มาเลเซีย-สปป.ลาวจัดแคมเปญหวังกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงนี้

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ได้มีการจัดงานสัมนาเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในชื่อแคมเปญ ” Golden Golden Holiday Holiday ” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวมาเลเซีย-สปป.ลาว โดยภายในงานได้มีคณะผู้แทนจากภาคส่วนต่างๆของทั้ง 2 ประเทศเข้าประชุมเพื่อหารือถึงแนวทางในการบรรเทาปัญหาการลดลงของนักท่องเที่ยวจากสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 และยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสปป.ลาวและมาเลเซียอีกด้วย ก่อนหน้านี้มาเลเซียและสปป.ลาวได้ร่วมมือกันในการเป็นพันธมิตรที่ดีในการสนับสนุนการท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศผ่านแคมเปญต่างๆ ทำให้ในเดือนมกราคม-กันยายน 2562 มาเลเซียมีนักท่องเที่ยว 20,959 คนเพิ่มขึ้น 13.8%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ซึ่งนักท่องเที่ยวดังกล่าวเดินทางมาจากสปป.ลาวสร้างรายได้มากถึง 1 แสนล้านานริงกิต ดังนั้นความร่วมมือกันในการจัดแคมเปญใหม่นี้ก็เพื่อหวังผลในการเพิ่มนักท่องเที่ยวให้สูงขึ้นโดยมีเป้าหมายเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวในอาเซียนเป้นหลัก

 ที่มา  :  http://annx.asianews.network/content/tourism-malaysia-strengthens-ties-laos-boost-arrivals-115300

Lao Airlines ให้พนักงานหยุดชั่วคร่าว เพื่อลดค่าใช้จ่ายในช่วงนี้

Lao Airlines สายการบินรัฐวิสาหกิจสปป.ลาวได้ขอให้พนักงานหยุดงานโดยไม่ได้รับค่าจ้างเพื่อให้บริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ในช่วงนี้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้มีการยกเลิกเที่ยวบินไปยังประเทศปลายทางจำนวนมากทั้ง จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ฯลฯ ซึ่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ผู้โดยสารลดลง 37% จากข้อมูลของกรมการบินพลเรือนกระทรวงโยธาธิการและการขนส่งจะต้องจองที่นั่ง 60% ในเที่ยวบินเพื่อให้เที่ยวบินนั้นปฏิบัติได้ แต่ในปัจจุบันบางเส้นทางมีเพียง 10 ถึง 20 คนที่ทำการจองดังนั้นสายการบินจึงระงับเที่ยวบินเหล่านั้น นอกจากนี้จำนวนเที่ยวบินจากประเทศอื่น ๆ มายังสปป.ลาวก็ยังลดลงประมาณ 348 เที่ยวบินต่อเดือนเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้สายการบิน Lao Airlines ต้องมีมาตราการดังกล่าวออกมาเพื่อปรับลดค่าใช้จ่ายในช่วงนี้

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Lao_airlines_48.php

ภาคอุตสาหกรรมการบริการเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือในช่วงการแพร่ระบาด Covid-19

ธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเรียกร้องความช่วยเหลือจากรัฐบาลและความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับภาคเอกชนในการจัดการกับการค้าที่ชะลอตัวจากความกังวลของการแพร่ระบาด Covid-19 สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ในช่วงเดือนที่ผ่านมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคาดว่าสปป.ลาวสูญเงินไปกว่า 20-25 ล้านเหรียญสหรัฐตัวเลขนี้มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นหากนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่น ๆ หยุดเที่ยวสปป.ลาวทำให้เจ้าของและผู้แทนท้องถิ่นจากภาคการท่องเที่ยวซึ่งรวมถึงโรงแรมร้านอาหารสายการบินผู้ประกอบการขนส่งและสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ มารวมตัวกัน เพื่อเรียกร้องถึงมาตราการความเชื่อเหลือจากภาครัฐ เพราะขนาดนี้ทุกภาคส่วนกำลังตกอยู่ในช่วงตกต่ำจากสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยในที่ประชุมมีการเสนอทางออกแก่ภาครัฐดังนี้ ลดหรือเลื่อนการชำระภาษีของภาคธุกิจ ธนาคารควรมีการพักหนี้ชั่วคร่าวแก่ภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงการช่วยเหลือด้านสวัสดิการของแรงงาน ข้อเสนอต่างๆจะถูกเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการดำเนินมาตราการต่างๆ อย่างไรก็ตามในขณะนี้ภาคธุรกิจควรช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการรับมือกับวิกฤติและมีการวางแผนการรับมือกับวิกฤตดังกล่าวในระยะยาวด้วย

