‘เวียดนาม’ ส่งออกข้าวไตรมาสแรก โตพุ่ง 42%

จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท (MARD) เปิดเผยว่าการส่งออกข้าวของเวียดนามในไตรมาสแรกของปีนี้ อยู่ที่ 2.1 ล้านตัน สร้างรายได้กว่า 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยจากความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นจากผู้ซื้อข้าวเวียดนามรายใหญ่ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย จีน กานา มาเลเซียและสิงคโปร์ ส่งผลให้ยอดการส่งออกข้าวเติบโตอย่างน่าประทับใจ

อย่างไรก็ดี กลุ่มประเทศเหล่านี้มองหาการกระจายอุปทานข้าว ซึ่งทำให้ลดการพึ่งพาข้าวจากเวียดนามอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ กระทรวงฯ ร้องขอให้ผู้ส่งออกข้าวในชนบทมองหาตลาดใหม่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน

นอกจากนี้ ในฐานะเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ 1 ใน 3 ของโลก เวียดนามตั้งเป้าที่จะสร้างรายได้จากการส่งออกข้าวในปีนี้ มูลค่าราว 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnams-q1-rice-exports-grow-42-y-o-y/

ทุเรียนกลายเป็น ‘ผลไม้ทอง’ ส่งออกของเวียดนาม

จากข้อมูลทางสถิติของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท (MARD) เปิดเผยว่าเวียดนามมีพื้นที่เพาะปลูกทุเรียนมากกว่า 110,000 เฮคเตอร์ และผลผลิตประมาณ 850,000 ตันต่อปี โดยส่วนใหญ่เพาะปลูกอยู่ในพื้นที่ราบสูงตอนกลาง คิดเป็นสัดส่วนราว 47% ของพื้นที่ทั้งหมด และสาเหตุที่ทำให้เวียดนามผลักดันการส่งออกทุเรียน เนื่องมาจากมีความได้เปรียบทางด้านการตั้งราคาขายสูงและความต้องการนำเข้าของตลาดต่างประเทศ ทำให้ทุเรียนเวียดนามกลายมาเป็นผลไม้สำคัญเมื่อเทียบกับผลผลิตทางการเกษตรชนิดอื่นๆ ด้วยเหตุนี้พื้นที่เพาะปลูกทุเรียนเพิ่มขึ้นประมาณ 25% ต่อปี

นอกจากนี้ จากตัวเลขสถิติแสดงให้เห็นว่าทุเรียนของเวียดนามส่วนใหญ่ส่งออกไปยังตลาดจีน มีสัดส่วนกว่า 99% ของการส่งออกผลไม้รวม

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1651246/durian-emerging-as-golden-fruit-among-viet-nam-s-exports.html

‘ภาคเกษตรเวียดนาม’ ตั้งเป้าการเติบโต 3.2-4% ปี 67

จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท (MARD) ระบุว่าภาคเกษตรกรรมของเวียดนาม ได้ตั้งเป้าการเติบโตในปี 2567 อยู่ที่ 3.2-4% คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 54-55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งกระทรวงฯ ยังได้เป้าหมายที่จะนำความทันสมัยและเทคโนโลยีเข้าสู่พื้นที่ชนบท คิดเป็นสัดส่วน 80% ตามมาด้วยการพัฒนาพื้นที่ป่าไม้ที่ครอบคลุมพื้นที่ป่า 42.02% และการเข้าถึงแหล่งน้ำของครัวเรือนมากกว่า 58% อีกทั้ง เวียดนามมุ่งมั่นที่จะปรับโครงสร้างของภาคเกษตรกรรม ส่งเสริมการพัฒนาการเกษตรให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีขั้นสูง เกษตรอัจฉริยะ และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1639326/vn-s-agriculture-sector-targets-growth-between-3-2-4-in-2024.html

‘เวียดนาม’ ทำสถิติส่งออกข้าวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ปี 66

กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) รายงานว่าผลผลิตข้าวในประเทศอยู่ที่ 43.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 1.9% เป็นไปตามความต้องการในประเทศและการส่งออก โดยจากตัวเลขสถิติในปี 2566 แสดงให้เห็นว่าเวียดนามประสบความสำเร็จในการส่งออกข้าว ทั้งด้านปริมาณการส่งออกและราคาที่อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 8.3 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 4.78 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ สถานการณ์ในปีนี้ คาดการณ์ว่าทิศทางการส่งออกข้าวจะเผชิญกับอุปสรรคหลายประการ อาทิ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ของโลกและปรากฏการณ์เอลนีโญที่ได้ส่งผลกระทบต่อการจัดหาวัตถุดิบและอาหาร รวมถึงบางประเทศได้ระงับการส่งออกธัญพืช เช่น อินเดีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และรัสเซีย อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้ส่งออกผลผลิตทางการเกษตรชั้นนำ โดยเฉพาะข้าว เวียดนามยังคงสามารถรับประกันความมั่นคงด้านอาหารของชาติและการเติบโตของการส่งออกได้

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/rice-export-soars-to-record-high-in-2023/275926.vnp

‘เวียดนาม’ คาดส่งออกข้าวปีนี้ ทะลุ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท (MARD) เปิดเผยว่าทั้งปริมาณและมูลค่าการส่งออกข้าวในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และคาดว่ายอดการส่งออกข้าวในปีนี้จะสูงถึง 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการส่งออกข้าวสาร (Milled rice) ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 7.75 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 4.41 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.2% และ 36.3% เมื่อเป็นรายปี ในขณะที่ราคาส่งออกเฉลี่ย 568 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน

ทั้งนี้ จากการประชุมเชิงปฏิบัติการการ นายเจิ่น แทงห์ นาม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท กล่าวว่าข้าวมีบทบาทสำคัญต่อภาคเกษตรกรรมในเวียดนามและประเทศอื่นๆ ทั่วโลก และในอนาคตข้างหน้า ตลาดข้าวจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีความต้องการมากขึ้นจากจีน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ตะวันออกกลางและแอฟริกา

อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ มองว่าการเติบโตของปริมาณการส่งออกข้าวมีทิศทางสูงขึ้น จะส่งผลกระทบต่อสต๊อกของประเทศผู้ส่งออก และดันราคาส่งออกข้าวปรับตัวเพิ่มขึ้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1638131/rice-exports-expected-to-hit-us-5-billion-this-year.html

‘จีน’ ผู้นำเข้าสินค้าเกษตรรายใหญ่ของเวียดนาม

กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่าการส่งออกสินค้าเกษตร ป่าไม้และประมงของเวียดนาม มีมูลค่า 24.59 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในชวงครึ่งแรกของปีนี้ ลดลง 11.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยประเทศจีน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น เป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของผลผลิตทางการเกษตรเวียดนาม ทั้งนี้ การส่งออกของเวียดนามไปยังตลาดสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ลดลง 32.9% และ 5.3% คิดเป็นสัดส่วนของการส่งออกสินค้าเกษตร อยู่ที่ 20.2% และ 7.7% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งประเทศ ตามลำดับ

ในขณะที่การส่งออกไปยังตลาดจีน เพิ่มขึ้น 7.7% และคิดเป็นสัดส่วนราว 21% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งประเทศ นอกจากนี้ จีนยังคงเป็นผู้นำเข้าเพียงรายเดียวของเวียดนามที่มีอัตราการขยายตัวที่เป็นบวกในตลาดส่งออกสำคัญ

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/china-becomes-top-buyer-of-vietnam-s-farm-produce-2167911.html

ราคาส่งออกข้าวเวียดนามพุ่งเป็นประวัติการณ์

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ราคาส่งออกข้าวหัก (Broken Rice) ของเวียดนาม สูงถึง 505 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้น 7 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันเมื่อเทียบกับระดับราคาเฉลี่ยในตลาดโลก ซึ่งเป็นราคาส่งออกข้าวที่สูงที่สุดของเวียดนาม หากนับตั้งแต่ปี 2554 กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท (MARD) กล่าวว่าสาเหตุมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไปยังทั่วโลกนั้น ทำให้เกิดการกักตุนสำรองข้าวเพิ่มขึ้นและส่งออกข้าวลดลง ในขณะเดียวกัน ฟิลิปปินส์ยังคงนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ถึงแม้ว่าปริมาณการนำเข้าจะลดลงเมื่อเทียบกับปี 2562 แต่มูลค่าการส่งออกข้าวสูงกว่า ทั้งนี้ รองประธานสมาคมอาหารเวียดนาม (VFA) ระบุว่าสถานการณ์การส่งออกข้าวของเวียดนามในไตรมาสแรกของปีนี้ ยังคงอยู่ในทิศทางที่ดี เนื่องจากฟิลิปปินส์และแอฟริกายังคงนำเข้าข้าวเวียดนาม

ที่มา : http://dtinews.vn/en/news/018/71835/vietnam-s-rice-export-prices-reach-record-high-amid-pandemic.html

INFOGRAPHIC : เวียดนามส่งออกไม้ทะลุ 12.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ปี 63

กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท (MARD) คาดการณ์ว่ายอดส่งออกของภาคป่าไม้ทะลุ 12.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563

สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ไม้ที่เลื่อยออกเป็นท่อนๆ, เก้าอี้, ไม้สับ, เฟอร์นิเจอร์และไม้อัด

โครงสร้างตลาดส่งออก – สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหภาพยุโรปและจีน รวมกันมีสัดส่วนร้อยละ 90 ของมูลค่าส่งออกรวม และตลาดอื่นๆ ร้อยละ 10

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/forestry-exports-to-exceed-126-bln-usd-in-2020/192647.vnp

ราคาส่งออกข้าวของเวียดนาม แตะระดับสูงสุดในรอบ 9 ปี

กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าการส่งออกข้าวแตะ 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทางฝั่งปริมาณส่งออกข้าวรวมอยู่ที่ 4.5 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 1.7 เมื่อเทียบเป็นรายปี เป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ ราคาข้าวหักของเวียดนามสูงถึง 480-490 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน นับว่าสูงสุดตั้งแต่ปลายปี 2554 ขณะที่ ราคาข้าวจากอินเดียและไทย อยู่ที่ 383-389 และ 480-500 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ตามลำดับ นอกจากนี้ สำนักข่าวเวียดนามอ้างอิงจากคุณเหงียน วัน ด่อง ผู้อำนวยการ บริษัท Viet Hung rice milling, Processing and Trading Company กล่าวว่าสาเหตุที่ราคาส่งออกข้าวเวียดนามอยู่ในระดับสูงขึ้น เนื่องจากค่าเงินบาทไทยแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ไทยเสียเปรียบการส่งออก อีกปัจจัยหนึ่ง คือ คุณภาพข้าวของเวียดนามที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ที่มา : http://dtinews.vn/en/news/018/69811/vietnam-s-rice-export-prices-hit-nine-year-high.html

เวียดนามเผยราคาเนื้อหมูดิ่งลง หลังจากนำเข้าจำนวนมาก

ราคาเนื้อหมูในประเทศประสบปัญหาดิ่งลงฮวบในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท (MARD) อนุญาตให้บริษัทสามารถนำเข้าสุกรมีชีวิตจากไทย ด้วยเหตุนี้ ราคาสุกรมีชีวิตในจังหวัดทางตอนเหนือชองประเทศปรับตัวลดลง ระหว่าง 88,000-93,000 ด่งต่อกิโลกรัม เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ขณะที่ ภาคกลางมีราคาผันผวนอยู่ที่ 84,000-91,000 ด่งต่อกิโลกรัม ซึ่งคาดว่าราคาจะยังคงลดลงต่อไปอีกในสัปดาห์หน้า เมื่อมีการนำเข้าสุกรจากไทยจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าว ทำให้ผู้คนในท้องถิ่นมีความกังวลถึงการนำเข้าสุกรมีชีวิต เนื่องจากมีความเสี่ยงอีกครั้งของการแพร่ะระบาดโรคไข้หวัดสุกร ทั้งนี้ รองผู้อำนวยการสำนักเกษตรและพัฒนาชนบท กล่าวว่ามีธุรกิจจำนวนหนึ่งได้ลงทะเบียนเพื่อสามารถนำเข้าสุกรมีชีวิต ซึ่งหนึ่งในกลุ่มดังกล่าว มีปริมาณการนำเข้าสุกรสูงถึง 100,000-200,000 ตัว นอกจากนี้ ราคาขายสุกรมีชีวิตยังไม่เปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าราคาจะอยู่ที่ราว 50,000 ด่งต่อกิโลกรัม

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/domestic-pork-prices-fall-as-pigs-imported-in-large-volume-414963.vov