เมียนมาขยายเวลาระงับเที่ยวบินระหว่างประเทศจนถึง 31 ส.ค.64

กระทรวงคมนาคมและคมนาคมของเมียนมา ขยายเวลาปิดสำหรับสายการบินระหว่างประเทศทั้งหมดที่ดำเนินการบริการทางอากาศไปและกลับจากสนามบินนานาชาติย่างกุ้ง (YIA) ออกไปจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของ COVID-19 ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขและการกีฬาและกรมการบินพลเรือน อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะเดินทางมายังเมียนมาสามารถเดินทางโดยเที่ยวบินบรรเทาทุกข์จากเหตุฉุกเฉินของรัฐบาลหรือชาวต่างชาติรวมถึงนักการทูต เจ้าหน้าที่ และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานของสหประชาชาติ จำเป็นต้องติดต่อสถานทูตเมียนมาในต่างประเทศหรือสถานกงสุลในเมียนมาเพื่อยกเลิกข้อจำกัดเรื่องวีซ่า ขณะนี้ เมียนมามีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 306,354 ราย เสียชีวิตไปแล้ว 10,061 ราย

ที่มา : https://gnlm.com.mm/suspension-of-all-international-flights-extended-until-31-aug/#article-title

กัมพูชาพิจารณาให้โรงงานในเขตพื้นที่สีเหลืองกลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง

โรงงานและสถานประกอบการอย่างน้อย 95 แห่ง ในเขตพื้นที่สีเหลืองเริ่มกลับมาดำเนินการผลิตใหม่อีกครั้ง หลังจากที่รัฐบาลกัมพูชาได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์ในเมืองพนมเปญและในเขตตาเขมาแบ่งออกเป็นสามโซน โดยโรงงานในเขตพื้นที่สีเหลืองเป็นโซนแรกที่ได้รับอนุญาตให้กลับมาดำเนินการได้ตามปกติอีกครั้งภายใต้มาตรการควบคุมอย่างเข้มงวด ซึ่งทางการกัมพูชากล่าวถึงการเริ่มห่วงโซ่การผลิตใหม่ในโรงงานและสถานประกอบการข้างต้นถือเป็นสัญญาณที่ดีในภาคการผลิตภายใต้สถานการณ์ในปัจจุบัน แม้ว่าการระบาดของโควิด-19 จะยังไม่สิ้นสุดลงก็ตาม โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่าคนงานมากกว่าครึ่งหนึ่ง สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ แต่ส่วนที่เหลือที่อยู่ในเขตพื้นที่สีส้มและสีแดงทางรัฐบาลยังคงจำเป็นต้องล็อกดาวน์และให้ทำงานจากทางบ้านอยู่จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะดีขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50851509/nearly-100-factories-reopen-in-yellow-zones-but-virus-remains/

รัฐบาลกัมพูชาเตรียมอนุมัติให้โรงงานตัดเย็บในเขตพื้นที่สีเหลืองกลับมาเปิดอีกครั้ง

รัฐบาลกัมพูชาระบุว่าโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าและโรงงานผลิตด้านอื่น ๆ ในเขตพื้นที่สีเหลือง ได้รับอนุญาตให้กลับมาเปิดดำเนินกิจการใหม่ได้อีกครั้งในวันที่ 29 เมษายน 2021 ดังประกาศของรัฐบาลกัมพูชาที่ได้กล่าวไว้ว่า กิจกรรมการทำงาน อาชีพ และธุรกิจทั้งหมดที่อยู่ในเขตพื้นที่สีเหลือง อนุญาตให้กลับมาดำเนินการได้ตามปกติ ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ซึ่งโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าทุกแห่งในพนมเปญและเมืองตาเขมาจังหวัดกันดาล ถูกสั่งให้หยุดดำเนินการเมื่อต้นเดือนนี้ หลังจากพบว่ามีคนงานหลายพันคนติดโควิด-19

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50846999/yellow-zone-garment-factories-may-re-open-but-with-caution/

รัฐบาลการผ่อนคลายมาตรการป้องกัน COVID -19 เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ

การประชุมคณะรัฐมนตรีในวาระเรื่อง “การผ่อนคลายมาตรการป้องกัน COVID -19 เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ”โดยรัฐบาลได้ตัดสินใจที่จะอนุญาตให้ประเทศที่สามารถควบคุมการระบาด COVID -19ได้แล้วและมียอดผู้ติดเชื้อน้อยสามารถมาเยือนสปป.ลาวได้ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจของ COVID -19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซึ่งเป็นภาคที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด อย่างไรก็ตามภายใต้นโยบายดังกล่าวจะต้องอยู่ในกฎเกณฑ์ที่เคร่งครัดเพื่อลดโอกาสการระบาดรอบ 2 ที่อาจกลับมาได้จากการเปิดประเทศครั้งนี้ นอกจากนี้ด้านการค้าจากการปิดด่านชายแดนในบางจุดที่ผ่านมารัฐบาลยังอนุญาตให้ขนส่งสินค้าได้ตามปกติแต่ยังคงไม่อนญาตให้มีการเดินทางเข้า-ออกได้ซึ่งการจะเข้ามาท่องเที่ยวนั้นจะต้องทำเรื่องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ก่อน รัฐบาลสปป.ลาวหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการดังกล่าวจะเป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทสได้ แต่ก็มากับความท้าทายที่รัฐบาลต้องมีแผนรับมือที่ดีต่อโอกาสที่การระบาดจะกลับมาอีกรอบ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt192.php

รัฐบาลกัมพูชาขยายมาตรการช่วยเหลือภาคแรงงานต่อไปอีก 3 เดือน

รัฐบาลได้ขยายมาตรการสนับสนุนเพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอ การท่องเที่ยวและการบินจนถึงสิ้นปี 2020 โดยถือเป็นการออกมาตรการเป็นรอบที่ 6 ที่รัฐบาลให้การสนับสนุนภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน โดยรัฐบาลจะจ่ายเงิน 40 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับคนงานที่ถูกปลดออกจากงานในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและสิ่งทอ รองเท้า กระเป๋าเดินทาง และการท่องเที่ยวไปอีกสามเดือนจนถึงสิ้นปี 2020 อย่างไรก็ตามเจ้าของโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าจะต้องเพิ่มเงินอีก 30 ดอลลาร์ต่อเดือนเพื่อเป็นการช่วยเหลือภาคแรงงาน และรัฐบาลยังคงยกเว้นการจ่ายภาษีรายเดือนในทุกประเภทสำหรับโรงแรม เกสต์เฮาส์ ร้านอาหารและตัวแทนการท่องเที่ยวที่จดทะเบียนกับแผนกจัดเก็บภาษีและดำเนินธุรกิจในกัมพูชา ซึ่งรัฐบาลกล่าวว่าแม้ว่าความพยายามในการพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 จะมีความคืบหน้าไปมาก แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าการระบาดจะสิ้นสุดลงเมื่อใดและจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมมากเพียงใด เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ โดยกัมพูชาได้รับผลกระทบอย่างหนักจาก โควิด-19 ทั้งในด้านเศรษฐกิจและด้านอื่นๆ แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามอย่างมากในการควบคุมการแพร่ระบาดและช่วยเหลือในหลายด้าน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50768727/govt-extends-support-measures-for-3-months/

กัมพูชาวางมาตรการฟื้นฟูการท่องเที่ยวร่วมกับไทย

คณะทำงานด้านการท่องเที่ยวของกัมพูชา – ไทย ได้หารือเกี่ยวกับการหาแนวทางแก้ไขและดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมของทั้งสองประเทศ โดยคณะทำงานด้านการท่องเที่ยวของกัมพูชานำโดยผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาการท่องเที่ยวและความร่วมมือระหว่างประเทศของกระทรวงการท่องเที่ยว ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พบปะกันผ่านการประชุมทางไกล โดยแบ่งปันประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่ดีเกี่ยวกับการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 และผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว ซึ่งกัมพูชาและไทยได้วางกลยุทธ์ในกิจกรรมช่วยเหลือและแผนในอนาคตซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน คือ “mitigation phase”, “early recovery” และ “post-COVID-19 crises recovery plan” โดยทำการกำหนดจังหวัดนำร่องโครงการเพื่อจัดเตรียมแพ็คเกจทัวร์ และเตรียมการต้อนรับ การจัดการที่ดี ภายใต้ความเหมาะสมและปลอดภัย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50756873/measures-to-restore-regional-tourism/

