จีนสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในชนบทบรรเทาปัญหาความยากจนในสปป.ลาว

สปป.ลาวและจีนได้เปิดตัวเฟสแรกของโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในชนบทโดยจีนเพื่อบรรเทาความยากจนในแขวงหลวงพระบางและเวียงจันทน์ การดำเนินการจะใช้เวลาอย่างน้อย 18 เดือนและได้รับการสนับสนุนจากข้อตกลงระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากสองประเทศ โดยกรอบของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจะมีลำดับความสำคัญอยู่สี่ประการหลักๆของโครงการเรียกว่า“ 4X100” ประกอบด้วยการติดตั้งระบบน้ำสะอาดในหมู่บ้าน 100 แห่ง การก่อสร้างตู้จ่ายยาหรือโรงพยาบาลชุมชน 100 แห่ง การจ่ายไฟฟ้าให้ครัวเรือนใน 100 หมู่บ้านและการติดตั้งระบบดิจิตอลดาวเทียม โทรทัศน์ใน 100 หมู่บ้าน เพื่อลดความยุ่งยากในการดำเนินโครงการ 400 โครงการพร้อมกันจึงตัดสินใจแบ่งโครงการเหล่านี้ออกเป็นระยะต่างๆ เพื่อให้การดำเนินโครงการมีประสิทธิภาพในทุกจังหวัดของลาว

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_China64.php

จำนวนผู้ลงทะเบียนใช้อินเตอร์เน็ตในกัมพูชาเพิ่มขึ้นในปี 2020

จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งโทรศัพท์พื้นฐานและโทรศัพท์เคลื่อนที่ในกัมพูชาเพิ่มขึ้นในปีที่แล้วเนื่องจากมีความต้องการใช้สื่อออนไลน์เพิ่มขึ้นในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัส ขณะที่จำนวนผู้ใช้งานซิมการ์ดภายในประเทศลดลง โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไปรษณีย์และโทรคมนาคม (MPT) กล่าวว่ามีผู้ใช้งานมากกว่า 16 ล้านคน ในกัมพูชาได้ลงทะเบียนใช้อินเทอร์เน็ตเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งรวมถึงผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือและโทรศัพท์พื้นฐาน โดยการเติบโตของจำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตมาจากการได้รับการสนับสนุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมเป็นหลัก และเนื่องจากการแพร่ระบาดทำให้ผู้คนหันมาใช้อินเทอร์เน็ตบนแพลตฟอร์มดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีผู้ให้บริการด้านโทรศัพท์มือถือ 5 ราย ในกัมพูชา ได้แก่ Smart, Cellcard, Viettel, Cootel และSeaTel และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตพื้นฐานอีก 42 ราย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50828681/number-of-registered-internet-subscribers-increases-in-2020/

Fitch Solutions ชี้เศรษฐกิจเวียดนามโต 6.5% ต่อปีในอีก 10 ปีข้างหน้า

Fitch Solutions คาดการณ์เศรษฐกิจเวียดนามจะเติบโต 6.5% ต่อปี ในอีก 10 ปีข้างหน้า เนื่องจากรัฐบาลส่งเสริมการกระจายตลาดส่งออกและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน โดยข้อตกลงการค้าเสรีจะเป็นแรงผลักดันให้เวียดนามเข้าถึงตลาดต่างประเทศและลดการพึ่งพาคู่ค้ารายเดียว อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญต่อการผลักดันไปข้างหน้า คือการที่ภาครัฐฯ ตั้งเป้าที่จะก้าวไปสู่ห่วงโซ่คุณค่าและส่งเสริมอุตสาหกรรมไฮเทค ทั้งนี้ ด้านการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานนั้น ในอีก 5 ปีข้างหน้า เวียดนามเล็งสร้างทางด่วนเหนือ-ใต้ และช่วงเฟสแรกจะเป็นของสนามบินนานาชาติลองแถ่ง (Long Thanh) และถนนเลียบชายฝั่งกว่า 1,700 กม. จากจังหวัดกว๋างนิญไปยังจังหวัดก่าเมา นอกจากนี้แล้ว ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของเวียดนาม เติบโต 2.9% ในปีที่แล้ว เหตุจากสถานการณ์การแพร่เชื้อของไวรัสโควิด-19 ถึงแม้ว่าจะเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่บรรลุการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/economy/vietnam-to-grow-6-5-pct-annually-in-next-decade-fitch-4245706.html

ถนนในเมืองได้รับการปรับปรุงเพื่อการจราจรและขนส่งที่ดีขึ้น

ถนนหลายสายทั่วเมืองหลวงได้รับการปรับปรุงหรือซ่อมแซมโดยมีจุดประสงค์เพื่อปรับปรุงการจราจรและทำให้การขับขี่ง่ายขึ้นโดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน โดยโครงการจะมีงบประมาณลงทุน 2.4 พันล้านกีบ นอกจากนี้กระทรวงโยธาธิการและการขนส่งยังได้ปรับปรุงถนนแห่งชาติหมายเลข 13 ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อการขนส่งและการขนส่งสินค้าที่สำคัญระหว่างสปป.ลาวและประเทศเพื่อนบ้านไม่ว่าจะเป็น จีน เวียดนามไทยและกัมพูชา ทั้งนี้การส่งเสริมดังกล่าวนอกจากกจะเป็นการลงทุนเพื่อให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจแล้วถนนที่ปรับปรุงยังเป็นส่วนช่วยสนับสนุนการค้าระหว่างชายแดนสปป.ลาวและเพื่อนบ้านอีกด้วย

ที่มา https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_City_41.php

ญี่ปุ่นตอกย้ำการร่วมพัฒนาเมืองของกัมพูชา

ฟอรัมครั้งที่สองระหว่างกัมพูชากับญี่ปุ่น ตอกย้ำการพัฒนาเขตเมืองกัมพูชาให้เป็นเมือง “อัจฉริยะ” ซึ่งทำการประชุมผ่านทางออนไลน์ระหว่างกระทรวงการจัดการที่ดินการวางผังเมืองและการก่อสร้าง (MLMUPC) ของกัมพูชา และกระทรวงที่ดินโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งและการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวง MLMUPC กล่าวถึงการประชุมที่จัดขึ้นเพื่อผลักดันโอกาสทางธุรกิจให้เกิดความต่อเนื่องระหว่างสองประเทศ และส่งเสริมการลงทุนจากญี่ปุ่นมายังกัมพูชาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในการพูดคุยกันรัฐมนตรีกระทรวงฯ ของญี่ปุ่นกล่าวว่าญี่ปุ่นจะสนับสนุน แบ่งปันแนวทางในการปฏิบัติ และประสบการณ์ที่ดีกับกัมพูชา เกี่ยวกับการขยายตัวของเมืองโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้รัฐบาลกัมพูชาถือว่าภาคเอกชนเป็นกลไกในการผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจและมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ การพัฒนาการจ้างงาน การส่งเสริม SMEs ไปจนถึงการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 (IR4.0) ของกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50815380/japan-cambodia-forum-reinforces-urban-development-in-kingdom/

สปป.ลาวสร้างเมืองใหม่ในเวียงจันทน์

ทางการเวียงจันทน์กำลังดำเนินการสร้างเมืองใหม่ซึ่งจะเมืองที่ 10 ในนครเวียงจันทร์ ซึ่งเมืองใหม่จะตั้งอยู่ระหว่างเมืองปากงึ่มและเมืองชัยธานี ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเวียงจันทน์ โดยจะมีหมู่บ้าน 24 แห่งรวมทั้งหมู่บ้าน 5 แห่งที่มีอยู่แล้วในเมืองปากงึ่ม และอีก 3 แห่งในเมืองชัยธานี งานพัฒนาเมืองเริ่มในปี 61 และขณะนี้ทางการกำลังเตรียมสร้างโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ เช่น อาคารสำนักงาน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปีนี้ นายกเทศมนตรีนครเวียงจันทน์กล่าวว่าเมืองใหม่นี้อยู่ในสภาพแวดล้อมแบบชนบทมีพื้นที่ป่าและเนินเขาตลอดจนแม่น้ำ ยังมีตาดซอยวอย ซึ่งเป็นน้ำตกยอดนิยมของนักท่องเที่ยว และพื้นที่ใกล้เคียงของเมืองปากงึ่มเป็นที่ตั้งของน้ำกัดยอละปา ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเช่นกัน การก่อสร้างเมืองใหม่เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การพัฒนาของเวียงจันทน์ในปี 68 และแผนการพัฒนาชานเมืองให้เป็นย่านการค้าและที่อยู่อาศัย เมืองชัยธานีมีขนาดใหญ่และมีหมู่บ้านมากกว่า 100 แห่งซึ่งมีครัวเรือนกว่า 43,900 ครัวเรือน เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างชนบทจึงมีศักยภาพที่แข็งแกร่งสำหรับการเกษตรและการท่องเที่ยว การพัฒนาเมืองใหม่จะให้สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการสาธารณะมากขึ้นสำหรับผู้อยู่อาศัยในเมืองชัยธานี และช่วยบรรเทาความแออัดของประชากรอีกด้วย

ที่มา : https://www.thestar.com.my/aseanplus/aseanplus-news/2021/02/10/laos-to-create-new-district-in-vientiane

สปป.ลาวปรับปรุงชลประทานเพื่อการผลิตทางการเกษตรที่ยั่งยืน

โครงการปรับปรุงชลประทานนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ไขปัญหาด้านชลประทานรวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในชนบทและการจัดการลุ่มน้ำในจังหวัดที่เป็นภูเขาทางตอนเหนือของสปป.ลาว โดยใช้แนวทางการวางแผนการใช้ที่ดินแบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพยั่งยืนและยืดหยุ่นได้ นอกจากนี้โครงการนี้จะช่วยเพิ่มเป้าหมายการส่งออกข้าวของรัฐบาลในปีนี้ไปยังตลาดโลก เนื่องจากสปป.ลาวมีแผนส่งข้าวขัดสี 2,000 ตันไปยังจีนในเดือนมกราคมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงโควต้าการค้าระหว่างรัฐบาลลาวและจีน โครงการดังกล่าวจะเป็นส่วนช่วยสำคัญในการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรของสปป.ลาวอย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Norther18.php

