‘กัมพูชา-สปป.ลาว’ เตรียมถกศักยภาพรถไฟความเร็วสูง

นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีสปป.ลาว หารือสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในช่วงการเยือนอย่างเป็นทางการเมื่อเร็วๆนี้ โดยมีสาระสำคัญ คือ โครงการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงระหว่างสองประเทศ และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ตลอดจนนายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศยังมีความเห็นตรงกันในเรื่องของการเชื่อมโยงระหว่างแขวงจำปาสักและแขวงอัตตะปิอ กับ 2 จังหวัดของกัมพูชา คือ ปราสาทพระวิหารและรัตนคีรี ทั้งนี้ การหารือดังกล่าวยังได้ครอบคลุมถึงประเด็นที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและการเชื่อมโยงเมืองต่างๆ โดยเฉพาะหลวงพระบาง เสียมราฐและพนมเปญ เนื่องจากจะเปิดโอกาสให้มีการเดินทางท่องเที่ยวของประชาชนทั้งสองประเทศ

ที่มา : https://laotiantimes.com/2023/02/16/laos-cambodia-discuss-potential-high-speed-rail-link/

หอค้าเชียงใหม่ ผวา ‘นอมินีจีน’ ขยับลงทุนฮุบธุรกิจ ‘โรงแรม-ร้านอาหาร-สถานบันเทิง-ทัวร์’

เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ นายจุลนิตย์ วังวิวัฒน์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า นักลงทุนจีนเข้ามาลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และท่องเที่ยวในเชียงใหม่ และภาคเหนือ ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนด้านท่องเที่ยว อาทิ โรงแรม ภัตตาคารร้านอาหาร สปา สถานบันเทิง และทัวร์ เพื่อนำนักท่องเที่ยวจีนมายังเชียงใหม่และภาคเหนือ แต่นักลงทุนดังกล่าว ส่วนมากถือวีซ่าท่องเที่ยว จึงไม่ต้องเสียภาษี ทำให้ได้เปรียบนักลงทุนท้องถิ่น เพราะต้นทุนต่ำกว่า ประกอบกับค่าเงินหยวนแข็ง ทำให้ได้เปรียบอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท ทำให้มีเงินทุนหมุนเวียนมากขึ้น มีอำนาจซื้อและต่อรองสูงขึ้น ซึ่ง ททท.ประเมินว่า ปีนี้นักท่องเที่ยวจีนเข้าสู่เชียงใหม่ และภาคเหนือ กว่า 2 ล้านคน โดยสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ การลงทุนแบบแอบแฝง หรือธุรกิจสีเทา ที่นำไปสู่อาชญากรรมข้ามชาติ และการฟอกเงินที่ผิดกฎหมาย อาทิ ยาเสพติด บ่อนกาสิโน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่บ่อนทำลายและสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจประเทศ ดังนั้นรัฐต้องมีมาตรการป้องกันและปราบปรามจริงจัง พร้อมบังคับใช้กฎหมายการสงวนอาชีพคนไทยไม่ให้ต่างชาติลงทุน หรือประกอบอาชีพได้ เพื่อคุ้มครองสิทธิ รักษาผลประโยชน์นักลงทุน ผู้ประกอบการในประเทศ และท้องถิ่น

ที่มา: https://www.matichon.co.th/economy/news_3807262

สปป.ลาว พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน หลังการเปิดประเทศ

ภาครัฐ-เอกชน ของสปป.ลาว เตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังสปป.ลาว ถูกบรรจุในรายชื่อ 20 ประเทศที่จีนอนุญาตให้ธุรกิจทัวร์สามารถนำนักท่องเที่ยวเดินทางไปต่างประเทศได้ โดย Ms. Darany Phommavongsa อธิบดีกรมการจัดการการท่องเที่ยว กระทรวงสารสนเทศ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวของสปป.ลาว กล่าวว่า กระทรวงฯ ได้ร่วมมือกับบริษัทนำเที่ยว โรงแรม และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในประทศ เพื่อปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการให้พร้อมรับการกลับมาของกรุ๊ปทัวร์จีน ซึ่งในเดือนพฤศจิกายน 2565 จากข้อมูลของสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) พบว่า เมื่อจีนได้เปิดประเทศให้ประชาชนสามารถเดินทางต่างประเทศได้เป็นปกติหลังยกเลิกมาตรการโควิดเป็นศูนย์ เชื่อว่าจะมีชาวจีนอย่างน้อย 3 ล้านคนเดินทางด้วยรถไฟสปป.ลาว-จีน โดยนักท่องเที่ยวชาวจีนส่วนใหญ่สนใจสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างหลวงพระบางซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายสำคัญในการท่องเที่ยว ทั้งนี้ สปป.ลาวได้รับการจัดอันดับจากสื่อท่องเที่ยวหลายแห่ง เช่น CNN, National Geographic และ The Telegraph ให้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำของโลกประจำปี 2566