มาตรการป้องกัน COVID-19 ในสปป.ลาวยังคงอยู่

รองประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจแห่งชาติเพื่อการป้องกันและควบคุม COVID-19 กล่าวว่าการระงับเที่ยวบิน และและการบังคับใช้มาตรการป้องกันอย่างต่อเนื่องจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1-31ส.ค ทั้งนี้การแก้ไขของมาตรการจะได้รับการพิจารณาหลังจากเดือนสิงหาคม ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมารัฐบาลได้ยกเลิกมาตรการควบคุมจำนวนมากที่กำหนดภายใต้คำสั่งของนายกรัฐมนตรีหมายเลข 06 หลังจากที่ไม่มีการบันทึกผู้ป่วย COVID-19 ใหม่เป็นเวลาหลายเดือน การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่ได้รับการยืนยันทั่วโลกทำให้เกิดความท้าทาย มาตรการที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1-31 ส.ค.คือ ปิดสถานบันเทิงคาราโอเกะและร้านเกม  ปิดด่านชายแดนแบบดั้งเดิมและท้องถิ่นยกเว้นที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลในการขนส่งสินค้า ด่านระหว่างประเทศยังคงปิดให้บริการสำหรับนักเดินทางทั่วไปยกเว้นการข้ามที่จำเป็นสำหรับชาวสปป.ลาวและชาวต่างชาติที่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการเฉพาะกิจ อนุญาตให้มีการขนส่งสินค้าผ่านด่านระหว่างประเทศตามปกติ ระงับการออกวีซ่าท่องเที่ยวหรือเยี่ยมชมสำหรับผู้ที่เดินทางมาหรือเดินทางผ่านประเทศที่มีการระบาดของ COVID-19 นักการทูตต่างประเทศ เจ้าหน้าที่ขององค์กรระหว่างประเทศ ผู้เชี่ยวชาญ นักลงทุน นักธุรกิจบุคลากรด้านเทคนิคและคนงานที่มีความสำคัญต่อการปฏิบัติภารกิจสามารถเข้าประเทศได้เมื่อได้รับอนุมัติจากคณะทำงานเฉพาะกิจ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_COVID147.php

สปป.ลาวกำหนดให้ผู้ที่เดินทางออกจาก สปป.ลาว จำเป็นต้องมีใบนับรองแพทย์

ผู้เดินทางออกจากสปป.ลาวทุกคนจะต้องแสดงใบรับรองแพทย์สำหรับประเทศจุดหมายปลายทางเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของ COVID-19  คณะกรรมการระดับชาติว่าด้วยการป้องกันและควบคุมโรคโควิด 19 แห่ง สปป.ลาว ได้กล่าวว่าผู้ที่เดินทางทุกคนจะต้องมีใบรับรองแพทย์ก่อนเดินทางไปประเทศอื่น ซึ่งผู้ที่ไม่มีใบรับรองแพทย์ที่ถูกต้องจะถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทาง อีกทั้งรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมิดตะพาบกล่าวย้ำความสำคัญของใบรับรองแพทย์สำหรับนักเดินทาง จะมีจุดตรวจสุขภาพหลายแห่งและนักท่องเที่ยวจะต้องจัดทำเอกสารทางการแพทย์จากประเทศต้นทางของตน คนในสปป.ลาวสามารถขอใบรับรองแพทย์ที่โรงพยาบาลเฉพาะแห่งในประเทศ อย่างไรก็ตามผู้ที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ไอ เจ็บคอหรือมีปัญหาระบบทางเดินหายใจหรือมีประวัติติดต่อกับกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงจะไม่ได้รับใบรับรองแพทย์ โรงพยาบาลมิดตะพาบ, โรงพยาบาลมโหสถ และสถาบันปาสเตอร์ ในเวียงจันทน์จะอำนวยความสะดวกทำการตรวจสุขภาพสำหรับ COVID-19 ทั้งนี้ใบรับรองแพทย์จะรับรองว่าผู้เดินทางไม่แสดงอาการคล้าย COVID และการตรวจเชื้อ COVID ผลเป็นลบ ซึ่งมาตรการป้องกันนี้จะใช้เวลานานในการป้องกันการแพร่กระจายของ COVID-19

ที่มา : http://en.freshnewsasia.com/index.php/en/internationalnews/18742-2020-07-08-03-07-20.html

