รัฐมนตรีสหภาพแรงงานและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจต่างประเทศ เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 30

คณะผู้แทนเมียนมานำโดย ดร.คาน ซอ รัฐมนตรีสหภาพแรงงานและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจต่างประเทศ เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 30 ซึ่งจัดขึ้นที่หลวงพระบาง สปป.ลาว ระหว่างวันที่ 8-9 มีนาคม 2567 รัฐมนตรี โดยการประชุมดังกล่าวมีนายมาลัยทอง คมมสิต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ สปป. ลาว เป็นประธาน และมีรัฐมนตรีเศรษฐกิจจากอาเซียน และติมอร์เลสเต เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจ (SEOMs) และผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน สมาชิกสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน เลขาธิการอาเซียน รองเลขาธิการประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และเจ้าหน้าที่ ในช่วงแรกของการประชุม สภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียนได้นำเสนอลำดับความสำคัญสำหรับปี 2567 และข้อเสนอแนะสำหรับการเสริมสร้างการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ส่วนในช่วงที่ 2 ของการประชุม รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนได้หารือและให้แนวทางกิจกรรมต่างๆ ที่จะดำเนินภายใต้เสาหลักเศรษฐกิจอาเซียน ตามผลการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 43 รวมถึง ลำดับความสำคัญสำหรับปี 2024 ประเด็นการลงนามข้อตกลงเศรษฐกิจอาเซียน ความคืบหน้าของการเจรจายกระดับความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน และ ความคืบหน้าของการเจรจากรอบความตกลงเศรษฐกิจอื่นๆ อย่างไรก็ดี เขายังแสดงความจำเป็นที่จะต้องเร่งการเจรจาเพื่อให้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (3.0) ยกระดับการเจรจาให้แล้วเสร็จภายในปี 2567 เกี่ยวกับการจัดตั้งหน่วยสนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) นอกจากนี้ รัฐมนตรีสหภาพเมียนมาเน้นย้ำว่า กำลังทำงานร่วมกับประเทศสมาชิก ในฐานะประเทศสมาชิก จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรักษาหลักการของความเสมอภาค พันธกรณีร่วมกัน และความเป็นศูนย์กลางของอาเซียน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/mifer-union-minister-attends-30th-asean-economic-ministers-retreat-meeting/

สปป.ลาว เสนอขายไฟฟ้าพลังงานลมกว่า 4,000 เมกะวัตต์ ให้เวียดนาม

ไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานลมใน สปป.ลาว จะถูกส่งขายไปยังเวียดนามผ่านสายส่งของจังหวัดก๋วงตริ นักลงทุนลาววางแผนที่จะเสนอพลังงานลมมากกว่า 682 เมกะวัตต์ก่อนปี 2568 และส่วนที่เหลือจะส่งมอบในภายหลัง แม้จะมีข้อเสนอดังกล่าว แต่โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ในพื้นที่อาจจำกัดปริมาณไฟฟ้าที่ขายได้ ในช่วงฤดูแล้งและช่วงเวลาอื่นๆ โดยทั่วไปจังหวัดก๋วงตริของเวียดนามสามารถรองรับไฟฟ้าได้สูงสุด 300 MV เท่านั้น เนื่องจากการทำงานเต็มกำลังการผลิตคือ 200 กิโลโวลต์ (KV) และ 110 KV ในพื้นที่ EVN ระบุว่าด้วยโครงสร้างพื้นฐานในปัจจุบัน จังหวัดก๋วงตริสามารถรองรับไฟฟ้าจาก สปป.ลาว ได้เพียง 2,500 เมกะวัตต์ ซึ่งน้อยกว่าที่นักลงทุนลาวตั้งเป้าที่จะขายอย่างมาก

ที่มา: https://laotiantimes.com/2024/03/01/laos-proposes-selling-over-4000-mw-of-wind-power-to-vietnam/

นายกฯ สปป.ลาว แนะให้จัดการการลงทุนด้านพลังงานและเหมืองแร่ที่มีประสิทธิภาพ

นายกฯ สปป.ลาว แนะให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ ให้มีการจัดการโครงการลงทุนด้านพลังงานและเหมืองแร่ที่มีประสิทธิผลมากขึ้น โดยนายกฯ ได้สั่งให้กระทรวงพลังงานและเหมืองแร่หาแนวทางที่เข้มงวดมากขึ้นในด้านการทำงานของกระทรวง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ นายกรัฐมนตรียังขอให้กระทรวงพลังงานฯ ให้ความสำคัญกับงานด้านอื่น ๆ รวมถึงการทบทวนนโยบายการจัดหาไฟฟ้าในทุกภาคส่วนของสังคม เพื่อให้แน่ใจว่ามีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม และออกแบบมาเพื่อบรรเทาระดับความยากจน และเรียกร้องให้กระทรวงพลังงานฯ ช่วยปฏิบัติตามมติของรัฐบาลเกี่ยวกับการใช้ยานพาหนะไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น และการใช้แหล่งพลังงานสะอาดที่มีอยู่ในประเทศลาวให้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังขอให้ประเมินความคืบหน้าของการดำเนินการสำรวจและแปรรูปแร่ที่ยังไม่แล้วเสร็จ และกำหนดเกณฑ์เฉพาะสำหรับการออกใบอนุญาตของบริษัทพัฒนาเหมืองแร่และการลงทุน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_45_PM_Call_y24.php

สปป.ลาว และติมอร์-เลสเต กระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือทวิภาคี

ประธานาธิบดี สปป.ลาว และติมอร์-เลสเต เห็นพ้องที่จะกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือทวิภาคีในภาคส่วนต่างๆ ที่ทั้งสองประเทศมีศักยภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจ เช่น เกษตรกรรม พลังงาน การบริการและการท่องเที่ยว และการลงทุนในด้านอื่นๆ เป็นต้น โดยข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างเดินการเยือน สปป.ลาว ของ ดร.โฮเซ่ รามอส-ฮอร์ตา ประธานาธิบดีติมอร์-เลสเต และคณะผู้แทน ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ถึง 2 มีนาคม ตามคำเชิญของประธานาธิบดีทองลุน สีสุลิด ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีระหว่าง สปป.ลาวและติมอร์-เลสเต เพื่อเป็นกลไกในการส่งเสริมความร่วมมือ ตลอดจนติดตามและดำเนินการตามข้อตกลงที่ทำขึ้นระหว่างรัฐบาลทั้งสอง เพื่อให้แน่ใจว่าข้อตกลงดังกล่าวได้รับการปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_44_LaosTimor_y24.php

อัตราเงินเฟ้อ สปป.ลาว แตะระดับ 25.35% ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567

สปป.ลาว ยังคงเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ขยายตัวอยู่ที่ 25.35% เพิ่มขึ้นจาก 24.44% ในเดือนก่อน โดยเงินเฟ้อในหมวดโรงแรมและร้านอาหารมีการปรับขึ้นราคาสูงสุด ขยายตัวที่ 35.1% แต่ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับตัวเลขในเดือนก่อน ขณะที่สินค้าหมวดอื่นๆ ที่ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อในเดือนนี้ ได้แก่ เสื้อผ้าและรองเท้า การรักษาพยาบาลและยา อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ และการสื่อสารและการขนส่ง สินค้าทั้งหมดนี้มีราคาเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ 22.6% ถึง 35.1% โดยมีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น ประการแรก ความต้องการที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาล เช่น เทศกาลเวียดนามและตรุษจีน ส่งผลให้ราคาอาหารสูงขึ้น ประการที่สอง ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น โดยดีเซลเพิ่มขึ้น 7% และน้ำมันเบนซิน 5% ส่งผลให้สถานการณ์เลวร้ายลง ประการสุดท้าย การอ่อนค่าของเงินกีบเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ได้แก่ ดอลลาร์สหรัฐฯ และบาทไทย ส่งผลให้เสถียรภาพทางเศรษฐกิจตึงตัวมากขึ้น โดยเงินกีบอ่อนค่าลง 1.70% และ 0.61% ตามลำดับ

ที่มา : https://laotiantimes.com/2024/03/01/laos-inflation-hits-25-35-percent-in-february/

โครงการปรับปรุงถนนสายหลักในเวียงจันทน์จะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2568

บริษัท ตั้งเจริญ กรุ๊ป จำกัด ในฐานะผู้รับเหมาโครงการปรับปรุงถนนสายหลักในเวียงจันทน์ ให้ความมั่นใจแก่ประชาชนว่างานปรับปรุงถนนทั้งหมดจะแล้วเสร็จตามกำหนดเวลา แม้งานปรับปรุงถนนยังดำเนินอยู่ก็ตาม เขาเรียกร้องให้ชาวบ้านและผู้ขับขี่รถยนต์อดทนและใช้ความระมัดระวังขณะเดินทางผ่านพื้นที่สูงในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ งานก่อสร้างที่กำลังดำเนินอยู่ ได้แก่ การวางท่อระบายน้ำบริเวณหนองแตง-สีคิ้ว และการทำความสะอาดถนนบริเวณหนองหนองเหนียว-นาเลา-ทองปอง อำเภอสีโคตรบง เจ้าหน้าที่กำลังขยายพื้นที่และปรับพื้นผิวถนนให้กว้างขึ้น เพื่อเตรียมการปูผิวทางคอนกรีตให้มีคุณภาพใกล้เคียงกับช่วงสีน้ำมัน-โพนหงส์ เมื่อแล้วเสร็จถนนจะมี 4 เลน โดยมีแถบตรงกลางกว้าง 2 เมตร และมีเลนสำหรับมอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะในแต่ละด้าน นอกจากนี้ จะมีการสร้างทางเท้ากว้าง 1.5 เมตร ทั้งสองด้าน ขยายความกว้างของถนนเป็น 23 เมตร

ที่มา : https://laotiantimes.com/2024/02/28/major-road-upgrade-project-in-vientiane-nearing-completion-by-march-2025/

แขวงสาละวัน สปป.ลาว เริ่มก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำแห่งใหม่

โรงไฟฟ้าพลังน้ำแห่งใหม่กำลังถูกสร้างขึ้นในแขวงสาละวัน โดยการก่อสร้างจะเริ่มหลังจากการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการผ่านความเห็นชอบ ซึ่งจะมีกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 13 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ ระหว่างพิธีเปิดงานก่อสร้าง ดร.ดาววง พอนแก้ว เจ้าแขวงสาละวัน พร้อมตัวแทนของนักพัฒนาลาว 2 ราย และเจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ ได้ลงนามสัญญาที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงการ การบริหารโครงการ การซื้อและขายไฟฟ้า และด้านอื่นๆ ของโครงการ โดยนักพัฒนาคาดหวังว่าสิ่งก่อสร้างของโรงไฟฟ้าจะพร้อมใช้งานภายในสิ้นปีนี้และระหว่างปี 2568 เมื่อโรงไฟฟ้าพลังน้ำเปิดดำเนินการ แขวงสาละวันจะได้รับประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น เกิดการสร้างงาน เป็นต้น

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_42_Saravan_y24.php