ถ้ำจอมอ๋องที่ยาวที่สุดเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาได้ มีพิธีเปิดตัวถ้ำจอมอ๋องในแขวงอุดมไซอย่างเป็นทางการเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของแขวงอุดมไซ ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นถ้ำที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยหวังว่าถ้ำจอมอ๋องจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ไปเยี่ยมชมได้จำนวนมาก ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในปัจจุบันที่ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาเยือนสปป.ลาวไม่ได้ ทำให้รัฐบาลต้องพยายามกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศเพื่อเข้ามาทดแทนชาวต่างชาติที่เป็นแหล่งรายได้สำคัญของประเทศ  ซึ่งถ้ำจอมอ๋องจะเป็นสถานที่สำคัญด้านการท่องเที่ยวที่หนึ่งที่จะทำให้การท่องเที่ยวของสปป.ลาวกระเตื้องขึ้น รัฐบาลได้ตระหนักถึงศักยภาพของแขวงอุดมไซในฐานะสถานที่ท่องเที่ยวและพิจารณาว่าการพัฒนาทรัพยากรเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญในการสนับสนุนเศรษฐกิจ รวมถึงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและระบบคมนาคมเพื่อสนับสนุนความสะดวกสบายของนักท่องเที่ยวและส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Longest_22.php

นายกฯ สปป.ลาวชื่นชมการตอบสนองของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขต่อโควิด -19

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Mr.Thongloun Sisoulith นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชื่นชมและขอบคุณเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสำหรับความพยายามในการยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด -19 ในที่ประชุมประจำปีของกระทรวงสาธารณสุขยังได้มีการหารือเกี่ยวกับแผนด้านสาธารณสุขสำหรับปี 2564 เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด -19 เป้าหมายของกระทรวงสาธารณสุขถือเป็นแผนย่อยที่รวมอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติปี 2559-2563 และ 2564-2568 โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนสุขภาพปี 2564 จะดำเนินตามกรอบยุทธศาสตร์การปฏิรูปด้านสุขภาพซึ่งเริ่มดำเนินการในปี 2559-2563 และระยะที่ 3 จะดำเนินการตั้งแต่ปี 2564-2568 นายกรัฐมนตรีมีเป้าหมายและความพยายามอย่างสูงที่จะทำให้ระบบสาธารณสุขของสปป.ลาวพัฒนาและเทียบเท่ามาตรฐานสากล แนวทางดังกล่าวจึงมีความสำคัญอย่างจึงต่อการพัฒนาสาธารณสุขของประเทศ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_PM_21.php

รัฐบาลสปป.ลาวให้คำมั่นที่จะลดภาระหนี้

รัฐบาลตั้งใจที่จะลดการขาดดุลการคลังให้เหลือเฉลี่ยร้อยละ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ทุกปีตั้งแต่ปี 2564 ถึง 2568 คำมั่นสัญญาดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อรัฐบาลพยายามลดหนี้สาธารณะเพื่อให้ประเทศสามารถปรับปรุงสภาพคล่องทางการเงินได้ การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ทำให้ภาระหนี้สาธารณะของสปป.ลาวเพิ่มสูงขึ้นทำให้เกิดความท้าทายสำหรับประเทศเล็ก ๆ ในการชำระหนี้ ในช่วงห้าปีที่ผ่านมารัฐบาลได้นำเทคโนโลยีมาใช้ในการวิเคราะห์โครงการลงทุนให้มีประสิทธิภาพส่งผลให้รายได้ประชาชาติเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 อย่างไรก็ตามรายจ่ายก็เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 20 ส่งผลให้ขาดดุลงบประมาณประจำปีเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.73 การขาดดุลการคลังแบบเรื้อรังทำให้รัฐบาลต้องออกพันธบัตรและกู้ยืมมากขึ้นจากแหล่งต่างๆเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนงบประมาณรวมถึงมาตรการด่านอื่นๆ เช่น การแปลงหนี้เป็นทุนการขายทรัพย์สินของรัฐและการขายหุ้นในรัฐวิสาหกิจเพื่อหวังว่าจะจัดการกับภาระผูกพันทางการเงินของประเทศ เป็นต้นนักเศรษฐศาสตร์แนะนำให้รัฐบาลดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนและช่วยเหลือภาคเอกชนโดยเฉพาะ SMEs ในการลดต้นทุนการผลิตเพื่อเพิ่มปริมาณสินค้าที่ผลิตเพื่อการส่งออกซึ่งจะเป็นช่องทางรายได้อีกทางของรัฐบาล

