ค้าปลีก-ค้าส่งเหนื่อย

ธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง เป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญ มีสัดส่วนถึง 16% ของจีดีพี โดยช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (51-61) เติบโตเฉลี่ย 6.8% ต่อปี ประเมินว่าปี 62 จีดีพีการค้าปลีกและการค้าส่งจะขยายตัว 5% ชะลอตัวลงจากปีก่อนที่ 8.5% โดยยอดขายธุรกิจค้าส่งจะเติบโตได้ต่ำ เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว ในขณะยอดขายธุรกิจคาดว่าจะขยายตัว 3-5% โดยช่องทางค้าปลีกที่เติบโต ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต นอกจากนี้ ร้านค้าปลีกออนไลน์ สำหรับร้านค้าปลีกในอดีตอย่าง ร้านค้าปลีกดั้งเดิม รวมไปถึงร้านค้าปลีกสินค้าเฉพาะอย่าง อาทิ ร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้ในครัวเรือน จะไม่เติบโตเนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ส่วนระดับการทำกำไร 5 ปีที่ผ่านมาพบว่าอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยทรงตัวอยู่ที่ 3.4-3.9% มีกำไรสุทธิทรงตัวนอยู่ที่ 4.7-4.8% แต่ยอดขายยังขยายตัวได้อยู่ จากการประเมินผู้ค้าส่งจะเป็น กลุ่มที่ได้รับผลกระทบสูงที่สุด เนื่องจากผู้ผลิตเริ่มมองการปรับกลยุทธ์ขายสินค้าไปยังร้านค้าปลีกมากขึ้น ด้าน “ผู้ค้าปลีกมีแนวโน้มที่จะถูกแข่งขันจากร้านค้าปลีกที่เพิ่มขึ้น รวมถึงผู้ค้าปลีกออนไลน์ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก”

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/newspaper-column/economic-wheel/news_2689860

การเพิ่มขึ้นของ FDI เวียดนาม ส่งผลให้อุตสาหกรรมในประเทศดีขึ้น

จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) พบว่าในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เงินทุนจดทะเบียนรวมจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศกว่า 7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นจำนวนโครงการใหม่ 1,720 โครงการ ซึ่งนักลงทุนจากต่างชาติได้อัดฉีดเงินทุน เพื่อซื้อหุ้นและให้เงินสนับสนุนธุรกิจเวียดนาม คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 8.12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับว่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกือบ 2 เท่าในรอบปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ทางรองผู้อำนวยการอุตสาหกรรมและการค้า กล่าวว่าธุรกิจเวียดนามจำนวนมากต้องเผชิญกับปัญหาด้านต้นทุน ข้อจำกัดในการเข้าถึงข้อมูลการตลาด และความสามารถในการบริหารห่วงโซ่อุปทานยังไม่เพียงพอ รวมไปถึงไม่มีเขตอุตสาหกรรมที่เข็มข้น และโครงสร้างพื้นฐานที่ยังไม่เพียงพอต่อธุรกิจ ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลดำเนินปรับปรุงโครงสร้าง/ความสามารถของธุรกิจ และให้ความรู้ทางด้านเทคโนโลยี นวัตกรรมต่างๆ เป็นต้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/522396/rising-fdicalls-for-better-supporting-industry-experts.html#zEicRJ7upByfcuZM.97

สัมมนาความร่วมมือทวิภาคี จีน – เมียนมาจัดขึ้นที่ย่างกุ้ง

การสัมมนาในวันจันทร์ที่ผ่านมามีการหารือภายใต้หัวข้อเทคโนโลยีพลังงานสีเขียวและการพัฒนาที่ยั่งยืน การกำกับดูแล: ปัญหาและความท้าทายและความคืบหน้าของเส้นทางเศรษฐกิจจีน – เมียนมา ซึ่งประเด็นที่ถกเถียงกันคือทางเดินเศรษฐกิจจีน – เมียนมา (CMEC) เป็นการเชื่อมต่อแบบสองทางและเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศจากการค้าและการลงทุนในระดับทวิภาคีเป็นส่วนหนึ่งของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์และการค้า ด้านการค้าชายแดนของสองประเทศมีมูลค่ามากกว่า 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ 14 มิ.ย. ในปีงบประมาณปัจจุบัน (ปี 61 – 62) การค้าชายแดนส่วนใหญ่ผ่านด่านมูเซ ลแวแจ ชินชเวฮอ ด่าน Kanpikete และด่านเชียงตุง ในขณะเดียวกันได้อนุมัติโครงการลงทุนของจีนทั้งหมด 82 โครงการด้วยทุนกว่า 323.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 31 พ.ค.ของปีงบประมาณ 61-62

