กระทรวงทรัพยากรน้ำกัมพูชาจับมือเอดีบีหนุน 2 เมกะโปรเจค

กระทรวงทรัพยากรน้ำและธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียในกัมพูชา (ADB) ร่วมดำเนินโครงการขนาดใหญ่สองโครงการมูลค่ารวม 380 ล้านดอลลาร์ เพื่อปรับปรุงการจัดการน้ำของกัมพูชา วัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงการเกษตร โครงการสินเชื่อและการจัดการทรัพยากรน้ำและชลประทาน ทั้งนี้ ผอ. ADB กล่าวว่าจะยังคงให้การสนับสนุนด้านเศรษฐกิจของกัมพูชาและให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาระบบชลประทานเพื่อบรรเทาภัยแล้งและบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน โดยกำหนดเป็นแผนกลยุทธ์ร่วม ปี 62 – 66

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50575344/water-ministry-to-implement-two-mega-projects/

05/02/62

ปี 2018 กัมพูชาผลผลิตข้าวเปลือกสูงถึง 7.4 ล้าน

จากรายงานของกระทรวงเกษตรผลผลิตข้าวเปลือกเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5 ซึ่งรัฐบาลคาดการณ์พื้นที่เพาะปลูก 2.เฉลี่ยแล้วผลผลิตต่อเฮกตาร์ได้ 3.07 ตัน ซึ่งจากรายงานระบุว่าในปี 49 ผลผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 2.6 ตันเท่านั้น ส่วนพื้นที่ในการทำปศุสัตว์มีเพียงร้อยละ 3.5 เท่านั้น ทั้งนี้เป็นผลมาจากระบบชลประทานที่มีประสิทธิภาพและการใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในภาคการเกษตรมากขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/575496/paddy-rice-production-reaches-7-4-million-in-2018/

06/02/62

เปิดตัวสถาบันที่ปรึกษาอัจฉริยะการค้าและการลงทุน AITI

คุณสนั่น อังอุบลกุล กล่าวว่าในปัจจุบัน ภาครัฐ ให้ความสำคัญกับการขยายความเชื่อมโยง ทางการค้าและการลงทุน กับกลุ่มประเทศ CLMV ตามแนวนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการเสริมสร้าง ความร่วมมือในลักษณะการเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership) ระหว่างไทยกับ กลุ่มประเทศ CLMV เพื่อช่วยสร้างความเจริญเติบโตอย่างทั่วถึงและพัฒนาในภูมิภาคร่วมกันอย่างยั่งยืน ซึ่งเมื่อพิจารณาศักยภาพของประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างสูงในปัจจุบัน โดยทาง IMF ได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจกัมพูชา จะเติบโตขึ้น 6.8% ลาว 7% เมียนมา 6.8% และเวียดนาม 6.5% โดยการเติบโตดังกล่าวจะมาจากการส่งออกและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ(FDI) อีกทั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เพิ่มมากขึ้น จะส่งผลให้รายได้ต่อหัวของประเทศในกลุ่มประเทศ CLMV มีแนวโน้มสูงขึ้นตามไปด้วย

อ่านต่อได้ที่ : https://www.ryt9.com/s/prg/2944301

เอกอัครราชทูตจีนคนใหม่ของกัมพูชาแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรีฮุนเซนที่ลดราคาค่าไฟฟ้าลงในปี62

วังเวนเตียนเอกอัครราชทูตจีนประจำกัมพูชาชื่นชมการพัฒนาของกัมพูชาภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซนโดยเฉพาะราคาไฟฟ้าที่ลดลงในปี62 คำแถลงระหว่างการพบหารือกับรองนายกรัฐมนตรีฮอร์นามหง ที่อาคารมิตรภาพกัมพูชา – จีนที่กรุงพนมเปญ Hor Namhong ของกัมพูชากล่าวขอบคุณรัฐบาลจีนที่ซื้อข้าวกัมพูชา 300,000 ตันในปี61 และลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) เกี่ยวกับการซื้อกล้วยกัมพูชา เขาขอให้จีนซื้อพริกไทยกัมพูชา มะม่วงและสินค้าเกษตรอื่น ๆรองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่านักท่องเที่ยวชาวจีนประมาณ 1.8 ล้านคนได้มาเยือนกัมพูชาในปี61 และจะเพิ่มขึ้นเป็นสองล้านคนภายในปี63 รัฐบาลจีนให้คำมั่นที่จะสนับสนุนการเมืองความเป็นอิสระอำนาจอธิปไตยและการพัฒนาของกัมพูชาโดยเฉพาะอย่างยิ่งสนับสนุนให้กัมพูชามีบทบาทสำคัญในการเจรจาต่อรอง

ที่มา : http://en.freshnewsasia.com/index.php/en/localnews/12396-2018-12-24-14-16-22.html

24.12.61

ติดใจ ปิ้งย่าง-ฮอตพอต สารพัดแบรนด์ ลุยตลาดเวียดนาม

รีเทลล์นิวส์เอเชีย อ้างผลสำรวจของบริษัทวิจัยดีซิชั่นแล็บ พบว่าชาวเวียดนามอายุ 15 ปีขึ้นไป ใน 3 เมืองใหญ่ ฮานอย, โฮจิมินห์ และดานัง รวม 1.5 หมื่นราย พบว่า บาร์บีคิวและฮอตพอตกำลังเป็นตัวเลือกยอดฮิตสำหรับอาหารนอกบ้าน ที่เติบโตถึง 46% และ 37% ตั้งแต่ไตรมาส 3 – 4 ที่นิยมเพราะเหมาะกับการสังสรรค์ฉลองในโอกาสต่างๆ กับครอบครัว ทั้งการให้บริการที่เป็นกันอง สะอาด คุณภาพดี โดยมีร้านที่ได้รับความนิยมคือ  คิจิ-คิจิ (Kichi-kichi), โกกิเฮาส์ (Gogihouse), ซูโม่ บาร์บีคิว (SumoBBQ), ไทยเอ๊กซ์เพรส (ThaiExpress), โซลการ์เด้น (Seoul Garden), คิงส์บาร์บีคิว (KingBBQ) และฮอตพอต สตอรี (Hotpot Story) ส่วนใหญ่บริหารโดย 2 บริษัทใหญ่ คือ โกลเด้นเกต เรสทัวรองต์ กรุ๊ป (Golden Gate Restaurant Group) และเรดซัน ไอทีไอ คอร์ป (Red Sun ITI Corporation) จนผู้เล่นรายใหญ่เติบโตหลายเท่าและเตรียมผุดสาขากว่า 100 แห่งต่อปี

ที่มา : https://www.prachachat.net/marketing/news-266154

21/12/61

กนง.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกในรอบ 7 ปี

คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 จากระดับร้อยละ 1.50 เป็นระดับร้อยละ 1.75 เป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 7 ปี เพื่อสร้างขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงิน (policy space) ในอนาคต ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า ผลของการปรับในครั้งนี้ ไม่น่าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยในปี62 ท่ามกลางระดับสภาพคล่องในตลาดการเงินในระดับสูง ขณะที่มองว่า กนง. น่าจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในช่วงครึ่งแรกของปี62 ทำให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งนี้คงเป็นไปในลักษณะที่ไม่ต่อเนื่อง และจะประเมินความพร้อมของเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า ก่อนที่จะมีการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้ง ซึ่งอาจจะเป็นช่วงครึ่งหลังของปี62

ที่มา : http://www.thansettakij.com/content/363579

20.12.61

ต่างชาติฮิตนั่ง นครชัยแอร์ เที่ยวเมืองรอง

นครชัยแอร์เผยรถทัวร์ฟื้นพลิกรายได้รับอานิสงค์ท่องเที่ยวเมืองรอง ผู้โดยสารต่างชาติพุ่ง 10% จับมืออะเมซอน-ร้านฟาสฟูดส์เปิดในสถานีขนส่งภูธร บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ผลการดำเนินกิจการ ในปี61 ภาพรวมถือว่าค่อนข้างดีจากรายได้ 1,800 ล้านบาท จากปี 60 มีรายได้ 1,700 ล้านบาท จากปริมาณผู้โดยสารที่เติบโต 3% ต่างชาติที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 10% บวกกับนโยบายการท่องเที่ยวเมืองรองอย่าง จ.นครพนม สกลนคร และกาฬสินธุ์ เป็นต้น ปัจจุบันมีผู้โดยสารเฉลี่ย 10,000 คนต่อวัน หรือปีละ 3 ล้านกว่าคน สำหรับแผนดำเนินธุรกิจในปี62 จะลงทุนมากกว่า 225 ล้านบาทในการซื้อรถโดยสารใหม่ เปิดเส้นทางเมืองรอง 2-3 เส้นทาง เตรียมจับมือกับพาร์ทเนอร์เพื่อเปิดร้านอาหาร ร้านค้าปลีกภายในสถานีเดินรถต่างจังหวัดเพื่อเพิ่มรายได้ เช่น อะเมซอน และร้านฟาสฟูดส์เอแอนด์ดับบลิว

ที่มา : https://www.dailynews.co.th/economic/683402

20.12.61

ดัชนีอุตฯ พ.ย. สูงสุดในรอบ 66 เดือน

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมใน เดือน พ.ย. 61 อยู่ที่ระดับ 93.9 เพิ่มขึ้น จากระดับ 92.6 ในเดือน ต.ค. โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกองค์ประกอบ ได้แก่ ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการ และผลประกอบการ จากการสำรวจ ในเดือน พ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และสูงสุดในรอบ 66 เดือน นับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 56 ผลจากการเร่งผลิตเพื่อชดเชยวันทำงานที่น้อยในช่วงเดือนธันวาคม และการส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวเพิ่มอยู่ที่ระดับ 107.4 เพิ่มขึ้นจาก 106.7 ในเดือนตุลาคม แสดงถึงความเชื่อมั่นในอนาคตอยู่ในระดับที่ดี ผู้ประกอบการเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยเฉพาะในส่วนภูมิภาค

ที่มา : https://www.thaipost.net/main/detail/24578

20.12.61

เปิดเฟสติวัลข้าวและเปิดตัวเครื่องหมายการค้าข้าวเวียดนาม

จากมหกรรมข้าวเวียดนามครั้งที่ 3 ภายใต้หัวข้อ “การเกษตร เกษตรกรและชนบทพัฒนาอย่างยั่งยืน ชาวเวียดนามให้ความสนใจใช้สินค้าเวียดนาม” ระบุว่าภายในกรอบของงานนี้คือการเชื่อมโยงศักยภาพและจุดแข็งของเศรษฐกิจ วัฒนธรรมของเวียดนามไปสู่ต่างประเทศ รวมถึงหารือกับผู้ประกอบการของท้องถิ่นเพื่อหาโอกาสในการลงทุนและพัฒนาการประกอบธุรกิจ โดยปัจจุบันเวียดนามเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่เป็นอันดับสองของโลก โดยจังหวัดลองอานผลิตข้าวมีมูลค่ารวมถึง 2.5 ล้านตันต่อปี ทางการเวียดนามหวังว่าตลาดต่างประเทศจะเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับตลาดข้าวของเวียดนาม เพื่อมีส่วนรวมในการพัฒนาเศรษฐกิจ

ที่มา : http://vovworld.vn/th-TH/ขาวเดน/เปดเฟสตวลขาวและเปดตวเครองหมายการคาขาวเวยดนาม-709064.vov

19.12.61