รัฐบาลสปป.ลาวสนับสนุนการลงทุนของภาคเอกชนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

รัฐบาลสปป.ลาวได้ออกพระราชกฤษฎีกาเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโครงสร้างด้านสาธารณูปโภค โดยโครงการทั้งหมดจะทำผ่านโครงการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) โครงการ PPP กำลังแพร่หลายในสปป.ลาวเนื่องจากรัฐบาลต้องการการลงทุนจำนวนมากเพื่อปรับปรุงโครงข่ายถนนทางรถไฟและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ จากข้อมูลด้านการลงทุนภายในประเทศพบว่า การลงทุนของภาคเอกชนคิดเป็นมากกว่าร้อยละ 50 ของการลงทุนทั้งหมดในสปป.ลาว ทำให้รัฐบาลสปป.ลาวมุ่งมั่นที่จะเสนอสิ่งจูงใจเพื่อส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชน อย่างไรก็ตามการลงทุนในแต่ละโครงการต้องพิจารณาถึงส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือสุขภาพของชุมชนท้องถิ่นควบคู่ไปด้วย ตามแผนยุทธศาสตร์แห่งชาติสปป.ลาวที่สนับสนับการลงทุนที่ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อม

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt_16.php

เวียดนามลุยลงทุนโครงการไฟฟ้าพลังงานน้ำ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

การไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) เริ่มก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานน้ำ ด้วยมูลค่า 9.22 ล้านล้านดอง (400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำดาซัง โดยการลงทุนดังกล่าว ประกอบด้วยนักลงทุนราว 30% และอีก 70% มาจากธนาคารพาณิชย์ของรัฐ (Vietcombank) และหน่วยงาน Agence Francaise de Developpement (AFD) อีกทั้ง ผู้รับเหมาในประเทศ ได้แก่ บริษัท Truong Son Construction Corp ภายใต้กระทรวงกลาโหม และบริษัทร่วมทุน Construction Joint Stock Company 47 รายและบริษัทร่วมทุน Lilama 10 จะดำเนินการสร้างโรงงานขยายกำลังการผลิต 480 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าโครงการไฟฟ้าพลังงานน้ำแห่งนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าทางอุตสาหกรรมและความทันสมัยของเวียดนาม นอกจากนี้ ผู้อำนวยการการไฟฟ้าเวียดนาม นาย Tran Dinh Nhan กล่าวว่าโรงงาน Hoa Binh มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ประโยชน์จากแม่น้ำดาซังอย่างเต็มที่และใช้น้ำที่อุดมสมบูรณ์ในฤดูน้ำหลาก เพื่อที่จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยต่อระบบไฟฟ้าของประเทศ

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnam-kicks-off-us400-million-hydropower-project-315865.html

การก่อสร้างสะพานแห่งที่ 5 ที่เชื่อมระหว่างสปป.ลาวและไทย

การก่อสร้างสะพานแห่งที่ 5 ที่เชื่อมระหว่างสปป.ลาวและไทยข้ามแม่น้ำโขงได้เริ่มขึ้นหลังจากมีการลงนามในข้อตกลงในเดือนธ.ค. จะใช้เวลาสร้าง 36 เดือนจะเชื่อมแขวงบอลิคำไซในสปป.ลาวกับจังหวัดบึงกาฬของไทย ขณะนี้งานมีศูนย์กลางอยู่ที่บริเวณที่จะสร้างสะพานและสถานที่ตรวจคนเข้าเมือง กำลังเคลียร์ที่ดินบนพื้นที่ 50 เฮกเตอร์ก่อนที่จะเริ่มการก่อสร้างและตอนนี้งานนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว 80% ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างทั้งหมดประมาณ 130.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสปป.ลาวจะต้องรับผิดชอบบางส่วน 46.13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต้นทุนการก่อสร้างของสปป.ลาวจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศเพื่อนบ้านของไทยผ่านการจัดหาเงินกู้ เมื่อสะพานสร้างเสร็จในปี 66 จะช่วยให้แขวงบอลิคำไซกลายเป็นศูนย์กลางการค้าในภูมิภาคอีกแห่งและเป็นเส้นทางขนส่งสำหรับสปป.ลาว ไทยและเวียดนามในระยะทางเพียง 150 กม. สะพานดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงและยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี – เจ้าพระยา – แม่โขง ระหว่างสปป.ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ เวียดนามและไทย จะทำให้สปป.ลาวได้รับประโยชน์จากบริการขนส่งสาธารณะรวมทั้งดึงดูดการค้าและการลงทุนมากขึ้น รวมถึงการเพิ่มขึ้นของการท่องเที่ยว แต่ทางการจำเป็นต้องจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมและปรับปรุงบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้มาเยือน

ที่มา : https://www.straitstimes.com/asia/construction-of-fifth-lao-thai-bridge-begins