รัฐบาลสปป.ลาวผ่อนปรนมาตรการป้องกัน COVID-19

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขรองศาสตราจารย์ดร. Bounkong Syhavong ในนามของคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อการป้องกันและควบคุม COVID-19 ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการประกาศใหม่ที่ออกโดยสำนักนายกรัฐมนตรีในงานแถลงข่าวในเวียงจันทน์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยในรายละเอียดระบุไว้ว่ารัฐบาลจะมีการผ่อนปรนให้กิจกรรมต่างๆเริ่มกลับมาดำเนินการได้ เช่นกีฬาต่างๆ คาสิโน การชุมนุมทางสังคมบางอย่างจะได้รับอนุญาตให้ดำเนินการต่อภายใต้การตัดสินใจของรัฐบาล หรือกิจกรรมต่างๆ โดยประกาศจะมีผลนับตั้งแต่ 1 ถึง 31 กรกฎาคม ในขณะที่ด่านชายแดนรัฐบาลได้ตัดสินใจที่จะปิดการข้ามชายแดนแบบต่อไปอย่างไรก็ตามการขนส่งสินค้ายังสามารถทำได้นอกจากนี้รัฐบาลจะระงับวีซ่านักท่องเที่ยวประเทศที่สถานการณ์ COVID-19 ยังมีการระบาดต่อไป

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt125.php

อัพเดท สถานการณ์ COVID-19 เวียดนาม วันที่ 08.06.2563

อัพเดท สถานการณ์ COVID-19 เวียดนาม วันที่ 8 มิถุนายน 2563

สอท. ณ กรุงฮานอย ระบุว่าผู้ติดเชื้อ 331 (+4) ราย, รักษาหาย 316 ราย (+38) และไม่มีผู้เสียชีวิต

คนเวียดนามกลับจากต่างประเทศติดเชื้อเพิ่ม 4 คนแต่ไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มในประเทศเป็นวันที่ 53 และชุดตรวจสอบเชื้อโควิด-19 ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกและสหราชอาณาจักร

พัฒนาการที่สำคัญในวันนี้

  • เวียดนามไม่พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ในระดับชุมชน (local transmission) เป็นวันที่ 53 แต่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่กลับจากต่างประเทศ (รัสเซีย สหราชอาณาจักร เม็กซิโก) 4 ราย
  • บริษัท Sunstar JSC ร่วมมือกับ National Institute for Control of Vaccine and Biologicals และ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัย Hanoi ผลิตชุดทดสอบเชื้อโควิด-19 “RT-PCR COVID-19 KIT THAI DUONG และ RT-LAMP COVID-19 KIT THAI DUONG” ซึ่งได้รับการขึ้นรายการ Emergency Use Listing Procedures ขององค์การอนามัยโลก และกระทรวงสาธารณสุขสหราชอาณาจักรออก Certicate of European Standard (CE) และ Certificate of Free Sales (CFS) สำหรับผลิตภัณฑ์ดังกล่าวด้วย

พัฒนาการที่สำคัญในวันนี้

  • ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการป้องกันอย่างต่อเนื่องเพื่อมิให้ผู้ติดเชื้อรายใหม่
  • แนะนำให้ประชาชนหมั่นล้างมือ สวมหน้ากาก
  • งดกิจกรรมเฉลิมฉลอง พิธีกรรมทางศาสนาและมหกรรมกีฬา
  • ยังคงห้ามนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าเวียดนาม เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่
  • บุคคลที่เดินทางเข้าเวียดนามจะถูกกักตัว 14 วัน
  • ยกเว้นการห้ามการเดินทางเข้าประเทศของคนต่างประเทศ โดยจะพิจารณาอนุญาตให้นักลงทุนชาวต่างชาติ ผู้เชี่ยวชาญ แรงงานทักษะสูง ผู้บริหารกิจการ เจ้าหน้าที่ และนักศึกษาชาวเวียดนามที่ศึกษาในต่างประเทศ โดยจะต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและกักตัวอย่างเข็มงวด
  • สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอเชิญชวนชาวไทยมอบสิ่งของ เพื่อบรรเทาผลกระทบจาก COVID-19 ให้กับชุมชน Phuc Xa กรุงฮานอย ในช่วงต้นเดือนมิ.ย. 2563

ที่มา : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย