10 ธนาคารพาณิชย์สปป.ลาว ลงนามขอสินเชื่อเพื่อส่งเสริม SMEs

ฝ่ายปฏิบัติการธนาคารภายใต้ธนาคารสปป.ลาวได้ลงนามใน 10 ธนาคารพาณิชย์เพื่อขอสินเชื่อ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากธนาคารเพื่อการพัฒนาประเทศจีนเพื่อส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในสปป.ลาว บันทึกความเข้าใจสำหรับโครงการได้มีการลงนามระหว่างธนาคารการค้าต่างประเทศลาว, ธนาคารเพื่อการพัฒนาลาว , ธนาคารส่งเสริมกสิกรรม, ธนาคารมารูฮานเจแปนลาวจำกัด, ธนาคารร่วมพัฒนาจำกัด , ธนาคารลาวจีนจำกัด, ธนาคารร่วมธุรกิจลาว-เวียด จำกัด, ธนาคารเอสทีจำกัด, ธนาคารหุ้นส่วนการค้าทหาร สาขาลาวและธนาคารไซง่อนเทืองตินลาวจำกัด ลงนามเป็นสักขีพยานโดยผู้ว่าการ BOL วัตถุประสงค์ของโครงการนี้คือการมีส่วนร่วมในการดำเนินการตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของรัฐบาลและเพื่อให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนโดยการส่งเสริมการพัฒนาของ SMEs หลังจากการพิจารณาของแผนกธนาคารทั้งหมด 16 แห่งที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขได้ถูกคัดเลือกให้เข้าร่วมในโครงการอย่างไรก็ตามมีเพียง 10 ธนาคารเท่านั้นที่แสดงความตั้งใจที่จะเข้าร่วม

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/ten-lao-banks-seek-loan-promotion-smes-104290

หน่วยงานการผลิตทางการเกษตรสปป.ลาวจำหน่ายเมล็ดข้าวเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม

หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมการผลิต ภายใต้กรมส่งเสริมวิชาการและแปรรูปการเกษตร กระทรวงเกษตรและป่าไม้กล่าวว่าหน่วยงานมีร้านจำหน่ายเมล็ดข้าว 1,500 ตัน ในเดือนพ.ย. ถึงช่วงฤดูแล้ง มี.ค. พร้อมที่จะช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในแขวงคำม่วน สุวรรณเขต อัตตะปือ สาละวัน จำปาสัก และ เซกอง ที่เสียหายกว่า 130,500 ไร่ ซึ่งกำลังรอคำขอโดยตรงจากการประเมินของหน่วยงานท้องถิ่น อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะสามารถจัดหาเมล็ดพันธุ์ให้เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกรเนื่องจากพื้นที่น้ำท่วมบางแห่งไม่พร้อมที่จะปลูกข้าวในฤดูแล้ง นอกจากนี้หน่วยงานจะยังคงร่วมมือกับพันธมิตรพัฒนาเพื่อปรับปรุงพันธุ์ข้าวโดยการเพิ่มจำนวนพันธุ์ที่มีอยู่ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจว่าเกษตรกรสามารถเข้าถึงเมล็ดพันธุ์ได้มากขึ้น อีกทั้งส่งเสริมให้เกษตรกรนำเทคนิคและอุปกรณ์การปลูกพืชใหม่มาใช้ในการปลูกข้าวโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดต้นทุนการผลิต

