‘เวียดนาม’ ยังคงเป็นแหล่งดึงดูดของบริษัทผู้ผลิตอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำของโลก

ข้อมูลจากศูนย์วิจัย Fitch Solutions เปิดเผยว่าถึงแม้เวียดนามเผชิญกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่เวียดนามยังเป็นที่น่าสนใจในสายตาของนักลงทุนต่างชาติจำนวนมากให้เป็นฐานการผลิต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจากการสำรวจชี้ว่าผู้ประกอบการอิเล็กทรอนิกส์ต่างชาติส่วนใหญ่ 65% ได้ตั้งฐานการผลิตในภาคเหนือของเวียดนาม ขณะที่ 30% สร้างโรงงานในภาคใต้และอีกไม่กี่แห่งในภาคกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจของกลุ่มซัมซุงของเกาหลีใต้ที่เข้ามาลงทุนไปแล้วกว่า 17.5 พันล้านเหรียญสหรัฐในเวียดนาม และมีสัดส่วนมากกว่า 20% ของยอดการส่งออกทั้งหมดของเวียดนามผ่านสินค้าไฮเอนด์ ‘โทรศัพท์’ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่าปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ต่างชาติเข้ามาเวียดนาม คือ เขตอุตสาหกรรม (IP) โดยได้ตั้งข้อสังเกตว่าเขตอุตสาหกรรมส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ที่สะดวกต่อการขนส่งและมีระบบโลจิสติกส์

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-remains-attractive-to-multinational-electronics-companies/206095.vnp

‘สตาร์ทอัพเวียดนาม’ ระดมทุน 12 ล้านเหรียญสหรัฐ

เว็บไซต์การเงิน ‘DealStreet Asia’ รายงานว่าสตาร์ทอัพอย่าง ‘Loship’ ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าในเวียดนาม ประสบความสำเร็จจากการระดมทุน 12 ล้านเหรียญสหรัฐในระดับ ‘Pre-Series C’ ส่งผลให้มูลค่าของบริษัทอยู่ที่ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งการจัดระดมทุนครั้งนี้ นำโดยบริษัทร่วมทุน ‘BAce Capital’ ที่ได้รับการสนับสนุนจาก ‘Ant Group’ และ ‘Sun Hung Kai’ ทั้งนี้ สตาร์ทอัพดังกล่าว มีแผนที่จะขยายกิจการไปยังพื้นที่ท้องถิ่นและลงทุนทางด้านเทคโนโลยี ตลอดจนส่งเสริมการทำธุรกิจแบบ B2B นอกจากนี้ ด้วยการระดมทุนรอบใหม่ ‘Loship’ คาดว่าจำนวนประชากรเวียดนามราว 10% จะหันมาใช้แอปนี้ในอีก 2 ปีข้างหน้า และบริษัทยังได้ตั้งเป้าว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ให้บริการจัดส่งและอีคอมเมิร์ซชั้นนำในเวียดนาม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnamese-startup-rakes-in-12-million-usd-funding/206092.vnp

การส่งออกสินค้าทางทะเลลดฮวบเหลือ 626 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา เผย รายได้จากการส่งออกจากภาคประมง 10 เดือน (1 ต.ค.-23 ก.ค.) ของปีงบประมาณ 63-64 ลดลงเหลือ 626.59 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากผลกระทบของโควิด-19 และความยากลำบากในการขนส่ง นอกจากนี้ การส่งออกทางทะเลผ่านพรมแดนจีน-เมียนมา ยังต้องหยุดชะงักหลังผลกระทบและมาตรการด้านความปลอดภัยของ COVID-19 ซึ่งจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่เป็นอันดับสองของเมียนมา โดยคิดเป็นมูลค่า 254 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางทะเลโดยรวมที่ 850 ล้านดอลลาร์ในปีประมาณที่ผ่านมา ปัจจุบัน จีนปิดพื้นที่ชายแดน เพราะการระบาดโควิดในเมียนมา เมียนมาส่งออกผลิตภัณฑ์ทางทะเล เช่น ปลา กุ้ง และปู ไปยังตลาดใน 40 ประเทศ ได้แก่ จีน ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ไทย และประเทศในสหภาพยุโรป สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เมียนมาการนั้นดีกว่าหลายประเทศในภูมิภาคมาก หากประเทศสามารถส่งเสริมเทคโนโลยีการแปรรูปได้ ก็จะส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศและสร้างรายได้ให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในห่วงโซ่อุปทานมากขึ้น

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/marine-product-exports-plummet-to-626-mln-as-of-23-july/#article-title

‘เวียดนาม’ ตั้งเป้าประชากรกว่า 80% ชำระเงินผ่านดิจิทัล

แผนร่างยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจและดิจิทัล ปี 2568 มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล, ข้อมูลดิจิตอล, คุณลักษณะของบุคคลทางดิจิทัล การชำระเงินดิจิทัลและการสร้างรากฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ซึ่งแผนร่างยุทธศาสตร์ดังกล่าว การชำระเงินค่าน้ำค่าไฟ 75% จะชำระเงินในรูปแบบไร้เงินสด (Cashless) และการชำระเงินผ่านจุดขาย 90% จะใช้วิธีการชำระเงินที่มิใช้เงินสด อีกทั้ง ยังได้ตั้งเป้าประชากรเวียดนามกว่า 90% ให้มาซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และภายในปี 2568 ประชากรกว่า 70% จะมีข้อมูลยืนยันตัวบุคคลดิจิทัลในการใช้บริการดิจิทัลทั้งหมด ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวนั้น กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้เสนอให้ทบทวนและแก้ไขกฎหมายทางการเงิน นโยบาย ค่าธรรมเนียมและค่าบริการ เพื่อขจัดอุปสรรคในการชำระเงินแบบมิใช้เงินสดและส่งเสริมให้ประชาชนทำธุรกรรมไร้เงินสด

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnam-to-open-e-payment-for-80-of-population-by-2025-318297.html

‘เวียดนาม’ เป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนในสายตานักลงทุนสหรัฐฯ

งานสัมมนาออนไลน์ที่จัดขึ้นโดย Asia Group มีจุดหมายเพื่อบอกเล่าถึงโอกาสในการดำเนินธุรกิจ และข้อมูลอัปเดตสถานการณ์โควิด-19 ตลอดจนแนวโน้มทางเศรษฐกิจเวียดนาม ได้หารือร่วมกับตัวแทนบริษัทสหรัฐฯกว่า 40 ราย ทั้งนี้ ฮา กิม หง็อก เอกอัครราชทูตประจำสหรัฐฯ ได้เน้นย้ำถึงความสำเร็จทางเศรษฐกิจของเวียดนาม และความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการส่งเสริมการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ในขณะเดียวกัน ในมุมมองของนักลงทุนสหรัฐฯ ชี้ว่าการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนระหว่างสหรัฐฯ-เวียดนาม และเครือข่ายของข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม จะช่วยการทำธุรกิจของพวกเขาอย่างมาก อย่างไรก็ตาม นายหง็อก ขอบคุณรัฐบาลสหรัฐฯ ในการสนับสนุนเวียดนาม โดยเฉพาะการส่งมอบวัคซีน Moderna จำนวน 2-5 ล้านโดส

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-remains-attractive-destination-for-us-investors/206018.vnp

‘เวียดนาม’ ชี้ยอดการส่งออกโทรศัพท์เติบโตแข็งแกร่ง แม้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

ตามข้อมูลของกรมศุลกากรเวียดนาม เผยว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ยอดการส่งออกโทรศัพท์และชิ้นส่วนยังคงเป็นผู้นำกลุ่มสินค้าส่งออกสำคัญของเวียดนาม ด้วยมูลค่า 29.35 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 11.9% ขณะที่ เฉพาะเดือนก.ค. ยอดการส่งออกสินค้าอยู่ที่ 4.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ พุ่ง 30.5% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้ เนื่องจากความต้องการอุปกรณ์สื่อสารเพิ่มขึ้น ประกอบกับการปิดตัวของบริษัทผู้ผลิตอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก เหตุโควิด-19 ระบาดหนัก นอกจากนี้ สำนักงานส่งเสริมการค้าเวียดนาม ชี้ว่าเศรษฐกิจเวียดนามต้องมีการเปลี่ยนแปลงหลายด้านในแง่ของโครงสร้างการส่งออก โดยเฉพาะสินค้าไฮเทค อาทิ เครื่องจักรกลที่มีความแม่นยำสูง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ เป็นต้น

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/phones-enjoy-robust-growth-despite-covid-19-challenges-880683.vov

เมียนมาส่งออกไปเวียดนามพุ่ง 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ใน 7 เดือนแรกของปีงบ 63-64

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา เผย การส่งออกไปเวียดนามช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา (ต.ค.63-เม.ย.64) ของปีงบประมาณ 63-64 มีมูลค่ารวม 375.35 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แบ่งเป็นการส่งออก 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่าเพียง 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ โลหะพื้นฐาน เมล็ดพืช ข้าว ข้าวหัก ยาง บุหรี่ เครื่องนุ่งห่ม ข้าวโพด ยาสูบ ฯลฯ ส่วนการนำเข้าจะเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์ขนส่ง พลาสติก อุปกรณ์เครื่องจักรกล กระดาษ กระดาษแข็ง ปุ๋ย ยา ผ้าฝ้าย ผ้าทอ ใยสังเคราะห์ ฯลฯ ทั้งนี้การค้าของสองประเทศเติบโตขึ้นทุกปี อย่างไรก็ตาม การระบาดของ COVID-19 ทั่วโลกส่งผลกระทบต่อการค้าเป็นอย่างมาก จากข้อมูลของคณะกรรมการการลงทุนและการบริหารบริษัทของเมียนมา (DICA) ระบุว่า ณ เดือนมิถุนายน 2564 เวียดนามเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 8 ของเมียนมา มีมูลค่าประมาณ 2.224 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา: https://gnlm.com.mm/exports-to-viet-nam-cross-150-mln-in-seven-months/?__cf_chl_jschl_tk__=pmd_cfcf817504600ea9f297f5b3a29321e15ac8f26b-1628373934-0-gqNtZGzNAg2jcnBszQpi#article-title

‘เวียดนาม’ ชี้อุตสาหกรรมสิ่งทอเผชิญปัญหาการหยุดชะงักของซัพพลายเชน

นาย Vu Duc Giang ประธานสมาคมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มเวียดนาม (VITAS) กล่าวว่าห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มใกล้ที่จะหยุดชะงักลง หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น ตลอดจนผลกระทบต่อชื่อเสียงของอุตสาหกรรมนี้ไปในทิศทางเชิงลบในมุมมองนักลงทุนต่างชาติ ทั้งนี้ คุณ Le Uyen Trang Nha อำนวยการทั่วไปของ บ. Viking Vietnam เผยว่าเพื่อรักษาระดับการผลิตนั้น บริษัทจำเป็นต้องจัดเตรียมหาที่พักและห้องรับประทานอาหารแก่พนักงาน ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีจำนวนพนักงานกว่า 150 คนที่อยู่ทำงานในโรงงาน คิดเป็นต้นทุนกว่า 450 ล้านดองต่อเดือน อย่างไรก็ดี มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในหลายๆจังหวัด ส่งผลให้การขนส่งวัตถุดิบชะลอกตัวลง

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/83598/apparel-sector-faces-supply-chain-disruption.html