รัฐบาลอนุญาตให้ธุรกิจกลับมาเดินกิจการได้ปกติเปิดใหม่

รัฐบาลอนุญาตให้ธุรกิจกลับมาเดินกิจการได้ปกติเพื่อลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ แต่ผู้จัดการโครงการและธุรกิจจะต้องปฏิบัติตามมาตรการเพื่อลดการแพร่กระจายของ Covid-19 อย่างเคร่งครัด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุนดร. Kikeo Chanthaboury ซึ่งเป็นสมาชิกของคณะทำงานเฉพาะกิจที่รับผิดชอบในการจัดการกับผลกระทบทางเศรษฐกิจของ Covid- กล่าวว่า ” โครงการเหมืองแร่ 20 แห่ง, โครงการไฟฟ้า 13 แห่ง, โครงการรถไฟและทางด่วน, โรงงาน 20 แห่งในเขตพัฒนาที่ครอบคลุม ไชเชษฐาโรงงานเก้าแห่งในเขตเศรษฐกิจพิเศษ สะหวัน-เซโน และโรงงาน 4 แห่งในเขตเศรษฐกิจพิเศษจำปาสักสามารถดำเนินการต่อได้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาเติบโต” สถาบันวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติและศูนย์สถิติแห่งชาติสปป.ลาวคาดการณ์ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจะอยู่ในช่วง 3.3-3.6% ในปีนี้ซึ่งการคาดการณ์ใหม่นี้ถือเป็นอัตราที่ลดลงจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ถึง 7.2% ในปีนี้ลดลงมา 5.9% ซึ่งหลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดดีขึ้นแล้ว รัฐบาลจะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจและเข้าสู่แผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจในแต่ละด้านต่อไป

ที่มา: http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt89.php

คำม่วนประกาศใช้กฎเกณฑ์ในการบริหารพื้นที่การเกษตรอย่างยั่งยืน

เว็บไซต์ช่องทางเผยแพร่ข่าวสารของรัฐบาลสปป.ลาว ได้ประกาศราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่เอกสารทางกฎหมายในเรื่องการพัฒนาที่ดินและพื้นที่เพาะปลูก ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การบริหารจัดการด้านการเพาะปลูกและที่ดินเกิดประสิทธิภาพสูงสุด สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การคุ้มครองสิ่งแวดล้อมประเทศและแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยจังหวัดที่จะเป็นต้นแบบในการพัฒนาคือจังหวัดคำม่วนซึ่งเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสำหรับการพัฒนาด้านเกษตร เนื่องจากมีพื้นที่เพาะปลูกครอบคลุมประมาณ 132,000 เฮกตาร์โดยมีการอนุรักษ์ 87,000 เฮกแตร์สำหรับการผลิตอาหารและ 44,000 เฮกเตอร์สำหรับทำธุรกิจการเกษตร นอกจากการพัฒนาแล้วยังมีการออกกฎระเบียบในการใช้ที่ดิน โดยเจ้าของที่ดินต้องแจ้งความประสงค์ต่อเจ้าหน้าที่จังหวัดในการนำที่ดินไปใช้ในเรื่องใดและจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมหากต้องการเปลี่ยนแปลงพื้นที่เพาะปลูกไปเป็นอย่างอื่นทั้งนี้เพื่อรักษาความมั่นคงและยั่งยืนด้านอาหารของประเทศ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Khammuan_87.php

บ้านเรือนกว่า 100 หลังได้รับความเสียหายจากลูกเห็บในเซียนควง

เมื่อไม่นานมานี้มีพายุลูกเห็บและฝนตกหนักทั่วอำเภอขามจังหวัดเซียนควงทำลายบ้านเรือนในพื้นที่กว่า 100 หลัง นายชัยเพ็ญพิมพ์วงศ์สาผู้ว่าการอำเภอกล่าวกับหนังสือพิมพ์เดอะไทมส์ “ลูกเห็บมีขนาดเท่าลูกเทนนิสและฝนตกหนักทำให้หมู่บ้านหลายแห่งในพื้นที่โดยเฉพาะหมู่บ้านสามไซ ได้รับความเสียหาย แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ” เขากล่าว ขณะนี้สถานการณ์ดังกล่าวดีขึ้นแต่อยู่ในขั้นตอนที่ต้องช่วยเหลือประชาชนทั้งการหาที่อยู่ชั่วคราวรวมถึงการซ่อมบำรุงบ้านเรือนต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่กำลังระดมทุนจากภาคธุรกิจโดยเฉพาะเจ้าของเหมืองแร่สังกะสีเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านในการซ่อมแซมบ้านของผู้ที่ได้รับความเสียหาย พายุดังกล่าวถูกแจ้งเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาและอุทกวิทยาภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในช่วงวันที่ 24-26 เมษายน อย่างไรก็ตามถึงแม้สถาการณ์จะดีขึ้นรัฐบาลขอให้ผู้คนจับตาดูสภาพอากาศอย่างใกล้ชิดและตรวจสอบสถานีข่าวระดับชาติและท้องถิ่นเพื่อรับข้อมูลล่าสุดเพื่อป้องกันและรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้อีกในช่วงฤดูนี้

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Over86.php

การนำเข้าสินค้าเดือนเมษายนมีมูลค่า 529 ล้านดอลลาร์

ศูนย์ข้อมูล – กระทรวงข้อมูลการค้าของสปป. ลาวภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์เปิดเผยว่ามูลค่าการนำเข้าและส่งออกของสปป. ลาวในเดือนเมษายน 2563 สูงถึง 529 ล้านดอลลาร์ โดยการส่งออกมีมูลค่า 208 ล้านดอลลาร์และมูลค่าการนำเข้า 320 ล้านดอลลาร์ขาดดุลประมาณ 112 ล้านดอลลาร์ สปป.ลาวส่งออกสินค้าสำคัญได้แก่ ไม้แปรรูป เศษเหล็ก ทองแดง แร่ทองคำ แตงโม เสื้อผ้า ในด้านมูลค่าการนำเข้าถึงแม้จะยังมีแนวโน้มที่เพิ่มอย่างเนื่องแต่สินค้าที่นำเข้าโดยส่วนใหญ่เป็นเครื่องจักรกลที่ใช้ในอุตสาหกรรมรวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า บ่งชี้ให้เห็นถึงการเติบในด้านอุตสาหกรรมของสปป.ลาวทำให้ต้องมีการนำเข้าสินค้าทุนมามากขึ้น นอกจากนี้การเติบโตของเศรษฐกิจสปป.ลาวส่งผลต่อรายได้ต่อหัวของประชากรสูงขึ้นทำให้ระดับผู้ที่มีรายได้ปานกลางของสปป.ลาวมีมากขึ้น จึงมีความต้องการบริโภคมากขึ้นมูลค่าการนำเข้าของสปป.ลาวจึงสูงนั้นเอง

ที่มา : https://laoedaily.com.la/2020/05/07/77633/

สภาการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติลาวเสนอให้รัฐบาลพิจารณาแก้ไขผลกระทบของมาตรการสกัดกั้นโรค โควิด 19 ต่อภาคเอกชน

รัฐบาลสปป.ลาวจะมีมาตราการช่วยเหลือแรงงานในประเทศ

รัฐบาลลาวกำลังหารือเกี่ยวกับมาตรการเชิงปฏิบัติเพื่อช่วยเหลือแรงงานสปป.ลาวหลายคนที่ว่างงานและต้องเผชิญกับการสูญเสียรายได้เนื่องจากการระบาดของ COVID-19ก่อนหน้านี้สถาบันวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติลาวเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการช่วยเหลือแรงงานโดยสมาชิกของโครงการสวัสดิการสังคมแห่งชาติควรเป็นกลุ่มแรกของคนงานที่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลนอกจากนี้สถาบันยังแนะนำให้รัฐบาลช่วยเหลือแรงงานที่ไม่ได้จดทะเบียนภายใต้โครงการสวัสดิการสังคมรวมถึงผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศไทยประมาณ 100,000 คนในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ นอกจากนี้รัฐบาลควรส่งเสริมให้คนว่างงานได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเกษตรเพื่อให้พวกเขาสามารถเข้าถึงความมั่นคงด้านอาหารขั้นพื้นฐาน มาตราขั้นต่อไปหลังจากการช่วยเหลือจะเข้าสู่การฟื้นเศรษฐกิจทั้งภาคการลงทุนและพัฒนาศักยภาพของแรงงานสปป.ลาวรัฐบาลควรสนับสนุนการฝึกอบรมแรงงานลาวเพื่อนำไปใช้ในอุตสาหกรรมที่ทันสมัยรวมถึงสนับสนุนการเข้ามาลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของต่างประเทศ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govtd84.php