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/lao-tourism-industry-seeks-help-wake-covid-19-slump-115095

กองทุนเพื่อธุรกิจสปป.ลาวสนับสนุน SME ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน

กรมส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ คาดว่าจะจัดสรรเงินทุนจากกองทุนพัฒนาธุรกิจ SMEs ในการพัฒนาโครงการด้านเทคนิคซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการเสริมสร้างธุรกิจขนาดเล็กและส่งเสริมการเริ่มธุรกิจใหม่ของผู้ประกอบการในสปป.ลาว ซึ่งจะมีการปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ในวงเงินไม่เกิน 1.5 พันล้านกีบให้กับ MSMEs ในขณะที่องค์กรขนาดเล็กจะได้รับประมาณ 3 พันล้านกีบและวิสาหกิจขนาดกลางจะได้รับ 4 พันล้านกีบ โดยเงื่อนไขของภาคธุรกิจที่จะเข้ามาควรมีแผนธุรกิจและควรได้รับการรับรองจากองค์กรภาคการค้าและอุตสาหกรรมก่อนถึงจะมีสิทธิ์ในการได้รับการพิจารณาให้กู้เงินในกองทุนดังกล่าวได้ โดยในปีที่ผ่านมาโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จอย่างดีจากการที่ภาคธุรกิจแต่ละขนาดมีการพัฒนาในการนำเทคโนโลยีเข้าไปช่วยส่งเสริมในการผลิต รวมถึงมีระบบจัดการที่ดีขึ้นมีหลายๆธุรกิจที่ขยับตัวเองจาก SMEs มาเป็น MSMEs ซึ่งถือเป็นตัวบ่งชี้ถึงการประสบความสำเร็จของโครงนี้ เป้าหมายในอนาคตจะมีการอนุมัติสินเชื่อให้เพิ่มเติมแก่ธุรกิจต่างๆเพื่อให้ครอบคลุมทั่วสปป.ลาว เป็นการส่งเสริมให้ภาคธุรกิจในสปป,ลาวเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจสปป.ลาวต่อไป

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/smes-set-benefit-special-funding-scheme-115096

สปป.ลาวได้รับเงินทุนจากธนาคารโลกเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนในชนบท

รัฐบาลได้กู้ยืมเงิน 22.5 ล้านเหรียญสหรัฐผ่านธนาคารโลกในอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโภชนาการและความยากจนซึ่งมีกรอบระยะเวลาตั้งแต่ปี 2563-2567 โดยกำหนดเป้าหมายชุมชนทางเหนือของสปป.ลาว นอกจากนี้รัฐบาลยังลงทุน 13 พันล้านกีบในโครงสร้างพื้นฐานทางการเกษตรในหลวงน้ำทา หลวงพระบางสะหวันนะเขต สะระวัน เพื่อความยั่งยืนด้านผลผลิตทางเกษตรตามแผนยุทธศาสตร์ที่จะแก้ปัญหาความขาดแคลนด้านอาหารในสปป.ลาว ดังนั้นการได้รัยเงินช่วยเหลือจากธนาคารโลกจะเป็นแรงสนับสนุนอีกก้าวหนึ่งในการที่จะทำให้สปป.ลาวเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดและมีความมั่นคงทางด้านอาหารในอนาคต

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/laos-gov’t-taps-us225-million-world-bank-finance-tackle-rural-poverty-115094

อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของสปป.ลาว ต้องการความช่วยเหลือจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวเรียกร้องให้ภาครัฐฯช่วยเหลือและร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับภาคเอกชนมากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะแก้ไขสถานการณ์การค้าที่เผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งตัวแทนของภาคการท่องเที่ยว รวมถึงผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร สายการบิน การท่องเที่ยว เป็นต้น ได้มารวมตัวกันที่กรุงเวียงจันทร์เมื่อวานที่ผ่านมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการหาวิธีแก้ไขต่อสถานการณ์ไวรัสดังกล่าว ทั้งนี้ การประชุมหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติสปป.ลาว ได้เสนอประเด็นต่างๆ ในการช่วยเหลืออุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปัจจุบัน รวมถึงการลด/เลื่อนการชำระภาษี และให้ธุรกิจท่องเที่ยวได้ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะดึงดูดลูกค้าผ่านการโปรโมตกลุ่มเป้าหมายในประเทศ ภายใต้ชื่อ “ลาวช่วยลาว” นอกจากนี้ จากตัวเลขการท่องเที่ยวในปีที่แล้ว แสดงให้เห็นว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาสปป.ลาว มากกว่า 1 ล้านคน แต่ในปัจจุบันรัฐบาลจีนได้สั่งห้ามบริษัททัวร์จีนไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศ ส่งผลให้ธุรกิจท้องถิ่นสปป.ลาว สูญเสียรายได้ราว 20-25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/lao-tourism-industry-seeks-help-wake-covid-19-slump-115095

บ่อแก้วพัฒนาประสิทธิภาพการเพาะเลี้ยงปศุสัตว์เพื่อการส่งออกไปยังจีน

การส่งออกปศุสัตว์เป็นสินค้ากลุ่มที่สร้างมูลค่าการส่งออกสูงสุดในปี 2562 โดยโคสร้างรายรับประมาณ 227.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐโดยเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากปี 61 เส้นทางการส่งออกจะส่งผ่านทางแขวงบ่อแก้ว เป็นแขวงที่เหมาะแก่การเลี้ยงปศุสัตว์เพื่อขายในประเทศจีนเนื่องจากมีสภาพอากาศที่เหมาะสมและตั้งอยู่ใกล้กับชายแดนจีน อย่างไรก็ตามโคกระบือที่ส่งออกไปส่วนใหญ่สปป.ลาวนำเข้ามาจากไทยอีกทีและค่อยส่งออกไปยังจีนเนื่องจากโคกระบือไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่จีนกำหนดทั้งในด้านคุณภาพและปริมาณทำให้สปป.ลาวยังต้องพึ่งพาโคกระบือจากไทยอยู่ จุดนี้เองเป็นสิ่งที่สปป.ลาวต้องหันมาพัฒนาการเพาะเลี้นยงโคกระบือให้ประสิทธิภาพมากขึ้นโดยการลงทุนในเทคโนโลยี รวมถึงการนำเข้าพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่มีคุณภาพ ปัจจัยเหล่านี้จะทำให้การเพาะเลี้ยงปศุสัตว์ของสปป.ลาวให้พัฒนาขึ้น และในอนาคตจะทำให้ผลิตโคกระบือมีประสิทธิภาพขึ้นจนสามารถส่งออกไปยังจีนได้เอง

ที่มา :  http://annx.asianews.network/content/bokeo-eyes-cattle-exports-china-114924

รัฐบาลนำระบบ TaxRIS เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ภาครัฐ

รัฐบาลจะนำระบบข้อมูลการจัดการรายได้จากภาษี (TaxRIS) เพื่อจัดเก็บภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส โดยได้มีการ จัดฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ภาษีจากทั่วประเทศเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการตรวจสอบบัญชีของธุรกิจและปัญหาด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับระบบ TaxRIS เพื่อสร้างระบบการจัดเก็บภาษีที่ดีทั้งในระดับประเทศและท้องถิ่น โดยในปีนี้กระทรวงการคลังคาดว่าจะมีรายรับ 28,997 พันล้านกีบหรือ 16.31% ของ GDP เพิ่มขึ้น 9.4% จากแผนปี 2562 ดังนั้นการนำระบบ TaxRIS เข้ามาจะทำให้รัฐบาลได้รับรายได้ตามเป้านั้นเอง TaxRIS มีเป้าหมายที่จะทำให้การจัดการรายได้ทันสมัยสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดตามแบบระดับสากล

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/govt-goes-hi-tech-boost-revenue-collection-114923