รัฐบาล สปป.ลาวได้ข้อสรุปเกี่ยวกับ การปฏิบัติตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก

สปป.ลาว ยังคงมุ่งมั่นที่จะตระหนักถึงสิทธิของเด็กกับหน่วยงานที่มีการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อหารือเกี่ยวกับการสรุปข้อสังเกตสำหรับทุกภาคส่วนในระดับกลางและระดับจังหวัดเพื่อพัฒนาแผนปฏิบัติการ ซึ่งรวมถึงการรายงานผลการสังเกตการณ์โดย NCAWMC แก่ผู้นำรัฐบาลและสภาระดับชาติรวมทั้งการประชุมเชิงปฏิบัติการระดับกลางและระดับจังหวัดเพื่อจัดลำดับความสำคัญในการดำเนินงาน และรัฐบาลจะสร้างความตระหนักเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของเด็ก ๆ ผ่านแคมเปญและจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจโดยมุ่งเน้นที่การท่องเที่ยวมีส่วนร่วมในการปกป้องสิทธิเด็ก การค้ามนุษย์และการค้าประเวณี นอกจากนี้ตัวแทนขององค์การยูนิเซฟยังกล่าวถึงข้อสรุปที่เกี่ยวข้องกับข้อกังวลต่าง ๆ เช่นการรวบรวมข้อมูลการคุ้มครองเด็ก ความรุนแรงต่อเด็ก เด็กที่ไม่มีการดูแลจากผู้ปกครอง เด็กที่พิการ เป็นต้น

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govtc.php

ภาคเกษตรกรรมเกินดุลการค้า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 2 เดือนแรก

นายกรัฐมนตรีฮุนเซนของกัมพูชาระบุว่ารัฐบาลกำลังพยายามที่จะเช่าโรงไฟฟ้าที่ติดตั้งโรงไฟฟ้าขนาดประมาณ 200 เมกะวัตต์ จากตุรกีมายังกรุงพนมเปญ หากการเจรจาเรื่องค่าไฟบรรลุผลสำเร็จเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนพลังงานที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตุรกีวางแผนที่จะขายไฟฟ้าให้กัมพูชาในราคา 14 เซนต์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง (ราว 4.4 บาทต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง) ซึ่งสูง กว่าที่ซื้อจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำในท้องถิ่น 3 เซนต์ ปัจจุบันกำลังเผชิญกับภาวะขาดแคลนไฟฟ้าราว 400 เมกะวัตต์ ในช่วงฤดูร้อนเพราะว่าเขื่อนไฟฟ้าไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้เต็มกำลังเนื่องจากขาดแคลนน้ำ จากรายงานของกระทรวงเหมืองแร่และพลังงาน ขนาดการผลิตไฟฟ้าในกัมพูชาอยู่ที่ 2,650 เมกะวัตต์ ในปี 2561 โดยกำลังการผลิตราว 1,329 เมกะวัตต์ หรือ 50% ของการผลิตทั้งหมดนั้นเป็นการผลิตจากเขื่อนไฟฟ้า

ที่มา : https://mgronline.com/indochina/detail/9620000027837

Hun Sen Keen เกี่ยวกับการ พัฒนาระบบขนส่งทางราง

ฮุนเซนนายกรัฐมนตรีกัมพูชาประกาศเมื่อวันพุธว่าเขาจะจัดทำแผนใหม่เพื่อจัดการกับปัญหาการขนส่งทางรถไฟ เรามองปัญหาการขนส่งทางรางเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปเศรษฐกิจไม่ใช่สำหรับ EBA นายกรัฐมนตรีหวังว่าด้วยการปฏิรูปการขนส่งทางรถไฟรวมกับการขนส่งทางถนนและทางน้ำเศรษฐกิจของกัมพูชาจะรุ่งเรือง กัมพูชามีเครือข่ายรถไฟกว่า 600 กม. ในปี 2559 กัมพูชาได้เปิดให้บริการขนส่งสินค้าและบริการผู้โดยสารแบบ จำกัด จากพนมเปญไปยังสีหนุวิลล์ซึ่งเป็นจังหวัดชายฝั่งทะเลทางตะวันตกเฉียงใต้เส้นทางรถไฟพนมเปญ – ปอยเปต 386 กิโลเมตร (ชายแดนกัมพูชา – ไทย) เสร็จสมบูรณ์ในปี 2485 แต่ถูกทำลายในช่วงยุค 70 ในช่วงสงครามกลางเมืองของกัมพูชา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันความหลากหลายทางเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในประเทศกัมพูชารัฐบาลกัมพูชา (RGC) ได้ตัดสินใจที่จะนำเสนอการปฏิรูปเชิงลึกเพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน

ที่มา : http://en.freshnewsasia.com/index.php/en/localnews/13418-2019-03-20-08-24-07.html