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten25_Laos_gears_y23.php

“สปป.ลาว” ตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยว แตะ 1.4 ล้านคน ในปี 2566

กระทรวงสารสนเทศ วัฒนธรรมและการท่องเที่ยวลาว ได้จัดการประชุมระดับชาติในสัปดาห์นี้ โดยมีนางสวนสวรรค์ วิยะเกต รมว.วัฒนธรรม เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทำงานให้มากขึ้น เพื่อยกระดับการดำเนินงานด้านการท่องเที่ยว รวมถึงปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในชุมชนและสร้างผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวใหม่ๆ ทางกระทรวงฯ เชื่อว่าจะสามารถสร้างรายได้จากภาคการท่องเที่ยวได้มากถึง 340 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หากนักท่องเที่ยวเข้าพักเฉลี่ย 7 วันต่อ 1 คน ทั้งนี้ สปป.ลาว ได้ตั้งเป้าที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ จำนวนราว 1.4 ล้านคนในปี 2566 ซึ่งยังอยู่ในระดับต่ำกว่าในปี 2562 ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรค

ที่มา : https://laotiantimes.com/2023/01/24/laos-hopes-to-attract-1-4-million-tourists-in-2023/

โรงแรมเผยต่างชาติเที่ยวไทยฟื้นตัวดันอัตราเข้าพักเกิน 80%

นายศึกษิต สุวรรณดิษฐกุล นายกสมาคมโรงแรมภาคใต้ เปิดเผยว่า ยอดจองล่วงหน้าในเดือนกุมภาพันธ์นี้ มีเข้ามาประมาณ 60-70% แล้ว รวมถึงเดือนมีนาคมด้วย โดยเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะใกล้จะหมดเดือนมกราคม ทำให้ยอดจองล่วงหน้าจะทยอยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์อัตราเข้าพักฟื้นตัวขึ้นมาเกิน 80% เทียบกับเดือนธันวาคม 2565  เช่น กลุ่มตลาดที่มาท่องเที่ยวภูเก็ต 5 อันดับแรก ได้แก่ รัสเซีย (28%) อินเดีย (10%) ออสเตรเลีย (5%) บริติช (5%) คาซัคสถาน (4.3%) โดย 5 ชาตินี้เป็น 53%. ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่เข้ามาภูเก็ต และมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาช่วยเสริมบ้าง แต่ด้วยเที่ยวบินที่ยังมีจำกัด ทำให้ชาวจีนเข้ามาเที่ยวยังเป็นจำนวนที่น้อยอยู่ ซึ่งประเมินเฉพาะจำนวนเที่ยวบินจากจีนเข้าภูเก็ต เริ่มมีมากขึ้นแล้ว อาทิเช่น วันที่ 18 มกราคม ที่ผ่านมา มี 3 สายการบินเข้ามา, วันที่ 20 มกราคม มีเข้ามา 2 สายการบิน ทำให้ขณะนี้จำนวนผู้โดยสารที่สนามบินและเที่ยวบินฟื้นตัว 70% ได้แล้วเทียบกับปี 2562