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Authorities_206.php

สปป.ลาว จำกัดการส่งออกข้าวเนื่องจากข้าวขาดตลาด

สปป.ลาว จำกัดการส่งออกข้าวเนื่องจากขาดแคลนอุปทานในตลาดภายในประเทศแม้จะมีความต้องการสูงจากต่างประเทศ ราคาข้าวที่สูงและผลกระทบจากอุทกภัยภายในประเทศในฤดูกาลนี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ชาวนาเก็บข้าวไว้บริโภคเอง สปป.ลาวส่งออกข้าวขัดมันเพียง 1,350 ตันไปยังจีนโดยเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงโควต้าการส่งออก 50,000 ตัน ในขณะที่ตลาดจีนต้องการข้าวจากสปป.ลาวเพิ่มขึ้น ผลกระทบจากภัยธรรมชาติอาจเป็นสาเหตุสำคัญของผู้ส่งออกข้าวสปป.ลาวที่ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ ซึ่งจีนยังคงเป็นตลาดส่งออกข้าวที่ใหญ่ที่สุดและเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 2 ของประเทศแม้ว่าจะมีข้อกำหนดด้านคุณภาพที่เข้มงวด ราคาข้าวเริ่มเพิ่มสูงขึ้นในเดือนมิ.ย.และหลายพื้นที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคกลางและภาคใต้ได้รับผลกระทบ น้ำท่วมทำลายไร่นาหลายพันไร่และพืชไร่อื่น ๆ หลายร้อยเฮคแตร์ แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้รายงานตัวเลขโดยละเอียดเกี่ยวกับความเสียหาย

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/laos-limits-rice-exports-due-short-supply-104201

โครงการไฟฟ้าพลังน้ำน้ำเงี้ยบ 1 เริ่มผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อการส่งออกมายังประเทศไทย

หลังจาก 5 ปีในการสร้างโครงการไฟฟ้าพลังน้ำน้ำเงี้ยบ 1 (NNP1) ในแขวงบอลิคำไซของสปป.ลาวเริ่มผลิตไฟฟ้าในวันที่ 5 ก.ย.เพื่อส่งออกไปยังประเทศไทย การก่อสร้างเริ่มขึ้นในปลายปี 57 และงานโยธาไฟฟ้าและเครื่องกลครั้งสุดท้ายแล้วเสร็จในเดือนส.ค. การทดสอบการว่าจ้างขั้นสุดท้ายเสร็จสมบูรณ์ในช่วงปลายเดือนส.ค.และเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้รับการรับรองเมื่อวันที่ 5 ก.ย. 62 โดยกฟผ. โรงไฟฟ้าหลักมีกำลังการผลิตติดตั้ง 272 MW และพลังงานทั้งหมดที่ผลิตจากโรงไฟฟ้านี้จะขายให้กับกฟผ. ผ่านสายส่ง 120 km. 230 kV ไปยังสถานีไฟฟ้าย่อยนาบง พลังงานจะถูกเปลี่ยนเป็น 500 kV ก่อนที่จะถูกส่งไปยังประเทศไทย  โครงการนี้มีเป้าหมายคือการสร้างโครงการพลังงานที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่จะจัดหาพลังงานทดแทนที่สะอาดและมีส่วนช่วยลดความยากจนของสปป.ลาว

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/nam-ngiep-1-project-begins-generating-electricity-export-thailand-104202

อุตสาหกรรมผัก สปป.ลาวกำลังเผชิญกับความท้าทาย

อุตสาหกรรมผักสปป.ลาวกำลังเผชิญกับความท้าทายหลายอย่าง เวทีสนทนาเรื่องผักระดับภูมิภาคหัวข้อ“ การยอมรับเพื่อสนับสนุนการแทรกแซงในเกษตรกรรายย่อยเพื่อการผลิตผักสดที่ปลอดภัยตลอดทั้งปี” ที่จัดขึ้นในเวียงจันทน์เมื่อวานนี้ งานนี้เปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจากภาครัฐ เอกชน นักวิจัย และเกษตรกรได้แลกเปลี่ยนความเข้าใจในประเด็นทางสังคม เศรษฐกิจ เทคนิค และที่เป็นประเด็นท้าทายในห่วงโซ่ผักและอุปสรรคสำคัญต่างๆ และการแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ และเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติที่ถูกต้องเหมาะสม ซึ่งการผลิตผักเป็นกิจกรรมที่สำคัญสำหรับเกษตรกรและเป็นแหล่งอาหารและรายได้ และสามารถเป็นความมั่นคงด้านอาหารของครัวเรือนได้ ที่ผ่านมาพื้นที่เพาะปลูกผักทั้งหมดเพิ่มขึ้นทุกปีแต่มีความท้าทายหลายอย่าง บางครั้งในฤดูