เมียนมาจ่อให้วีซ่าจีน-อินเดียหวังดึงนักท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ

โกลบอล นิว ไลต์ ออฟ เมียนมา สื่อท้องถิ่นเมียนมารายงานว่า รัฐบาลมีแผนให้นักท่องเที่ยวชาวจีนและอินเดียสามารถรับการตรวจลงตราที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเมื่อเดินทางมาถึงโดยไม่ต้องยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวล่วงหน้า (visa on arrival) หวังดึงดูดนักท่องเที่ยวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตรอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ยังไม่แน่ชัดว่าจะเริ่มต้นเมื่อใดแต่มีกำหนดทดลองโครงการนี้เป็นเวลา 1 ปี ผู้ได้รับวีซ่าจะได้รับอนุญาตให้เยี่ยมชมสถานที่ได้ทั้งหมด ยกเว้นพื้นที่หวงห้ามเท่านั้นด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ปัจจุบันพลเมืองของทั้ง 2 ชาติ ต้องยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวผ่านช่องทางออนไลน์หรือที่สถานทูตเมียนมา ขณะที่เมื่อต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมาสายการบินเมียนมา แอร์เวย์ส อินเตอร์เนชั่นแนล สายการบินแห่งชาติเริ่มเที่ยวบินตรงจากนครย่างกุ้งและเมืองมัณฑะเลย์ ไปยังเมืองโนโวซีบีร์สก์ เมืองใหญ่อันดับ 3 ของรัสเซีย ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตพลังงานนิวเคลียร์และเทคโนโลยีรายใหญ่

ที่มา : https://www.thairath.co.th/news/foreign/2725600

ไทย-สปป.ลาว หารือกำหนดมาตรการใหม่ หวังกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว

เมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) ไทย และ สปป.ลาว ได้หารือร่วมกันถึงมาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยจะเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวระหว่างกัน และเร่งสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 ณ อำเภอปากชม จังหวัดเลย ด้านนายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมด้วย นายณรงค์ จีนอ่ำ พล.ต.ปริชญ์ สุคันธศรี ผู้บัญชาการทหารบกที่ 28 และคณะเจ้าหน้าที่ต่างๆ เข้าพบนายคำพัน สิดทิดำพา ผู้ว่าราชการจังหวัดเวียงจันทน์ ของ สปป.ลาว ณ โรงแรม S Vangvieng Boutique Hotel ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ถือเป็นการประชุมด้านความมั่นคงชายแดนไทย-สปป.ลาว ครั้งที่ 20 โดยได้มีการหารือเกี่ยวกับการส่งเสริมการท่องเที่ยว การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง ภายหลังการตัดสินใจของรัฐบาลไทยในการอนุมัตินโยบายฟรีวีซ่า สำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งสปป.ลาว วางแผนที่จะยกระดับเมืองชายแดนอย่างเวียงจันทน์ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาจากประเทศไทยแล้วอาจมีการเดินทางท่องเที่ยวต่อยังประเทศเพื่อนบ้าน ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดเลยหวังเป็นอย่างมากว่าโครงการต่างๆ จะส่งเสริมภาคการท่องเที่ยว การค้า การลงทุน และโลจิสติกส์ ระหว่าง สปป.ลาว และไทย ต่อไปในอนาคต

ที่มา : https://www.bangkokpost.com/thailand/general/2648313

ในช่วง 5 ปี จังหวัดพระตะบองของกัมพูชา ดึงดูดนักท่องเที่ยวกว่า 2.6 ล้านคน

ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จังหวัดพระตะบองดึงดูดนักท่องเที่ยวท้องถิ่นประมาณกว่า 2.32 ล้านคน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.57 แสนคน ตามการรายงานของกระทรวงสารสนเทศ (MoI) ด้าน Chuon Chan Phearun รองอธิบดีฝ่ายสารสนเทศกล่าวเสริมว่าพระตะบองเคยเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของกัมพูชาตั้งอยู่ในจังหวัดที่สวยงามและมีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากกรุงพนมเปญ โดยขึ้นชื่อในด้านวัฒนธรรมอันร่ำรวย สถานที่ทางประวัติศาสตร์ และมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็ว เนื่องจากจังหวัดตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของทั้งนักท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันจังหวัดพระตะบองมีโรงแรมเปิดให้บริการประมาณ 46 แห่ง และเกสต์เฮาส์ 97 แห่ง โดยรวมห้องพักทั้งหมด 3,153 ห้อง

นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารกว่า 191 แห่ง และชุมชนท่องเที่ยว 4 ชุมชน ด้านรัฐบาลกัมพูชาตั้งเป้าหมายที่จะส่งเสริมจังหวัดพระตะบองให้เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ รองจากจังหวัดเสียมราฐ ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ประวัติศาสตร์ รวมถึงพื้นที่อื่นๆ เพื่อหวังดึงดูดนักท่องเที่ยว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501342421/battambang-attracts-over-2-31-million-tourists-in-five-years/