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/asiapacific/2019-07/08/c_138209797.htm

อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในสปป.ลาว

สปป.ลาวเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาหลังจากถูกกดดันจากปัจจัยทางเศรษฐกิจหลายประการ การเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาผู้บริโภคซึ่งเป็นผลมาจากสินค้าราคาแพง เช่น น้ำมัน ทองคำและอาหาร การอ่อนค่าของเงินกีบ สร้างความกังวลให้กับผู้บริโภคและผู้ประกอบการธุรกิจ ซึ่งตามข้อมูลจากเว็บไซต์ของธนาคารแห่งสปป. ลาวในเดือนมกราคมปีนี้อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 1.5 และยังคงเพิ่มขึ้นถึง 1.57% ในเดือนกุมภาพันธ์ ภายในเดือนมีนาคมเป็น 1.66%, ในเดือนเมษายนเป็น 2.21% และในเดือนพฤษภาคม 2.54% โดยเฉลี่ยเงินเฟ้อสูงขึ้น 1.9% ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ตามแผนประจำปีรัฐบาลได้กำหนดเพดานอัตราเงินเฟ้อที่ร้อยละ 5 อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วอัตราของ 5 เดือนแรกของปีนี้ก็สูงขึ้นเล็กน้อย

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/inflation-spikes-laos-99723

Smart holds ทดลงใช้ 5G

Smart Axiata ซึ่งเป็น บริษัท สื่อสารโทรคมนาคมมือถือชั้นนำของประเทศกัมพูชาได้เป็นเจ้าภาพการทดลอง 5G ครั้งแรกในประเทศกัมพูชา ซึ่งติดตั้งอุปกรณ์มือถือที่เปิดใช้งาน 5G จากหัวเว่ย แสดงให้เห็นว่าการเชื่อมต่อ 5G มีศูนย์กลางอยู่ที่ความเร็วกิกะบิตความหน่วงต่ำที่น่าเชื่อถือและการเชื่อมต่อขนาดใหญ่ โดยลงทุนกว่า 70-80 ล้านเหรียญสหรัฐ ในทุกๆปี โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายเพื่อปรับปรุงการเชื่อมต่อบรอดแบนด์ผ่านโทรศัพท์มือถือทั่วกัมพูชา ซึ่งการทดลองใช้ 5G แบบสดแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในอนาคตที่สามารถกำหนดรู้แบบของสังคมโดยการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจ โดย 5G ถูกคาดหวังว่าจะปฏิวัติโลกผ่านปัญญาประดิษฐ์ เมื่อในเดือนเมษายน Huawei ออกบริการ 5G เชิงพาณิชย์ในเกาหลีใต้และสวิตเซอร์แลนด์ และอีกหนึ่งเดือนถัดมาได้เปิดตัวบริการในสหราชอาณาจักรและฟินแลนด์ ซึ่งสเปนและอิตาลีจะได้รับบริการในเดือนนี้ เป็นประเทศต่อไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50622026/smart-holds-live-5g-trial/

หกเดือนแรกกัมพูชาส่งออกข้าวเพิ่มขึ้น 3.7%

กัมพูชาส่งออกข้าวสารจำนวน 281,538 ตัน ในช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 3.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยรายงานล่าสุดจากกระทรวงเกษตร แสดงให้เห็นว่าตั้งแต่เดือนมกราคม – มิถุนายนผู้ส่งออกท้องถิ่น 75 ราย ส่งข้าวสารไปยัง 47 ประเทศ ซึ่งจีนยังคงเป็นตลาดข้าวที่ใหญ่ที่สุดของกัมพูชาโดยมีปริมาณการส่งออกอยู่ที่ 118,401 ตัน หรือ 42% ของการส่งออกทั้งหมด โดยอันดับรองลงมาคือฝรั่งเศสโดยส่งออก 37,515 ตัน โดยภายในสิ้นปีผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่คาดการว่าส่งออกจะสูงถึง 650,000 ตัน ซึ่งอธิบายว่าฤดูเก็บเกี่ยวหลักจะลดลงในช่วงครึ่งหลังของปี โดยข้าวพันธุ์หอมส่งออกมากกว่า 82% (237,097 ตัน) ส่วนข้าวเมล็ดยาวส่งออก 39,854 ตัน ขณะที่ข้าวนึ่งส่งออกเพียง 4,587 ตัน ไปยังต่างประเทศ ซึ่งเมื่อปีที่แล้วกัมพูชาส่งออกข้าว 626,225 ตัน ไปยังตลาดต่างประเทศลดลง 1.5% เมื่อเทียบกับปี 2560

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50621684/rice-exports-up-3-7-percent-in-first-six-months-of-the-year/