รัฐบาลกัมพูชาเดินหน้าสร้างถนนสายใหม่เชื่อมสีหนุวิลล์

รัฐบาลกัมพูชาเร่งปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ภายในประเทศ โดยมุ่งมั่นที่จะสร้างถนนสายใหม่เพิ่มเติม 11 แห่ง ซึ่งจังหวัดสีหนุวิลล์ถือเป็นจังหวัดที่มีความพร้อมมากที่สุดในการเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโดยในปัจจุบันรัฐบาลได้จัดตั้งโครงการทางด่วนพนมเปญ-สีหนุวิลล์ ระยะทาง 190 กิโลเมตร มูลค่าโครงการ 2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2022 โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ดำเนินการฟื้นฟูถนน 34 สายภายในจังหวัดสีหนุวิลล์ มูลค่ารวม 294 ล้านดอลลาร์ ซึ่งปัจจุบันจังหวัดพระสีหนุกำลังถูกสนับสนุนให้เป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งของประเทศในการเชื่อมโยงไปยังพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ โดยธนาคารโลกประเมินให้กัมพูชาอยู่ในอันดับที่ 98 ของโลก ในด้านประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ ที่พิจารณาจากตัวชี้วัด 6 ประการ ได้แก่ พิธีการทางศุลกากร โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่งระหว่างประเทศ ความสามารถด้านโลจิสติกส์ การติดต่อและติดตาม ตลอดจนความตรงต่อเวลา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50902755/govt-presses-forward-with-new-roads-for-sihanoukville/

ในปัจจุบันกัมพูชามีท่าเรือทางแม่น้ำและทางทะเลรวมกันกว่า 100 แห่ง

กัมพูชามีท่าเรือภายในประเทศทั้งหมด 105 แห่ง โดยแบ่งออกเป็นท่าเรือริมแม่น้ำ 78 แห่ง ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง โตนเลสาบ โตนเลบาซัก และในจังหวัดต่างๆ และอีก 27 แห่ง คือท่าเรือทางทะเล ซึ่งกระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง (MPWT) ได้แบ่งปันข้อมูลตัวเลขดังกล่าวและเสริมว่าท่าเรือส่วนใหญ่ดำเนินเกี่ยวกับการค้า อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว ท่าเรือน้ำมัน และอื่นๆ โดยท่าเรือเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมกิจกรรมการค้าทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ สู่การพัฒนาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งรัฐมนตรีอาวุโสและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง MPWT ได้จัดประชุมไปเมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่ผ่านมา เกี่ยวกับกฎหมายท่าเรือที่จะมีบทบาทสำคัญในการจัดการและพัฒนาท่าเรือภายในประเทศ รวมถึงการส่งเสริมการค้าในประเทศและระหว่างประเทศในระยะถัดไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50902640/cambodia-has-over-100-river-and-sea-ports/

UN แนะกัมพูชาออกพันธบัตรและการจัดเก็บภาษีบาปมาพัฒนาเศรษฐกิจ

กัมพูชากำลังจะพ้นจากประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด สู่ประเทศที่มีรายได้ปานกลางระดับสูง ภายในปี 2027 หรือ 2028 ตามรายงานของสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) โดยรายงานคาดการณ์ว่าการจัดหาเงินทุนเพื่อการสนับสนุนการพัฒนาจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าคิดเป็นประมาณ 23.4 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2025 และคิดเป็นร้อยละ 68.9 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของกัมพูชา ภายใต้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาอย่างเป็นทางการ ซึ่งรวมถึงเงินช่วยเหลือและเงินให้กู้ยืม โดยทางด้าน UNDP ได้แนะนำกัมพูชาในการออกพันธบัตรรัฐบาลและตราสารทุนที่จะมีส่วนช่วยในการเร่งการพัฒนาระบบเศรษฐกิจ เพื่อเป็นการช่วยขยายฐานเงินได้ภายในประเทศเป็นสำคัญ โดยรายงานยังสำรวจความเป็นไปได้ของการจัดเก็บ “ภาษีบาป” จากธุรกิจคาสิโนที่เริ่มมีส่วนสำคัญในระบบเศรษฐกิจ ร่วมกับการเพิ่มภาษียาสูบในประเทศจากร้อยละ 25 สู่ร้อยละ 74 จะส่งผลทำให้รายรับภาครัฐจากการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นถึง 230 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 5 ปีข้างหน้า สู่การพัฒนาระบบเศรษฐกิจในระยะถัดไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50901375/un-development-programme-recommends-bond-issuance-sin-tax-to-develop-economy/

จำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตภายในกัมพูชาเพิ่มสูงขึ้น หลังเกิดการแพร่ระบาด

จำนวนสมาชิกผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือในกัมพูชา ณ ช่วงเดือนเมษายน 2021 มีจำนวนรวมอยู่ที่ 17.48 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความต้องการใช้บริการออนไลน์เพิ่มขึ้นในช่วงของการระบาด เช่นเดียวกับหมายเลขสมาชิกอินเทอร์เน็ตบ้านที่มีผู้ใช้เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นจำนวน 236,962 ราย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไปรษณีย์และโทรคมนาคมกล่าวว่าการเติบโตดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมเป็นหลักและเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลทำให้ผู้คนหันมาใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลมากขึ้น ปัจจุบันมีผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ 5 ราย ในกัมพูชา ได้แก่ Smart, Cellcard, Viettel, Cootel และ SeaTel ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไปรษณีย์และโทรคมนาคมกล่าวเพิ่มเติมว่ากระทรวงกำลังเร่งพัฒนาการสร้างโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพิ่มเติม การปรับปรุงบริการโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต การสร้างทรัพยากรมนุษย์ในท้องถิ่น การส่งเสริมความรับผิดชอบและความโปร่งใสในการจัดหาบริการสาธารณะ ผ่านการใช้ระบบดิจิทัล ในระยะถัดไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50901342/internet-users-surge-during-pandemic/

จังหวัดพระสีหนุของกัมพูชา จ่อขึ้นแท่นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมภายในประเทศ

จังหวัดพระสีหนุในกัมพูชาครองตำแหน่งจังหวัดยอดนิยมด้านการท่องเที่ยวภายในประเทศที่นักท่องเที่ยวภายในประเทศให้การยอมรับ โดยจังหวัดพระสีหนุได้ทำการต้อนรับนักท่องเที่ยวภายในประเทศจำนวน 532,380 คน เดินทางมายังจังหวัดชายฝั่งในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 117.9 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งคิดเป็นเกือบร้อยละ 59 ของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อนยังจังหวัดตามแนวชายฝั่ง ส่วนกรุงพนมเปญซึ่งเป็นเมืองหลวงได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวภายในประเทศลดลงมากที่สุดที่ร้อยละ 36.8 โดยมีนักท่องเที่ยวในท้องถิ่นจำนวน 374,196 คน รองลงมาคือเมืองเสียมราฐลดลงร้อยละ 30 ที่ได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวภายในประเทศเพียง 115,255 คน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50899216/preah-sihanouk-province-tops-domestic-tourism-destinations/

จำนวนผู้โดยสารทางอากาศของกัมพูชาลดลงร้อยละ 92 ในช่วงครึ่งปีแรก

จำนวนผู้โดยสารทางอากาศที่เดินทางผ่านสนามบินนานาชาติสามแห่งในกัมพูชาลดลงร้อยละ 92 คิดเป็นจำนวน 136,680 คน ในช่วง 6 เดือนแรกของปี รายงานโดยท่าอากาศยานกัมพูชาบริษัทผู้ดำเนินการท่าอากาศยานนานาชาติของกัมพูชา แสดงให้เห็นว่าท่าอากาศยานนานาชาติพนมเปญ (PNH) รองรับผู้โดยสารจำนวน 120,922 คน ลดลงร้อยละ 89.4 ในขณะที่ท่าอากาศยานนานาชาติเสียมเรียบ (REP) ลดลงถึงร้อยละ 99.9 โดยมีผู้โดยสารทั้งสิ้น 359 คน ส่วนสนามบินนานาชาติสีหนุวิลล์ (KOS) รองรับผู้โดยสารเพียง 15,399 คน ลดลงร้อยละ 91.8 ซึ่งท่าอากาศยานกัมพูชารายงานเพิ่มเติมระบุว่าเที่ยวบินภายในประเทศลดลงถึงร้อยละ 78.7 แต่อย่างไรก็ตาม การส่งออกกลับปรับตัวเติบโตในเชิงบวก โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ในช่วง 6 เดือนแรกของปี ซึ่งในปี 2020 จำนวนผู้โดยสารเดินทางผ่านสนามบินลดลงเป็นอย่างมากถึงร้อยละ 81.3 คิดเป็นจำนวน 2.13 ล้านคนในปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50898857/air-passengers-drop-by-92-percent-in-first-half/

กัมพูชาจัดเก็บภาษีในช่วงครึ่งปีแรกรวม 1.5 พันล้านดอลลาร์

กรมจัดเก็บภาษีกัมพูชา (GDT) รวบรวมรายได้จากการจัดเก็บภาษีมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2021 ลดลงร้อยละ 10.60 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 67.58 ของแผนการจัดเก็บภาษีประจำปี โดยกรมจัดเก็บภาษี (GDT) ได้เร่งดำเนินการตามนโยบายการปฏิรูปเชิงลึกของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด เพื่อให้งานการจัดเก็บภาษีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านมาตรการสำคัญต่างๆ รวมถึงการเสริมสร้างความเข้มแข็งและการจัดการการปฏิรูประบบภาษี การปรับปรุงระบบ e-filling การเสริมการจัดเก็บภาษี และอื่นๆ ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาตั้งเป้าที่จะจัดเก็บภาษีอยู่ที่ประมาณ 2.243 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50898476/over-1-5-billion-collected-in-tax-revenue-in-first-semester/