัจฉริยะเพื่อดึงดูดการค้าและการลงทุนมากขึ้น ประการที่สี่ปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาที่สปป.ลาวมากขึ้น โครงการดังกล่าวไม่เพียงแค่สร้างการพัฒนาแก่สปป.ลาวตามรายงานของซินหัว หากจีนและประเทศในอาเซียนทำการค้าโดยใช้ทางรถไฟผ่านสปป.ลาวจะได้รับประโยชน์มากขึ้นและจะสร้างมูลค่าการค้าที่สูงขึ้นจากการขนส่งที่มีคุณภาพและรวดเร็วขึ้น

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Expert_2.php

จีนช่วยให้สปป.ลาวเข้าถึงวัคซีน COVID-19

สปป.ลาวจะได้รับวัคซีนโควิด -19 จากจีน 2,000 โด๊ส บางส่วนได้เริ่มฉีดวัคซีนให้แก่อาสาสมัครไปแล้ว 200 ราย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ. บุญคง สีหะวงศ์ กล่าวในแถลงการณ์วันนี้ว่า “สปป.ลาวได้รับการจัดส่งวัคซีน Sinopharm Covid-19 จากจีนและได้ฉีดให้กลุ่มเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เป็นกลุ่มแรกและเป็นส่วนหนึ่งของการทดลองฉีดวัคซีนระยะแรกอีกด้วย”  สปป.ลาวเป็นหนึ่งใน 92 ประเทศที่ได้รับความช่วยเหลือจากพันธมิตร “COVAX” โดยกลุ่มประเทศดังกล่ามีประชากรรวมประมาณร้อยละ 15 – 20 ของประชากรโลก ซึ่งจะได้รับวัคซีน Sinopharm Covid-19 ภายในเดือนเมษายน 2564 ในขณะเดียวกันวัคซีน “Sputnik V” ที่ผลิตโดยรัสเซียประมาณ 500 โด๊ส จะถูกส่งไปยังสปป.ลาวในช่วงต้นเดือนมกราคม 2564 ที่มา : https://www.thestar.com.my/aseanplus/aseanplus-news/2021/01/04/china-to-help-laos-get-access-to-covid-19-vaccine