ที่มา: https://www.matichon.co.th/economy/news_3786301

เจพีมอร์แกนชูหุ้นไทย “น่าลงทุนที่สุด” ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค เปิดเผยว่า การที่ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ของ ไทย กลับมาฟื้นตัวได้ดีเกินคาดหลังจาก จีนเปิดประเทศ และมีแนวโน้มที่จะช่วยกระตุ้นการอุปโภคบริโภคของไทยให้ปรับตัวขึ้นนั้น เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ตลาดหุ้นไทย มีความ “น่าลงทุนมากที่สุด” เมื่อเทียบกับบรรดาตลาดหุ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ นายจักรพันธ์ พรพรรณรัตน์ หัวหน้าสายงานวิจัยหลักทรัพย์ของบริษัทหลักทรัพย์เจพีมอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กเผยแพร่วันนี้ (19 ม.ค.) ว่า ภาวะการซื้อขายที่คึกคักในตลาดหุ้นไทยก่อนที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไป และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่เติบโตอย่างต่อเนื่องหลังจากราคาพลังงานและต้นทุนวัตถุดิบชะลอตัวลงนั้น จะช่วยให้ตลาดหุ้นไทยทำผลงานโดดเด่นเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่น ๆ ในภูมิภาคยกเว้นเวียดนาม

ที่มา : https://www.thansettakij.com/finance/stockmarket/553556

นักท่องเที่ยวไทยเดินทางเข้ากัมพูชาโตกว่า 1,059% ในปี 2022

นักท่องเที่ยวไทยเดินทางเข้ามายังกัมพูชาเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 1,059 ในปี 2022 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่จำนวน 2.28 ล้านคน โดยประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทยคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 37.5 และเวียดนามร้อยละ 20.4 ของจำนวนทักท่องเที่ยวดังกล่าว ซึ่งข้อมูลข้างต้นมาจากรายงานสถิติการท่องเที่ยวล่าสุดของกระทรวงการท่องเที่ยว ขณะที่ส่วนใหญ่เดินทางมาโดยรถยนต์ข้ามพรมแดนระหว่างเทศที่จำนวน 1.47 ล้านคน และเดินทางมาโดยเครื่องบินจำนวน 791,603 คน ซึ่งน้อยกว่า 99,829 คน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 70.4 แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาว สปป.ลาว ร้อยละ 4.1, อินโดนีเซีย ร้อยละ 3.3, มาเลเซีย ร้อยละ 2.4, ฟิลิปปินส์ ร้อยละ 1.3 และสิงคโปร์ ร้อยละ 1.2 เป็นตลาดสำคัญอื่นๆ ในอาเซียนรองจากไทยและเวียดนาม ขณะที่นักท่องเที่ยวขาออกอยู่ที่จำนวน 1.6 ล้านคนในปี 2022 คิดเป็นการเติบโตกว่าร้อยละ 1,252 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501221970/thailand-visitors-help-record-1059-jump-in-tourist-arrivals-in-2022/

จีนทวงแชมป์เที่ยวไทยอันดับ 1 สศช.ขยับเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติ-รายได้

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยในโอกาสนักท่องเที่ยวจีนเริ่มเดินทางเข้าไทยหลังจากรัฐบาลจีนประกาศเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.66 ว่า ททท.คาดว่าตลอดปี 66 จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน กลับมาเป็นชาติที่เข้าไทยมากเป็นอันดับ 1 ครองสัดส่วน 20% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดในปีนี้ ที่คาดไม่น้อยกว่า 25 ล้านคน ทั้งนี้ โดย สถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย วันที่ 1-7 ม.ค. 66 มีจำนวนสะสม 419,516 คน โดยอันดับ 1 คือ รัสเซีย 46,128 คน รองลงมา คือ มาเลเซีย 45,517 คน, เกาหลีใต้ 32,977 คน, อินเดีย 22,393 คน และลาว 19,674 คน ส่วนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาเป็นอันดับที่ 12 ที่จำนวน 12,308 คน ขณะที่ตลอดปี 65 นักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย 11,818,727 คน โดยอันดับ 1 คือ มาเลเซีย 1,951,834 คน ตามด้วยอินเดีย 965,994 คน, ลาว 844,958 คน, กัมพูชา 591,657 คน และสิงคโปร์ 589,770 คน ส่วนจีน อันดับ 14 ด้วยจำนวน 286,511 คน ด้านสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ปรับคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยใหม่หลังจากที่จีนเปิดประเทศเร็วกว่าที่คาดไว้ว่าจะเป็นครึ่งปีหลังของปี 66 จากเดิมที่ คาดจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 23 ล้านคน สร้างรายได้ 1.2 ล้านล้านบาท โดยขอรอดูสถานการณ์ในอีก 2-3 สัปดาห์ก่อนปรับตัวเลขใหม่ คาดจะมีความชัดเจนเดือน ก.พ.นี้ ขณะที่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวว่า จากที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตือนว่าเศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะถดถอย ได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่าจะกระทบต่อเศรษฐกิจไทยหรือไม่อย่างไร แต่ยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนภายหลังการเปิดประเทศ

ที่มา: https://www.thairath.co.th/business/feature/2598640

กัมพูชาคาดจำนวนนักท่องเที่ยวพุ่งแตะ 7 ล้านคน ภายในปี 2025

กัมพูชาเตรียมพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนซึ่งคาดว่าจะหลั่งไหลเข้ามาหลังรัฐบาลจีนปลดล็อกการเดินทางระหว่างประเทศ ขณะที่กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา คาดการว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังกัมพูชาราว 7 ล้านคน ภายในปี 2022 ซึ่งกระทรวงฯ ระบุว่า พร้อมให้ความร่วมมือกับภาคเอกชนในการเชื่อมต่อเที่ยวบินและการขนส่งนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวสำคัญ ซึ่งก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 นักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 155 ล้านคน เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก คิดเป็นกว่าร้อยละ 10 ของการท่องเที่ยวทั่วโลก สร้างมูลค่าด้านการท่องเที่ยวกว่า 2.58 แสนล้านดอลลาร์ โดยอาเซียนได้ให้การต้อนรับรับนักท่องเที่ยวจีน 32.2 ล้านคน ในช่วงเวลาดังกล่าว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501215355/cambodia-expects-to-receive-about-seven-million-international-tourists-by-2025/

ททท.ลุยจัดโรดโชว์จีนรอบ 3 ปี นำผู้ประกอบไทยฟื้นตลาดจีนเที่ยวไทยมูลค่า 5 แสนล้าน

นายชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.เตรียมจัดโรดโชว์ส่งเสริมการขายที่จีนในช่วงสัปดาห์ที่ 3 เดือน ก.พ.66 ในพื้นที่หลัก 3 เมือง ได้แก่ เมืองเซี่ยงไฮ้ กว่างโจว และเฉิงตู นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งฝั่งไทยและจีนมาพบปะเจรจาธุรกิจกัน รวม 120 ราย ประกอบด้วยฝั่งไทย 60 ราย และฝั่งจีนอีก 60 ราย เพื่อนำไปจัดทำแพ็กเกจท่องเที่ยวไทย เสนอขายแก่นักท่องเที่ยวจีนทั้งกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) และเตรียมการขายสำหรับกรุ๊ปทัวร์ เมื่อรัฐบาลจีนอนุญาต ทั้งนี้ ถือเป็นการกลับไปจัดโรดโชว์ที่จีนครั้งแรกในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่เกิดวิกฤติโควิด-19 หลังจีนเปิดประเทศ มีผลตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.66 เป็นต้นไป ขณะนี้นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง (FIT) สามารถออกท่องเที่ยวระหว่างประเทศได้แล้ว ซึ่งภาพรวมโครงสร้างตลาดนักท่องเที่ยวจีนก่อนโควิด-19 ระบาด กลุ่ม FIT ครองสัดส่วน 60% ส่วนกรุ๊ปทัวร์ 40% แต่ถ้าดูเฉพาะเมืองใหญ่ เช่น เซี่ยงไฮ้เป็นกลุ่ม FIT สูงถึง 80-90% ปักกิ่งมีกลุ่ม FIT 60-70% ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ปี 62 ก่อนวิกฤติโควิด-19 เป็นปีที่นักท่องเที่ยวจีนมาไทยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 11 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 531,000 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่ง 27% ของทั้งจำนวนและรายได้ตลาดต่างประเทศที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบ 40 ล้านคน ที่สร้างรายได้ 2 ล้านล้านบาท.

ที่มา: https://www.thairath.co.th/business/economics/2597655