สปป.ลาวประสบปัญหานักท่องเที่ยวตกต่ำเนื่องจากโควิด-19 รุนแรงมากขึ้น

จำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศที่มาเยือนแต่ละแขวงของสปป.ลาวลดลงอย่างมากในปีที่แล้วเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 62 เนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด -19 แขวงจำปาสักลดลงประมาณ 90 % เมื่อเทียบกับปี 62 ในจำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติ 142,435 คนลดลง 68 % เมื่อเทียบกับปี 62 อย่างไรก็ตามทางแขวงมีความหวังว่าการท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นในปีนี้และตั้งเป้าหมายไว้ที่ 283,000 คนในปี 64 ด้านเมืองวังเวียง แขวงเวียงจันทน์ นักท่องเที่ยวคนลดลงประมาณ 35 % โดยคาดว่าในปีนี้จะมีผู้คนมาเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวริมแม่น้ำมากขึ้นและตั้งเป้าจะมีนักท่องเที่ยวชาวสปป.ลาวอย่างน้อย 300,000 คน หากการระบาดลดลงจะมีนักท่องเที่ยวชาวสปป.ลาวและชาวต่างชาติไม่ต่ำกว่า 500,000 คน  แขวงอุดมไซเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก มีนักท่องเที่ยวชาวสปป.ลาวและชาวต่างชาติเพียง 100,000 คนเท่านั้น ซึ่งลดลงประมาณ 40% เมื่อเทียบกับปี 62 ทำให้แขวงกำลังเร่งปรับปรุงที่พัก จัดกิจกรรมใหม่ ๆ และปรับปรุงคุณภาพการบริการเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มากขึ้นในปีนี้

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Province18.php

เอสแอนด์พี โกลบอล คาดเศรษฐกิจเวียดนามโตสูงที่สุดในเอเชีย-แปซิฟิก ปี 64 โต 10.9%

เวียดนามจะกลับมาบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจในปีหน้า คาดการณ์อัตราการเติบโตของ GDP ปี 2564 อยู่ที่ร้อยละ 10.9 นับว่าสูงที่สุดในภูมิภาคนี้ นาย Vishrut Rana นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ เอสแอนด์พี โกลบอล (S&P) กล่าวว่าถึงว่าแม้มีความเป็นไปได้ที่จะเปิดตัววัคซันในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า ส่งผลไปในทิศทางที่เป็นบวกแก่กลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก แต่เวียดนามก็ยังคงเป็นประเทศที่ขยายตัวได้ดีกว่าในภูมิภาคนี้ ทั้งนี้ ภาคการท่องเที่ยวยังเป็นปัจจัยสำคัญของเศรษฐกิจ ด้วยสัดส่วนร้อยละ 6 ของ GDP และคาดว่าจะเผชิญกับความท้าทายในปีหน้า ในส่วนของการบริโภคภาคเอกชนนั้น จะกลับมาเข้าสู่ภาวะปกติเร็วๆนี้ แต่การใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวยังคงหดตัวลงอยู่ จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างไรก็ตาม กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจเวียดนาม เนื่องมาจากความต้องการสินค้าเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก นอกจากนี้ รัฐบาลเวียดนามตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ร้อยละ 2.5-3 ในปีนี้ และจะพุ่งขึ้นร้อยละ 6 ในปี 2564

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnam-gdp-to-record-highest-growth-in-asia-pacific-at-109-in-2021-sp-315173.html

กัมพูชามองถึงภาคการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

Impact Hub Phnom Penh ซึ่งได้รับทุนจาก Khmer Enterprise (KE) ภายใต้กระทรวงเศรษฐกิจและการเงิน ในฐานะผู้สนับสนุนหลัก โดยกระทรวงการท่องเที่ยวกำลังจะเปิดตัวศูนย์ “Khmer Tourism for the Future incubator.” ซึ่งถือเป็นโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความยืดหยุ่นและนวัตกรรมในภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากสถานการณ์ COVID-19 ที่กำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งโปรแกรมนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้การสนับสนุนบริษัทสตาร์ทอัพและธุรกิจอย่างเข้มข้น เพื่อพื้นฟูภาคการท่องเที่ยวในอีก 12 เดือนข้างหน้า รวมถึงเป็นการปูพื้นฐานเพื่อนำไปสู่อนาคตใหม่สำหรับภาคการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยโปรแกรมนี้ออกแบบมาสำหรับผู้ประกอบการที่มีต้นแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหรือธุรกิจที่มีศักยภาพที่จะส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศกัมพูชาในเชิงบวก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50753983/re-imagining-sustainable-tourism/

กัมพูชาคาดภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศอาจจะใช้เวลาฟื้นตัวถึง 7 ปี

กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชาคาดการณ์ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดต่อภาคการท่องเที่ยว อาจใช้เวลาถึง 7 ปี ในการกลับสู่สภาวะปกติเนื่องจากผลกระทบของไวรัส COVID-19 โดยกระทรวงกล่าวว่าวิกฤตในครั้งนี้มีผลกระทบอย่างมากต่อการพัฒนาของโลกในทุกด้านโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ซึ่งในบริบทของการระบาดของโรคภาคการท่องเที่ยวของกัมพูชาในปี 2020 โดยคาดการณ์ไว้สามสถานการณ์ คือสถานการณ์แรกจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงจากร้อยละ 50 ถึง 60 ซึ่งคาดว่าจะให้การต้อนรับรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศประมาณ 2.5 ล้านคน ในสถานการณ์ที่สองลดลงร้อยละ 60 ถึง 70 หรือประมาณ 2 ล้านคน ในสถานการณ์ที่สามคาดว่าจะลดลงร้อยละ 70 ถึง 90 โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 1.5 ล้านคน ด้วยสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนของ COVID-19 กัมพูชามีแนวโน้มที่จะประสบกับสถานการณ์ที่สาม ซึ่งจะใช้เวลาถึง 7 ปีในการกลับสู่สภาวะปกติตามที่กระทรวงระบุ โดยสถานการณ์ที่ดีที่สุดจะใช้เวลาประมาณ 3-5 ปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50752225/tourism-may-take-7-years-to-recover/

กัมพูชาจัดทำแผน “Travel bubble” ช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยว

กระทรวงการท่องเที่ยวกำลังดำเนินการเพื่อฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 โดยได้เตรียมแผน “Travel bubble” รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแม้ว่ากัมพูชาจะพบกับผู้ติดเชื้อรายใหม่ จากการรายงานของกระทรวงสาธารณสุขพบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในกัมพูชาทั้งหมดมีจำนวนถึง 240 คน มีผู้ป่วย 32 ราย กำลังทำการรักษาตัวอยู่ โดยกระทรวงเริ่มทำปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญและกระทรวงสาธารณสุขในการออกแบบนโยบายการเดินทางที่เรียกว่า “Travel bubble” เพื่อเตรียมแพ็คเกจการท่องเที่ยวระหว่างประเทศให้มีความปลอดภัยสูงที่สุด ซึ่งคาดว่าหากแผนนี้ประสบความสำเร็จจะทำให้กัมพูชาสามารถสร้างความมั่นใจในการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและสร้างความมั่นใจแก่หลายๆภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบ โดยอาเซียนและอาเซียนบวกสาม คือประเทศเป้าหมายหลัก ซึ่งกระบวนการจะต้องดำเนินการภายใต้การควบคุมอย่างค่อยเป็นค่อยไปด้วยความเห็นชอบของกระทรวงสาธารณสุขและได้รับอนุญาตจากรัฐบาล

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50751509/cambodia-prepares-travel-bubble-plan-to-aid-tourism/

กัมพูชาคาดหวังสำหรับการเริ่มต้นใหม่ของภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศ

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในกัมพูชาอาจจะฟื้นตัวได้ในปี 2025 จากการระบาดของ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมถึงอุตสาหกรรมอื่นๆ ภายในประเทศ โดยหากทุกประเทศทั่วโลกสามารถควบคุมการระบาดของ Covid-19 ได้ร้อยละ 70 ในปลายปีนี้การเติบโตของภาคการท่องเที่ยวในกัมพูชาคาดว่าจะฟื้นตัวประมาณร้อยละ 30 ในปี 2021 และ 2022 กล่าวโดยประธานสมาคมการท่องเที่ยวแห่งเอเชียแปซิฟิกประเทศกัมพูชาบทที่ (PATACC) ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายน 2020 กัมพูชาได้ให้การต้อนรับชาวต่างชาติเพียงประมาณ 1.16 ล้านคน ตามตัวเลขจากกระทรวงการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเยือนกัมพูชา 4,841 คน ในเดือนเมษายน คิดเป็นการลดลงถึงร้อยละ 99.1 เมื่อเทียบเป็นรายปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50734635/hopes-for-early-tourism-resumption-dashed/

นครโฮจิมินห์ : ภาคท่องเที่ยวสูญเสียรายได้กว่า 426 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาสแรก

กระทรวงการท่องเที่ยวของนครโฮจิมินห์ คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของเมือง จะสูญเสียรายได้ราว 10 ล้านล้านด่ง (426.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ จากผลกระทบของการระบาดโควิด-19 โดยข้อมูลของสำนักงาน ชี้ให้เห็นว่าเมืองหลวงทางตอนใต้มีจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 1.3 ล้านคน ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ลดลงร้อยละ 42.26 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทางสำนักงานได้เตรียมมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค เพื่อความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสที่ 2 และยังร่วมมือกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อหาแนวทางพัฒนาท่องเที่ยวชุมชนในพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเยือนในนครโฮจิมินห์มากที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีนและสหรัฐอเมริกา เป็นต้น ซึ่งช่วยให้เมืองได้มีรายได้อยู่ที่ 39.8 ล้านล้านด่ง  ในช่ว และยังร่วมมือกับสำนักงานวิทยาวกันของปีก่อนในช่วงเวลาดังกล่าว

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/hcm-city-tourism-sector-endures-losses-of-over-426-mln-usd-in-q1/171376.vnp

การขยายวีซ่าเดินทางไม่ส่งผลกับนักเดินทางชาวเมียนมา

การขยายระยะเวลาการยกเว้นวีซ่าให้กับเมียนมาและเวียดนามจาก 14 วันเป็น 30 วันอาจไม่ส่งผลดีต่อนักเดินทางเมียนมามากนัก ส่วนใหญ่นักเดินทางชาวเมียนมาที่ไปทัวร์กับเวียดนามใช้เวลาประมาณห้าวันหรือหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งการใช้เวลารวมทั้งการเดินทางเข้า – ออก สองอาทิตย์ก็เพียงพอแล้ว ในทำนองเดียวกันชาวเวียดนามที่เดินทางมาจะอยู่ได้นานสุดประมาณห้าวัน ชาวเวียดนามไม่ได้อยู่ที่ย่างกุ้งนานนัก มักใช้เวลาประมาณสามวันในการเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ เช่น ย่างกุ้ง และพระธาตุอินทร์แขวน หรือไปที่พุกามซึ่งก็อยู่ได้ไม่นานนัก จากตัวเลขของกระทรวงโรงแรมและการท่องเที่ยวตั้งแต่เดือน ม.ค.- ต.ค. 62 มีชาวเวียดนาม 43,146 เดินทางมาเข้ามา ซึ่งลดลง 691 คนเมื่อเทียบปีที่แล้วที่มีจำนวน 43,842 คน

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/extended-free-visa-with-vietnam-does-not-benefit-myanmar-travellers-much-tourism-official