กัมพูชาส่งออกสินค้าเกษตรมูลค่ารวม 3 พันล้านดอลลาร์

กัมพูชาส่งออกสินค้าเกษตรปริมาณรวม 5.9 ล้านตัน ตั้งแต่มกราคมถึงกันยายนปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 88 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่า 3,489 ล้านดอลลาร์ โดยการส่งออกข้าวสารมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 350 ล้านดอลลาร์ แม้ปริมาณการส่งออกจะลงถึงร้อยละ 15.9 ส่วนข้าวเปลือกมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 429 ล้านดอลลาร์ และผลิตภัณฑ์นอกภาคเกษตรอื่นๆ มูลค่ารวม 2,711 ล้านดอลลาร์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตด้านการส่งออกของสินค้าภาคการเกษตรกัมพูชา แม้จะมีการระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน โดยกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง ระบุว่าสินค้าเกษตรหลักในการส่งออกของกัมพูชา ได้แก่ ข้าวสาร ข้าวเปลือก มะม่วง กล้วย มันสำปะหลัง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ยางพารา ข้าวโพด และพริกไทย เป็นสำคัญ ซึ่งรัฐมนตรีกล่าวเสริมว่า ปริมาณการส่งออกข้าวสารส่วนใหญ่ที่ลดลง เป็นผลมาจากราคาค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นในช่วงการระบาดใหญ่

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50946665/cambodia-exports-3-bn-agricultural-products-in-first-nine-months/

สปป.ลาวจะเพิ่มการส่งออกสินค้าเกษตรไปยังประเทศจีน

รัฐบาลสปป.ลาวได้ร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ และผู้ประกอบการในการปรับปรุงคุณภาพของสินค้าเกษตรเพื่อเพิ่มการส่งออกไปยังประเทศจีน ซึ่งกระทรวงเกษตรและป่าไม้สปป.ลาวรายงานว่าประเทศมีรายรับ 560 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 62 จากการส่งออกสินค้าเกษตรโดย 80% ของสินค้าถูกขายไปยังประเทศจีน ซึ่งได้รับประโยชน์จากโควต้าข้าว 50,000 ตันและวัว 500,000 ตัวต่อปี นอกจากนี้กระทรวงได้เจรจาต่อรองโอกาสทางการตลาดและควบคุมสภาวะสุขอนามัยสำหรับพืชส่งออกและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องไปยังประเทศจีน ขณะนี้กระทรวงกำลังประสานงานกับกรมศุลกากรของจีนเพื่อร่างเงื่อนไขและข้อกำหนดสำหรับการส่งออกใบยาสูบแห้ง เสาวรสและส้ม ทั้งสองฝ่ายยังเตรียมเอกสารเกี่ยวกับการเปิดตลาดสำหรับทุเรียน ลำไย แก้วมังกร ขนุนและลูกเดือย ขณะนี้ 3 บริษัทดำเนินการเสร็จสิ้นไปกว่า 90 % ของศูนย์กักกันปศุสัตว์ที่สามารถประมวลผลสัตว์ 228,000 ตัวต่อปีเพื่อการส่งออกและรอทีมเทคนิคจากจีนเพื่อตรวจสอบและยืนยันสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการใช้งานอย่างเป็นทางการ เพื่อเพิ่มการส่งออกสินค้า จะประสานงานกับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า หอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติและผู้ประกอบการเพื่อร่วมมือกับจีนในการเจรจารายการสินค้าเกษตร และกระทรวงจะร่วมมือกับจีนในการตรวจสอบด่านชายแดนระหว่างประเทศและระดับท้องถิ่นระหว่างสองประเทศ เพื่อให้แน่ใจในการส่งผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรโดยเฉพาะอย่างยิ่งผัก ผลไม้สด

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/2020-07/15/c_139214642.htm

จังหวัดเตี่ยงยางตั้งเป้าส่งออกปี 63 แตะ 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

จังหวัดเตี่ยงยางตั้งอยู่ในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ตั้งเป้าหมายมูลค่าการส่งออกปี 63 อยู่ที่ 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.8 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งผู้อำนวยของกรมอุตสาหกรรมและการค้าประจำจังหวัด ระบุว่าด้านการผลิตและการส่งออกในปีนี้จะราบรื่น เนื่องมาจากหน่วยงานรัฐบาลและกระทรวงที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแก้ปัญหา/อุปสรรคในการทำธุรกิจ รวมถึงส่งเสริมสตาร์ทอัพและนวัตกรรม ทั้งนี้ จากข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่มีผลบังคับใช้ ส่งผลให้จังหวัดดังกล่าวดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้นและเปิดโอกาสให้การส่งออกเติบโตด้วย ดังนั้น ทางหน่วยงานจังหวัดจึงได้กำหนดแนวทางพัฒนากระบวนการผลิตและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจในท้องถิ่น รวมไปถึงส่งเสริมสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการทำธุรกิจและขยายตลาดเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ จากรายงานของคณะกรรมการประชาชนประจำจังหวัด ระบุว่าในปี 63 มูลค่าส่งออกของจังหวัดมากกว่า 178 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ข้าว ผักผลไม้ เป็นต้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/591878/tien-giang-sets-export-target-of-34-billion-in-2020.html

NA ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเรื่องความล่าช้าในการส่งออกพืชผล

ประธานสมัชชากล่าวถึงกรณีปัญญาความล่าช้าในการส่งออกพืชผลที่ด่านจังหวัดจำปาสัก โดยได้ถามไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้านายเข็มมะนี พลเสนาในระหว่างการประชุม NA โดยคุณปานีได้ยกกรณีของเหตุการณ์ที่ด่านระหว่างประเทศวังเวียง – ช่องเม็ก ระหว่างจำปาสักและจังหวัดอุบลราชธานีในประเทศไทย เมื่อเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 9 ชั่วโมงในการออกใบอนุญาตแก่ผู้ประกอบการ จากกรณีดังกล่าวผู้ประกอบการชี้ให้เห็นว่าการล่าช้าที่ยาวนานเช่นนี้อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพของพืชผลที่ขนส่งได้ จากกรณีดังกล่าวรัฐมนตรีกล่าวว่าการส่งออกสินค้านั้นต้องผ่านการตรวจจากเจ้าหน้าที่ศุลกากร ณ จุดตรวจจึงอาจเกิดความล่าช้าในตอนนี้อยู่ระหว่างการแก้ไข โดยปัญหาดังกล่าวรองนายกรัฐมนตรี ได้ตรวจสอบและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้มีการจัดโซนตรวจสินค้าเฉพาะเพื่อลดความล่าช้า นอกจากประเด็นดังกล่าวได้มีการเรียกร้องเกี่ยวกับการควบคุมราคาที่เขตแดนรวมถึงการนำเข้ายานพาหนะหรูหรา โดยรัฐบาลได้สั่งให้กระทรวงการคลังและภาคส่วนอื่น ๆดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆทั้งนี้รัฐมนตรีได้ให้คำสํญญาในการแก้ปัญหาและจะรายงานในภายหลัง

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/na-questions-trade-minister-over-border-delays-crop-exports-108700

เวียดนามเผนการส่งออกสินค้าเกษตรพุ่งสูงขึ้น 26.58 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

การส่งออกสินค้าเกษตรกรรมของเวียดนามอยู่ที่ 26.58 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2562 โดยจากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) เปิดเผบว่ามีสินค้ากว่า 8 รายการที่มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสินค้าเกษตรที่สำคัญมีมูลค่า 12.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 8.3 หากจำแนกตลาดส่งออกที่สำคัญ ระบุว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามส่งออกสินค้าเกษตรไปยังประเทศจีนอยู่ที่ 4.74 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 8.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งตัวเลขดังกล่าว สหรัฐอเมริกายังคงเป็นผู้นำเข้าสินค้าเกษตรของเวียดนามรายใหญ่ที่สุด ตามมาด้วยจีน ยุโรป อาเซียน และญี่ปุ่น ตามลำดับ ในขณะที่มูลค่าการนำเข้าสินค้าเกษตรของเวียดนามอยู่ที่ 20.54 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ที่มา : https://en.nhandan.com.vn/business/item/7851202-vietnam%E2%80%99s-farming-exports-reach-us$26-58-billion.html