เงินดองอ่อนค่ามากสุดเป็นประวัติการณ์และมีแนวโน้มอ่อนค่า คาดธนาคารกลางเวียดนามจะคงดอกเบี้ยนโยบายถึงสิ้นปี 2025
โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
เงินดองอ่อนค่ามากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางความเสี่ยงสงครามการค้ารอบใหม่ โดยเงินดองอ่อนค่า 0.6%YTD มาที่ระดับ 25,535 ดอง/ดอลลาร์ฯ ในวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการลดลงต่ำกว่าระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนหน้านี้ที่ทำไว้เมื่อปลายเดือนธันวาคม โดยปัจจัยหลักมาจากความเสี่ยงสงครามการค้ารอบใหม่ ที่เวียดนามเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.23 แสนล้านดอลลาร์ฯ ในปี 2024 ประกอบกับธนาคารกลางเวียดนามยังปรับลดอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงมาอยู่ที่ 24,522 ดอง/ดอลลาร์ฯ
ภายใต้นโยบายทรัมป์ 2.0 คาดเวียดนามเกินดุลการค้าน้อยลงในปีนี้ส่งผลให้การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดลดลงซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยกดดันเงินดองอ่อนค่ารัฐบาลเวียดนามกำลังเผชิญแรงกดดันระหว่างการถูกสหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้าเวียดนามหรือต้องนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯเพิ่มขึ้น ซึ่งทั้งสองทางเลือกล้วนส่งผลให้การเกินดุลการค้าลดลง
นอกจากนี้ ยังมีกระแสเงินทุนไหลออกจากทั้งตลาดหุ้น ตลาดตราสารหนี้ และจากการลงทุนอื่นๆ ส่งผลให้เวียดนามขาดดุลบัญชีการเงิน ซึ่งเป็นอีกปัจจัยกดดันค่าเงินดอง โดยปกติ เวียดนามจะมีเม็ดเงิน FDI ไหลเข้ามากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ในแต่ละปี ซึ่งเป็นปัจจัยหลักหนุนการเกินดุลบัญชีการเงิน อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี 2023 มีกระแสเงินไหลออกจากทั้งตลาดหุ้น ตลาดตราสารหนี้ และจากการลงทุนอื่นๆ เช่น ภาคการเงินการธนาคาร รวมมากกว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ฯส่งผลให้เวียดนามขาดดุลบัญชีการเงินซึ่งหลักๆ สะท้อนอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในต่างประเทศตามการคงดอกเบี้ยนโยบายในระดับสูงของเฟด ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานของภาคการเงินเวียดนามที่ยังเปราะบาง
เงินดองยังมีแนวโน้มอ่อนค่ามาอยู่ที่ระดับ 25,600 ดอง/ดอลลาร์ฯ ภายในสิ้นปี 2025 จากปัจจัยเสี่ยงมาตรการภาษีทรัมป์ และเฟดชะลอการลดดอกเบี้ย ส่วนโอกาสที่ธนาคารกลางเวียดนามจะเข้าพยุงค่าเงินดองคาดมีค่อนข้างจำกัด เพราะต้องรักษาระดับเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่เหมาะสม โดยตั้งแต่เดือน ก.พ.-ต.ค. 2024 ธนาคารกลางเวียดนามใช้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศประมาณ 6 พันล้านดอลลาร์ฯเพื่อรักษาเสถียรภาพค่าเงินดองส่งผลให้ระดับเงินทุนสำรองระหว่างประเทศลดลงจากระดับเทียบเท่ามูลค่าการนำเข้า 3.79 เดือน ในเดือน ก.พ. 2024 มาอยู่ที่ระดับเทียบเท่ามูลค่าการนำเข้า 2.45 เดือน ในเดือน ต.ค. 2024 (IMF ได้ให้เกณฑ์สากลว่าประเทศควรมีทุนสำรองสามารถรองรับการนำเข้าสินค้าได้มากกว่า 3 เดือน)
นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อของเวียดนามยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยในเดือน ม.ค. 2025 อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3.63%YoY ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อเป้าหมายของธนาคารกลางเวียดนามอยู่ในกรอบไม่เกิน 4.5%
ดังนั้น เพื่อรักษาเสถียรภาพค่าเงินและบริหารจัดการอัตราเงินเฟ้อ คาดธนาคารกลางเวียดนามจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 4.5% ไปจนสิ้นปี 2025 ภายใต้สมมุติฐานว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง ครั้งละ 25 bps ในปีนี้
อ่านต่อ : https://www.kasikornresearch.com/th/analysis/k-social-media/Pages/VN-Dong-EBR4126-FB-2025-02-14.aspx