รมว.ท่องเที่ยว สปป.ลาว วางแผนรับนักท่องเที่ยวจีน

รัฐบาล สปป.ลาว เร่งจัดกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยว รวมถึงเร่งปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการมาเยือนของนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมากระหว่างปี 2023-2025 โดยนักท่องเที่ยวจีนถือเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้มาเยือน สปป.ลาว กลุ่มสำคัญ นับตั้งแต่รัฐบาลจีนอนุญาตการเดินทางออกนอกประเทศในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา อีกทั้งปัจจุบันรัฐบาล จีน-สปป.ลาว ได้เปิดให้บริการเส้นทางรถไฟสายใหม่ เพื่อเอื่อต่อการเดินทางและการขนส่ง ร่วมกับการปรับปรุงการเชื่อมต่อถนนระหว่างสถานีรถไฟ สถานที่ท่องเที่ยว และถนนสายหลัก ขณะที่รัฐบาลยังคงให้ความสำคัญกับสายการบินที่ต้องการกำหนดเที่ยวบินระหว่าง สปป.ลาวและจีน เป็นสำคัญ ตามรายงานของกระทรวงสารสนเทศ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว โดยในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ชาวจีนมากกว่าหนึ่งล้านคนเดินทางมาเยือน สปป.ลาว คิดเป็นประมาณร้อยละ 20 ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Tourism136.php

‘เศรษฐกิจเวียดนาม’ แนวโน้มกลับมาฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง

นายทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ประจำประเทศไทยและเวียดนาม กล่าวว่าแนวโน้มเศรษฐกิจระยะกลางของเวียดนามมีทิศทางที่สดใส สาเหตุสำคัญมาจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของนักท่องเที่ยว การเปิดกว้างทางเศรษฐกิจและความมีเสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาค โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะขยายตัว 7% ในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อในปีนี้ คาดว่าจะลดลงเหลือ 2.8% ต่ำกว่าตัวเลขที่คาดการณ์ไว้ที่ 4.3% อย่างไรก็ตาม กิจกรรมการค้ายังคงซบเซา ซึ่งเป็นความท้าทายต่อภาคการผลิตของประเทศ ถึงแม้ว่าเวียดนามจะเกินดุลการค้ามากขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 แต่ว่าภาพรวมของภาคการส่งออกกลับลดลงในปี 2565

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnams-economy-set-to-rebound-in-h2-report/

2024 สปป.ลาว ตั้งเป้ารับนักท่องเที่ยว 4.6 ล้านคน

รัฐบาล สปป.ลาว หวังดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างน้อย 4.6 ล้านคน ภายในช่วงปี 2024 ผ่านแคมเปญ Visit​ Laos Year​ 2024 โดยคาดว่าจะสร้างรายได้เข้าประเทศประมาณกว่า 712 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคาดการณ์ว่ามากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนนักท่องเที่ยวดังกล่าวจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ข้อมูลข้างต้นกล่าวโดย Suanesavanh Vignaket​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารสนเทศ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว สปป.ลาว ซึ่งคาดว่าเทศกาลธาตุหลวงในเวียงจันทน์ การเฉลิมฉลองปีใหม่ สปป.ลาว และการเฉลิมฉลองในแขวงหลวงพระบางเพื่อเฉลิมฉลองวันออกพรรษา จะเป็นช่วงที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ออกมาเที่ยวมากที่สุด เช่นเดียวกับเทศกาลอื่นๆ ที่นอกเหนือจากที่กล่าว ด้านกระทรวงฯ กำลังเร่ง​ส่ง​แผนการกระตุ้นการท่องเที่ยว​ให้กับ​รัฐบาล ในการ​อนุมัติเพื่อทำการจัดแคมเปญต่อไป โดยในปี 2018 ช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 สปป.ลาว ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวมากถึง 4.1 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.2 เมื่อเทียบกับปี 2017

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laostargeting130.php

กระทรวงพาณิชย์กัมพูชาคาด GDP ปีนี้ โต 5.6%

Aun Pornmoniroth รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง (MEF) ได้คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาในปี 2023 ไว้ที่ร้อยละ 5.6 จากที่ขยายตัวร้อยละ 5.3 ในปีที่แล้ว โดยได้กล่าวไว้ในระหว่างการประชุมร่วมครั้งที่ 35 ของคณะกรรมาธิการ UNWTO (35th CAP & CSA) และการประชุม WTO ว่าด้วยมาตรฐานสากลการคุ้มครองนักท่องเที่ยว (ICPT) ณ Sokha Phnom Penh Hotel & Residence โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยังชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลมีมุมมองในแง่ดีสำหรับภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนหลักเศรษฐกิจของกัมพูชาที่กำลังจะกลับเข้าสู่สถานการณ์ภาวะปกติ หลังประสบกับปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยในช่วงปี 2025 ทางการกัมพูชาคาดว่าจะกลับมาให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวแตะ 7 ล้านคน และในปี 2026 คาดว่าจะให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวขึ้นไปถึงประมาณ 13 ล้านคน ใกล้เคียงกับจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2019 ภายใต้แนวคิด Public-Private Partnership (PPP) ผ่านความร่วมมือทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501310040/pornmoniroth-puts-cambodias-2023-gdp-forecast-at-5-6/

Agoda แนะไทยเร่งสร้างจุดดึงดูดใหม่ให้นักท่องเที่ยว หลังเวียดนามมาแรงและจะกลายเป็นคู่แข่งสำคัญ

Agoda แพลตฟอร์มออนไลน์ด้านการท่องเที่ยวและจองที่พักชื่อดัง ได้ออกมาเปิดเผยสถิติข้อมูลนักท่องเที่ยวบนแพลตฟอร์มในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ พบว่าการท่องเที่ยวไทยโดยรวมฟื้นตัวในทิศทางที่รวดเร็วกว่าประเทศอื่น โดยไทยถือเป็นประเทศที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกเป็นอันดับ 2 รองจากญี่ปุ่น

ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวได้ดี ได้แก่ การเปิดประเทศของจีนและการที่ไทยมีเที่ยวบินรองรับนักท่องเที่ยวเพียงพอ โดยข้อมูลล่าสุดระบุว่า นับจากต้นปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามายังประเทศไทยแล้วไม่ต่ำกว่า 11 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปีของปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ Morgenshtern เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่สุดที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยในปีนี้คือชาวเกาหลีใต้ ตามมาด้วยมาเลเซียและจีน

อย่างไรก็ดี เขาก็เห็นเทรนด์การเดินทางไปท่องเที่ยวในเวียดนามของชาวเกาหลีใต้ที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ชาวเกาหลีใต้เลือกเวียดนามเป็นจุดหมายในการท่องเที่ยวมากขึ้นมีความเชื่อมโยงกับการที่บริษัทจากเกาหลีใต้จำนวนมากเลือกเข้ามาลงทุนและตั้งโรงงานในเวียดนามในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ยิ่งคุณดึงดูดการลงทุนและนักธุรกิจเข้ามาได้มากเท่าไร มันก็จะส่งผลบวกต่อการท่องเที่ยวตามไปด้วย ขณะที่ซีอีโอ Agoda เชื่อว่าเวียดนามกำลังก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวในด้านการท่องเที่ยวสำหรับประเทศไทย

ที่มา : https://thestandard.co/agoda-advice-thailand-build-new-attraction/

นักท่องเที่ยว ไทย-เวียดนาม ยังคงเป็นกลุ่มสำคัญสำหรับภาคการท่องเที่ยวกัมพูชา

หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของกัมพูชาเปิดเผยว่านักท่องเที่ยวชาวไทยยังคงนักท่องเที่ยวกลุ่มสำคัญของกัมพูชา โดยในช่วงไตรมาสแรกมีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางมายังกัมพูชากว่า 570,000 คน นักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม 285,000 คน และนักท่องเที่ยวชาวจีน 184,000 คน ซึ่งหากนับรวมกับนักท่องเที่ยวสัญชาติอื่นๆ จะมีปริมาณนักท่องเที่ยวรวมอยู่ที่ 1.72 ล้านคน เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 600 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้าน Thong Khon รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวของกัมพูชา กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันคาดว่าจะมีเที่ยวบินตรงจากจีนมายังกัมพูชาเพิ่มขึ้น อีกทั้งทางการกัมพูชากำลังเร่งพัฒนาสนามบินใหม่สองแห่งที่มีระยะทางห่างจากเสียมราฐประมาณ 50 กม. ซึ่งมีกำหนดเปิดให้ใช้บริการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 และแห่งที่สองห่างจากกรุงพนมเปญประมาณ 20 กม. คาดว่าจะแล้วเสร็จก่อนสิ้นปี 2024 ด้วยเหตุผลข้างต้นคาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมายังกัมพูชาอย่างน้อย 4 ล้านคนในปี 2023

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501309801/asean-neighbours-thailand-and-vietnam-the-largest-groups-of-tourists-entering-cambodia/

สายการบิน Lao Airlines กลับมาให้บริการเส้นทางสู่เมืองฉางชาประเทศจีน

เที่ยวบินแรกของสายการบิน Lao Airlines จากเมืองเวียงจันทน์สู่ฉางชาเมืองหลวงของมณฑลหูหนานทางตอนกลางของจีน ซึ่งเป็นการกลับมาให้บริการหลังจากจีนเริ่มเปิดพรมแดนอีกครั้ง โดยกำหนดเที่ยวบินไว้ที่สัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน เพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจในภูมิภาคที่เพิ่มจำนวนขึ้นในระยะที่ผ่านมา รวมถึงเพื่อเป็นการส่งเสริมการค้าและกิจกรรมทางเศรษฐกิจระหว่าง สปป.ลาว และจีน โดยเที่ยวบินระหว่างเวียงจันทน์-ฉางชา มีจุดประสงค์ไม่เพียงแต่เพื่อจะฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวใน สปป.ลาว เท่านั้น แต่ยังส่งเสริมความเชื่อมโยงของ สปป.ลาว กับภูมิภาคต่างๆ เพื่อหวังฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศและภูมิภาคต่อไป ปัจจุบันสายการบิน Lao Airlines ได้ให้บริการเที่ยวบินตรง 12 เส้นทางไปยังเมืองต่างๆ ทั้งในประเทศจีนและประเทศสมาชิกอาเซียน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten82_Lao_y23.php