เวียดนามเผยวิกฤติโควิด-19 ทำคนตกงานกว่า 1 ล้านคน ในไตรมาสแรกปีนี้

ตลาดแรงงานยังคงได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 ทำให้จำนวนคนว่างงานในไตรมาสแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นแตะราว 1.1 ล้านคน และอัตราการว่างงานอยู่ที่ 2.42% เพิ่มขึ้น 0.08% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สำนักงานสถิติแรงงาน ภายใต้สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) ระบุว่าในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค. จำนวนแรงงานทั้งหมด 9.1 ล้านคนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ล้วนได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งจำนวนแรงงาน 540,000 คนต้องออกจากงาน และ 2.8 ล้านคนที่ถูกปลดงานเป็นการชั่วคราว และอีก 3.1 ล้านคน ลดชั่วโมงการทำงานลงหรือพักงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง ในขณะที่ 6.5 ล้านคนได้รับรายได้น้อยกว่าเดิม ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาตลาดแรงงาน ทางสำนักงานสถิติแห่งชาติแนะให้รัฐบาลเร่งทดลองเปิด ‘วัคซีนพาสปอร์ต’ พร้อมกับกำหนดหลักเกณฑ์ต้องรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ที่มา : http://hanoitimes.vn/over-1-million-people-lose-jobs-on-covid-19-in-q1-gso-317039.html

รัฐมนตรีฯกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา มองมุมบวกหลังเกิดการแพร่ระบาด

กัมพูชายังมองว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ถือเป็นโอกาสสำหรับการปฏิรูปเพิ่มเติมตามแผนยุทธศาสตร์ Rectangular Strategy Phase IIII ของรัฐบาล เพื่อเร่งการเติบโตของประเทศและกระตุ้นการค้า กล่าวโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในขณะที่เป็นประธานในการเปิดการทบทวนงานของกระทรวงในปี 2020 และการวางแผนสำหรับปี 2021 ซึ่งมองว่ากัมพูชาสามารถคว้าโอกาสในการเพิ่มการผลิตภายในท้องถิ่น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เกิดขึ้นใหม่ ตามที่รัฐมนตรีกล่าวว่าการส่งออกของกัมพูชาในปี 2020 เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 หลังประเทศได้ทำข้อตกลงการค้าเสรีทวิภาคี ชี้ให้เห็นถึงโอกาสของผู้ประกอบการด้านการส่งออกของประเทศไปยังกลุ่มประเทศที่ได้ทำการลงนามข้อตกลงเบื้องต้นไว้แล้ว ในขณะเดียวกันกระทรวงยังคงเสริมสร้างขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่เพื่อรับมือกับความท้าทายทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก รวมถึงการปฏิรูประบบการทำงานของหน่วยงานราชการที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50835111/minister-picks-a-positive-side-of-the-pandemic/

HSBC ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจเวียดนาม

ธนาคาร HSBC ปรับคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจของเวียดนามในปีนี้ จาก 7% เป็น 6.6% หลังจากในไตรมาสแรก การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ GDP ขยายตัว 4.48% ในไตรมาสแรกของปีนี้ อย่างไรก็ตาม การเข้ามาของเทคโนโลยีเพิ่มสูงขึ้นและเม็ดเงิน FDI ที่ไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนข้อตกลงการค้าเสรีที่เวียดนามร่วมลงนามหลายฉบับ ทำให้เวียดนามยังคงเป็นดาวเด่นในเอเชีย ทั้งนี้ การส่งออกในไตรมาสแรก พุ่ง 20% เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากความต้องการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องจักรสูงขึ้น นอกจากนี้ ธนาคารโลก (World Bank) คาดการณ์เศรษฐกิจเวียดนามโตเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกและภูมิภาคแปซิฟิกในปี 2564 ด้วยอัตราการขยายตัว 6.6% อีกทั้ง ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์เศรษฐกิจเวียดนามโต 6.1% และ 6.5% ตามลำดับ

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/economy/hsbc-grows-less-bullish-on-vietnam-growth-prospects-4256989.html

อยากมีงานทำต้องรู้! 1 ตำแหน่งงานว่าง คู่แข่งร่อนใบสมัคร 100 สูงสุด 1,000 ใบ

จ๊อบส์ ดีบีฯ ชี้สัญญาณบวก โรงงานอุตสาหกรรมกลับมาผลิต ส่งผลการจ้างแรงงานเพิ่ม ระบุกลุ่มเทคโนโลยี-ไอที ยังเป็นมนุษย์ทองคำ เงินเดือนสูง จับตาสายงานใหม่ติดโผ ทั้งบล็อกเชน ที่ปรึกษาการลงทุนสกุลเงินดิจิทัล ผู้จัดการคลาวด์คิทเช่น นักสืบไซเบอร์ เผยเด็กจบใหม่ มีศักยภาพเรียกเงินเดือน 6-7 หมื่นบาท และแนวโน้มทิศทางตลาดแรงงานหลังวิกฤตจะกลับมาโตได้ 5% ทั้งนี้ยังมีความต้องการแรงงานทักษะสูงจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ และภาษา แต่ทักษะแรงงานกว่า 70% อยู่ในระดับปานกลางถึงต่ำเพราะตลอดหลายปีที่แทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยเพราะยังมีงานทำจึงไม่ได้ปรับเปลี่ยนมากนัก

ที่มา: https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/929850

ประธานาธิบดีสปป.ลาวคนใหม่เผชิญกับหนี้จีนที่เพิ่มขึ้นและเศรษฐกิจที่ย่ำแย่

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาสมาชิกสภาแห่งชาติสปป.ลาวได้เลือกนายทองโหลน สีสุลิธ เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศโดยมอบความไว้วางใจให้ผู้นำคนใหม่นำสปป.ลาวไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว ส่วนหนึ่งของอุปสรรคและความท้าทายของผู้นำคนใหม่คือการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับความเสียหายจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ถึงแม้สปป.ลาวจะไม่ได้รับผลกระทบมากนักแต่ประเทศที่สปป.ลาวพึ่งพาอย่างไทย จีน ล้วนได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจจากโควิด-19 ทำให้สปป.ลาวได้รับผลกระทบไปด้วย เห็นได้ชัดจากกรณีการปิดด่านชายแดนและมาตรการที่เข้มงวดส่งผลให้การค้าชายแดนหดตัวอย่างมาก นอกจากนี้ปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนคือหนี้จากการกู้ยืมจากจีน ซึ่งถือเป็นหนี้ก้อนใหญ่ที่สุดของสปป.ลาวในการกู้มาเพื่อลงทุนหากไม่ได้รับการแก้ไข หนี้ก่อนนี้อาจทำให้สปป.ลาวต้องสูญเสียพื้นตามแนวรถไฟให้แก่จีนเพื่อเป็นการชดใช้หนี้ อย่างไรก็ตามขณะนี้รัฐบาลเริ่มมีการรัดเข็มขัดด้านงบประมาณและเข้มงวดด้านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้นเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของการใช้งบประมาณ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นแนวทางเพื่อการรชำระหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา : https://asia.nikkei.com/Politics/New-Laos-president-faces-rising-China-debt-and-battered-economy

ผู้นำใหม่พยายามสร้างสภาพแวดล้อมการพัฒนาที่ยั่งยืนในสปป.ลาว

นายทองลุน สีสุลธิ์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของสปป. ลาวได้ให้คำมั่นว่าจะสร้างสภาพแวดล้อมที่จะทำให้สปป.ลาวมีเสถียรภาพและความมั่นคงทั่วประเทศตลอดจนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า รัฐบาลใหม่ภายใต้การนำโดยนายทองลุน จะดำเนินนโยบายต่างประเทศเพื่อสันติภาพ เอกราช มิตรภาพและความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในภูมิภาคและโลกด้วย คำมั่นดังกล่าวมีนัยสำคัญที่บ่งบอกถึงกลยุทธ์ในการพัฒนาของสปป.ลาวในอนาคตที่จะหันมาพึ่งความร่วมมือจากข้อตกลงต่างๆที่ได้ทำไว้กับนานาประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญในหลายปีผ่านมาที่ทำให้สปป.เติบโตได้อย่างต่อเนื่องและภายใต้บริบทของโลกที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 การร่วมมือเพื่อดึงเอาศักยภาพของแต่ละประเทศเพื่อช่วยเหลือกันจะเป็นสิ่งสำคัญในการผ่านวิกฤตของโลกครั้งนี้ไปได้

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_New_57.php

ขนส่งทางบกเมียนมาเปิดอีกครั้ง เพื่อต่ออายุใบขับขี่ในประเทศ

สำนักงานขนส่งทางบกเมียนมาร์เปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 22 มีนาคม 64 ซึ่งตอนนี้ให้บริการเพียงอย่างเดียวนั่นคือการต่อใบอนุญาตของยานยนต์เพี่ยงเท่านั้น จากประกาศล่าสุดเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 64 สำนักงานขนส่งทางบกจะเปิดอีกครั้งเพื่ออนุญาตให้ต่อใบอนุญาตรถยนต์หลังจากอนุญาตให้ลงทะเบียนยานพาหนะใหม่ในเดือนธันวาคม 63 เท่านั้นหลังจากปิดให้บริการเนื่องจากการระบาดของ COVID-19