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt20.php

สปป.ลาวจะมีรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิตในปีหน้า

รัฐบาลคาดว่าจะมีรายได้ก้อนแรกจากการขายคาร์บอนเครดิตในปีหน้าหลังจากลงนามในข้อตกลงกับธนาคารโลก รองอธิบดีกรมป่าไม้กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า “รัฐบาลได้ลงนามในข้อตกลงกับธนาคารโลกในการขายคาร์บอนเครดิตจากพื้นที่ป่าที่กำหนดใน 6 แขวงทางตอนเหนือของสปป.ลาว และคาดว่าจะได้รับเงินประมาณ 15 ล้านเหรียญสหรัฐจากการขายคาร์บอนเครดิตในปี 2565” ธนาคารโลกระบุว่าสถาบันการเงินระหว่างประเทศได้กำหนดงบประมาณภายใต้ Forest Carbon Partnership Facility ประมาณ 42 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อซื้อคาร์บอนเครดิตจากสปป.ลาวในปี 2563 ถึง 2568 ความคิดริเริ่มของธนาคารโลกมีวัตถุประสงค์เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่ปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของภาวะโลกร้อนและรูปแบบสภาพอากาศที่รุนแรงทั่วโลก ซึ่งประเทศกำลังพัฒนาประเทศที่พัฒนาแล้วและ บริษัท รายใหญ่ได้ตกลงที่จะซื้อคาร์บอนเครดิตจากประเทศต่างๆเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความรับผิดชอบทางธุรกิจเพื่อสังคมของตน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos20.php

เปิดแผนเมกะโปรแจ็คต์สปป.ลาว ส่งออกโคเนื้อไปจีน

โครงการทำฟาร์มมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ที่วางแผนไว้ซึ่งได้รับทุนจากกระทรวงและบริษัทในท้องถิ่นมีเป้าหมายเพื่อส่งออกโคเนื้อและผลิตภัณฑ์จากโคแปรรูปไปยังประเทศจีนรวมทั้งตอบสนองความต้องการเนื้อในตลาดสปป.ลาว แผนกการผลิตทางการเกษตรภายใต้แผนกโลจิสติกส์ทั่วไปของกระทรวงป้องกันประเทศและ Chang Jiang Investment Lao Sole Co. , Ltd. ได้ลงนามในข้อตกลงร่วมทุนในโครงการนี้ ภายใต้ข้อตกลงทั้งสองฝ่ายจะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อการผลิตทางการเกษตรครบวงจรสำหรับการส่งออกโคเนื้อไปยังประเทศจีน โดยวางแผนที่จะลงทุนทั้งหมด 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจะมีการจัดตั้ง ดำเนินการฟาร์มโค ศูนย์กักกันสัตว์ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคสัตว์ โรงฆ่าสัตว์ที่ทันสมัย โรงงานแปรรูป ตลาดขายโคเนื้อและศูนย์สาธิตการเลี้ยงสัตว์และการเกษตร เป้าหมายของโครงการคือการขายโคเนื้อ 400,000 ตัวต่อปีให้กับจีน โดยมีกระทรวงป้องกันประเทศถือหุ้น 20 % และอีก 80 % ที่เหลือ เป็นของ Chang Jiang Investment Lao Sole Co. , Ltd. หลังจากลงนามในสัญญาร่วมทุนแล้วทั้งสองฝ่ายจะยื่นข้อเสนอการลงทุนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงการจดทะเบียนบริษัทร่วมทุน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent /FreeConten_Planned19.php

รัฐบาลสปป.ลาวยังคงเฝ้าระวังชายแดนอย่างเข้มงวดในช่วง COVID-19

คณะทำงานด้านการป้องกันและควบคุมโควิด -19 แห่งชาติของสปป.ลาวยังคงใช้มาตรการป้องกันและตรวจสอบผู้ที่เข้ามาในประเทศอย่างเข้มงวดเพื่อหลีกเลี่ยงการระบาดของโควิด -19 ระลอกสอง Mr.Sisavath Soutthaniraxay รองอธิบดีกรมควบคุมโรคติดต่อภายใต้กระทรวงสาธารณสุขลาว กล่าวกับงานแถลงข่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า ผู้ที่เดินทางเข้าสปป.ลาวจะถูกส่งไปยังศูนย์กักกันเป็นเวลา 14 วันเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนนำไวรัสเข้าประเทศ สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในสปป.ลาวปัจจุบันอยู่ในเกณฑ์ที่ดีซึ่งมียอดผู้ติดเชื้อต่ำที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถึงแม้ล่าสุดจะมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่ม 3 รายซึ่งมีความเชื่อมโยงกับประเทศไทยที่ตอนนี้เกิดการระบาดระลอกสอง ทำให้ต้องมีเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/2021-01/27/c_139701291.htm