ความเชื่อมั่นหอการค้าไทยพุ่ง

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผย ดัชนีความเชื่อมั่น เดือนก.พ. 62 อยู่ที่ 48.5 ปรับตัวดีขึ้น 0.5 จุด จากเดือนที่แล้วอยู่ที่ 48.0 เนื่องจากกิจกรรมหาเสียงมีเงินสะพัด 30,000 -50,000 ล้านบาท และนักท่องเที่ยวจีนเริ่มกลับเข้ามา ดัชนีปรับตัวดีขึ้นเป็นเดือนที่ 2 สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเริ่มผ่อนคลายและคณะกรรมการนโยบายทางการเงิน (กนง.) มีมติให้คงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.75% ต่อปี จากการสำรวจของสมาชิกหอการค้าพบว่าสิ่งที่รัฐบาลใหม่จะต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วน คือ การดูแลราคาสินค้าเกษตรให้ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะข้าว น้ำมันปาล์ม และยางพารา เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อในกลุ่มเกษตรกร และการใช้งบประมาณในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง.

ที่มา : https://www.dailynews.co.th/economic/699412

เวียดนามเผยยอดการส่งออกโทรศัพท์ ไปยังอิสราเอลขยายตัวได้ดี

เวียดนามมีมูลค่าการส่งออกโทรศัพท์และชิ้นส่วนไปยังอิสราเอลกว่า 39.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนกุมภาพันธ์ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 91.9 เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา หากคิดเป็นสัดส่วนของการส่งออกสินค้าโดยรวม พบว่า โทรศัพท์และชิ้นส่วนมีสัดส่วนร้อยละ 57.9 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าทั้งหมดของเวียดนามในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ แตะระดับ 59.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยศูนย์ข้อมูลการค้าเวียดนามระบุว่าอิสราเอลเป็นตลาดที่มีขนาดเล็กด้วยจำนวนประชากรมีเพียง 8.5 ล้านคน แต่ปรากฏว่ารายได้ต่อหัวของคน   อิสาราเอลสูง (โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 42,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปี)

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/507309/phone-exports-to-israel-increase-sharply.html#1fKFvPquQT0jEGgI.97

เมียนมาส่งเสริมการค้าการลงทุนกับจีน

เมียนมาวางแผนที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนกับมณฑลกวางตุ้งของจีนเพื่อการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น ปัจจุบันจีนเป็นนักลงทุนต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดในเมียนมาและลงทุนกว่า 20.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจาก 304 บริษัทจีนที่เข้ามาลงทุน โดยเชื่อว่าความร่วมมือครั้งนี้ในด้านการค้าและการผลิตสามารถพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของเมียนมา และยังสนใจในความร่วมมือด้านโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี การท่องเที่ยวและสุขภาพด้วย ปี 61 การค้าระหว่างมณฑลกวางตุ้งของจีนและเมียนมามีมูลค่า 1.632 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น 11.6% เมื่อเทียบกับปี 60

ที่มา : https://www.mmbiztoday.com/articles/myanmar-boost-trade-investment-cooperation-chinese-province-official

ครึ่งแรกของปี 61-62 การค้าชายแดน เมียนมา-ไทยแตะ1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ปีงบประมาณ 2018-2019 ซึ่งเริ่มในเดือนตุลาคมปีที่แล้วตามตัวเลขจากกระทรวงพาณิชย์ พบว่าการส่งออกไปยังไทย มูลค่า 985.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 412.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การค้าชายแดนผ่านท่าขี้เหล็ก เมียวดี เกาะสอง มะริด ด่านทิกิ ด่านมุต่อง และมาอี การค้าปัจจุบันส่งออกสินค้าเกษตรและประมงไปยังประเทศเพื่อนบ้านและนำเข้าเครื่องสำอาง อาหาร เครื่องจักร และสินค้าอุตสาหกรรม เช่น ปูนซีเมนต์ และปุ๋ย จากข้อมูลการค้าระหว่างเมียนมาและต่างประเทศมีมูลค่ากว่า 14.18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมการค้าชายแดน 4.05 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 61-62

ที่มา :https://www.mmbiztoday.com/articles/myanmar-thailand-border-trade-hit-14-bln-usd-1st-half-fy-2018-19

รัฐบาลเมียนมายกเลิกใบอนุญาต นำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์

วันที่ 18 มี.ค กระทรวงพาณิชย์ได้ยกเลิกใบอนุญาตนำเข้าสำหรับการนำเข้าอะไหล่ซึ่งบังคับใช้สำหรับรถยนต์ใหม่เท่านั้น ด้วยขั้นตอนดังกล่าวทำให้ขั้นตอนนำเข้ารวดเร็วขึ้น ประหยัดเวลาและเงินทุน ปัจจุบันพบว่าอุตสาหกรรมบริการหลังการขายและบริการหลังการขายรถยนต์ของเมียนมากำลังเติบโต หลังจากคลายกฎระเบียบการนำเข้ารถยนต์ที่มีข้อจำกัดมานานหลายทศวรรษ

ที่มา : https://www.mmbiztoday.com/articles/government-cancels-license-requirements-imported-spare-auto-parts