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/land-transport-authority-offices-reopen-to-allow-extension-of-vehicle-licenses

เวียดนามเผยการบริหารด้านราคาสินค้า เผชิญกับเงื่อนไขใหม่ ท่ามกลางการระบาดโควิด-19

การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ไปทั่วโลก รวมถึงเวียดนาม ราคาสินค้าในประเทศคงมีความผันผวนและมีความเชื่อมโยงกับความผันผวนของราคาวัตถุดิบและเชื้อเพลงในตลาดโลก ตามการประชุมของสมัชชาแห่งชาติครั้งที่ 14 ได้ตั้งเป้าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเวียดนาม เฉลี่ยที่ 4% ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์หลายสำนัก คาดการณ์ว่ามีหลายปัจจัยที่ทำให้ดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้นในปีนี้ โดยเฉพาะราคาวัตถุดิบและเชื้อเพลิงที่อยู่ในตลาดโลก คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง เมื่อโลกสามารถรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 ได้ ตลอดจนการกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึง ส่งผลให้การผลิต การค้าและด้านระหว่างประเทศจะกลับมาฟื้นตัวได้ในที่สุด

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/908496/price-management-faces-new-conditions-amid-pandemic.html

การระบาดของโควิด-19 ส่งเสริมให้เกิดการใช้ดิจิทัลเพิ่มขึ้นในกัมพูชา

การระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมร้านอาหาร โดยเริ่มจากการสั่งซื้ออาหารผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น ซึ่งในขณะนี้การสั่งซื้อก็ได้พัฒนาเข้าสู่การค้นหาเมนูผ่าน Quick Response (QR) บนแพลตฟอร์มจัดทำโดย Nham24’s ผู้ให้บริการสำหรับร้านอาหารหลายพันรายในกัมพูชา ที่เป็นตัวกลางแอปสั่งอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกัมพูชาที่มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะที่ผ่านมา โดยบริษัทได้เปิดตัวฟีเจอร์ QR code ในการเข้าชมเมนูอาหารเมื่อต้นเดือนนี้ ซึ่งนักพัฒนากำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับธนาคาร ABA เพื่อให้ร้านอาหารแต่ละแห่งสามารถมีบัญชีของตนเองและรับการชำระเงินโดยตรงไปยังบัญชีธนาคารของตนแทนที่จะต้องผ่านคนกลาง สร้างความสะดวกและถือเป็นการลดต้นทุนในการทำธุรกิจอีกด้วย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50828300/pandemic-gives-life-to-digital-menus/

บริษัทเวียดนามติดท็อป 10 อันดับสุดยอดอีคอมเมิร์ซเว็บไซต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ตามรายงานอีคอมเมิร์ซประจำปี 2563 เผยบริษัทเวียดนาม 5 แห่งได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน 10 อันดับแรกของเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้ว่าการระบาดของโรคโควิด-19 ไปยังทั่วโลกที่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคในภูมิภาคนี้ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของเวียดนาม ได้แก่ “Thegioididong” และ “Bach hoa xanh” (28.6 และ 8.8 ล้านผู้เยี่ยมชม), “Tiki” (22.5 ล้านผู้เยี่ยมชม), “Sendo” (14.3 ล้านผู้เยี่ยมชม) และ “FPT Shop” (8.8 ล้านผู้เยี่ยมชม) ทั้งนี้ นาย Tran Tuan Anh กรรมการผู้จัดการช็อปปี้ เวียดนาม กล่าวว่าปี 2563 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะตลาดอีคอมเมิร์ซ เนื่องจากผู้บริโภคต้องปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมและหันมาใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ นอกจากนี้ Google, Temasek และ Bain & Company รายงานว่าเพื่อให้แน่ใจว่าการเติบโตอย่างยั่งยืนความสามารถเป็นปัจจัยสำคัญที่ธุรกิจต้องปรับปรุง เนื่องจากอีคอมเมิร์ซเป็นเรื่องใหม่ ขณะที่ในปัจจุบัน มีสถาบันศึกษาเพียงไม่กี่แห่งที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านพัฒนาทรัพยากรบุคคล

  ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnamese-companies-listed-in-top-10-most-visited-e-commerce-websites-in-sea-316730.html