กัมพูชาเตรียมเปิดประเทศ หลังอัตราการฉีดวัคซีนเป็นไปตามเป้าหมาย

หลังจากทางการกัมพูชาได้เร่งทำการฉีดวัคซีนเชิงรุกให้กับประชาชนภายในประเทศ ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นว่ากัมพูชามีโอกาสที่จะเปิดประเทศอีกครั้งก่อนประเทศเพื่อนบ้าน หลังผู้ก่อตั้ง X1 คาดการณ์ว่ากว่าร้อยละ 70 ของประชากรกัมพูชา จะได้รับการฉีดวัคซีนอย่างครบถ้วนภายในวันที่ 21 ก.ย. 2021 และคาดว่าจะครอบคลุมร้อยละ 80 ของประชากร ภายในวันที่ 31 ส.ค. 2021 ซึ่งกรุงพนมเปญยังเป็นเมืองหลวงที่ได้รับการฉีดวัคซีนมากที่สุดในโลก โดยคิดเป็นกว่าประมาณร้อยละ 99 ของผู้ใหญ่ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว ตามรายงานของ MSP ซึ่งนายกรัฐมนตรี ฮุนเซน ประกาศเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ว่าประชาชนจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 (Booster) ด้วยวัคซีน AstraZeneca ในระยะถัดไป โดยคาดว่าสิ่งแรกที่จะเกิดขึ้นหลังทำการเปิดประเทศ จะทำให้อุปสงค์ภายในประเทศปรับตัวดีขึ้น สนับสนุนการค้าปลีกและบริการอื่นๆ เช่น ร้านอาหาร ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการลงทุนเพิ่มเติม และในขณะที่ภาคการท่องเที่ยวจะค่อยๆกลับมาฟื้นตัวในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50917989/rapid-vaccination-rates-a-cause-for-celebration/

ทางการกัมพูชาคาด เศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 4.8 ในปี 2022

การเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาคาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปีหน้าเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอันเป็นผลมาจากโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของรัฐบาลเป็นไปได้ตามเป้าหมาย โดยการคาดการณ์การเติบโตนี้จัดทำโดยกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง ซึ่งได้รายงานในระหว่างการประชุมเชิงปฏิบัติการของรัฐสภา เรื่องการกำหนดกรอบนโยบายเศรษฐกิจมหภาคและการจัดสรรเงินสาธารณะในร่างกฎหมายว่าด้วยงบประมาณแผ่นดินประจำปี 2022 ซึ่งทางกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังได้เคยคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาไว้ก่อนหน้านี้ที่ร้อยละ 4 ในปี 2021 หลังจากหดตัวร้อยละ 3.1 ในปี 2020 แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดยังคงส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งจากโควิดสายพันธุ์เดลต้าที่กำลังแพร่กระจายไปทั่วประเทศ ส่งผลให้ทางการจึงต้องปรับลดอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจลงเหลือร้อยละ 2.4 ในปี 2021 และคาดว่ากัมพูชาจะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ร้อยละ 4.8 ในปี 2022 เนื่องจากสามารถฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนได้ครอบคลุมตามเป้าหมาย 10 ล้านรายในอนาคตอันใกล้ เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ภายในประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50918131/economic-growth-projected-at-4-8-percent-in-2022-deputy-pm/

การค้าระหว่างกัมพูชาและญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็น 1.1 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงครึ่งแรกของปี

การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ รายงานจากองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) แสดงให้เห็นว่าตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายน กัมพูชาส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังญี่ปุ่นมูลค่ารวม 814 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะเดียวกัน กัมพูชาทำการนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นมูลค่ารวมประมาณ 295 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 35 รวมปริมาณการค้าทวิภาคีมูลค่า 1.109 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าส่งออกสำคัญของกัมพูชาไปยังญี่ปุ่น ได้แก่ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เฟอร์นิเจอร์ เครื่องสำอาง กระดาษ เครื่องใช้สำนักงาน และเครื่องหนัง เป็นต้น ส่วนกัมพูชานำเข้าเครื่องจักร รถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เฟอร์นิเจอร์ ผ้า และพลาสติก จากประเทศญี่ปุ่นเป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50917490/cambodia-japan-trade-surges-in-first-half-of-2021-to-1-1-billion/

ทางการกัมพูชารายงานถึงการอนุมัติโครงการการลงทุนใหม่ ในอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม

ทางการกัมพูชารายงานถึงโครงการการลงทุนใหม่ 2 โครงการมูลค่ารวม 5.5 ล้านดอลลาร์ ที่ได้รับการอนุมัติจากสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) คือโครงการของบริษัท Collaboration Packaging Material Products Co., Ltd. กำลังสร้างโรงงานในเขตจังหวัดกันดาล เพื่อผลิตชิ้นส่วนสำหรับกระเป๋าและรองเท้า และโครงการของบริษัท Chasefire Outdoors (Cambodia) Co., Ltd. จะตั้งโรงงานในจังหวัดตาแก้ว เพื่อผลิตเสื้อผ้า กระเป๋า และอุปกรณ์ตั้งแคมป์ ซึ่งคาดว่าทั้งสองโครงการจะสร้างงานมากกว่า 1,200 ตำแหน่ง ให้กับคนในท้องถิ่น โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ CDC ได้อนุมัติโครงการการลงทุนใหม่กว่า 10 โครงการ ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการผลิตเสื้อผ้า กระเป๋าเดินทาง และรองเท้า รวมมูลค่าเกือบ 80 ล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะสร้างงานได้ประมาณ 11,500 ตำแหน่ง ซึ่งปีที่แล้วมีโรงงานกว่า 101 แห่งในกัมพูชาปิดตัวลง เนื่องจากผลกระทบจากโควิด-19 โดยส่วนใหญ่อยู่ในหมวดอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50917469/5-5-mn-of-investments-in-new-apparel-projects-will-create-1200-jobs/

กัมพูชาตั้งเป้าฉีดวัคซีนภายในประเทศ 10 ล้านคน โดยปัจจุบันฉีดไปแล้วกว่า 90%

กัมพูชาสามารถฉีดวัคซีนได้เกือบร้อยละ 90 ของกลุ่มเป้าหมายซึ่งได้กำหนดไว้ข้างต้นที่จำนวน 10 ล้านคน โดยตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2021 จนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2021 ทางการกัมพูชาได้ทำการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไปแล้วจำนวน 9,020,990 ราย ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 55.93 ของประชากรภายในประเทศ ที่มีจำนวนอยู่ที่ 16 ล้านราย นอกจากนี้ทางการกัมพูชายังได้ทำการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 (Booster) โดยใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 240,902 โดส ซึ่งได้เร่งทำการฉีดใน 7 จังหวัดที่มีชายแดนติดกับชายแดนของไทย รวมแล้วมีประชาชนจำนวน 7.5 ล้านราย มีสิทธิ์ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเป็นวัคซีนเข็มที่ 3 (Booster)

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50916552/more-than-90-percent-of-the-targeted-10-million-population-in-cambodia-to-be-vaccinated-by-today-against-covid-19/

กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชาหารือญี่ปุ่นส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร

กัมพูชาและญี่ปุ่นได้ร่วมประชุมระหว่างกันเพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีการส่งเสริมโครงการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในกัมพูชา โดยอธิบดีกระทรวงการท่องเที่ยวด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวและความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้จัดการประชุมทางวิดีโอกับ Naoya Okada ผู้แทนจากสถานทูตญี่ปุ่น และ Katsuhito Nabeshima ผู้ก่อตั้งบริษัท Yamato Green Co. Ltd. ซึ่ง Yamato Green ถือเป็นบริษัทญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในกรุงพนมเปญ ที่ใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงการเกษตรในกัมพูชา ยกระดับคุณภาพอาหารและความปลอดภัย รวมถึงส่งเสริมผลิตผลในท้องถิ่นในต่างประเทศ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและ Yamato Green ตกลงที่จะร่วมพัฒนาภาคการท่องเที่ยว ให้เกิดความหลากหลาย ในด้านของการท่องเที่ยวเชิงเกษตร การท่องเที่ยวตามธรรมชาติ การท่องเที่ยวชุมชน และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ซึ่งกระทรวงกำลังเตรียมโครงการนำร่องเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ในจังหวัดกำปงธม และโครงการปลูกพืชไร่ปลอดสารพิษ โดยภาคการท่องเที่ยวมีสัดส่วนเกือบร้อยละ 23 ของ GDP ซึ่งรัฐบาลกล่าวว่าภาคส่วนนี้จะเพิ่มอีกร้อยละ 1.6 ในปี 2021

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50916487/tourism-chief-holds-talks-with-japan-on-boost-to-agri-tourism/

ญี่ปุ่นเจรจาส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรภายในกัมพูชา

กัมพูชาและญี่ปุ่นร่วมหารือเกี่ยวกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร การพัฒนาและการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวหลังสิ้นสุดการระบาดของโควิด-19 โดยอธิบดีกรมการพัฒนาการท่องเที่ยวกัมพูชาร่วมกับพันธมิตรญี่ปุ่น ได้จัดการเตรียมความพร้อมสำหรับโครงการท่องเที่ยวเชิงเกษตรเพื่ออำนวยความสะดวกในการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศกัมพูชาหลังสิ้นสุดการระบาดใหญ่ ซึ่งคาดว่าการฟื้นตัวจะได้รับการส่งเสริมโดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและเชิงอนุรักษ์รูปแบบใหม่ ภายใต้ Green Belt ตลอดจนการส่งเสริมมูลค่าเพิ่มในการท่องเที่ยว ด้วยความร่วมมือนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวจึงได้จัดทำโครงการนำร่องการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและเทคนิคการเพาะปลูกสมัยใหม่ในอำเภอบาราย จังหวัดกำปงธม ซึ่งเป้าหมายของโครงการคือการศึกษาและค่อยๆ พัฒนาภาคการท่องเที่ยวเชิงเกษตรผ่านการปลูกผักและผลไม้ให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารสมัยใหม่ นอกจากนี้ยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและอำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิตของคนในท้องถิ่นอีกด้วย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50915060/cambodia-and-japan-in-talks-to-promote-agro-tourism-and-recovery-of-tourism-sector-post-pandemic/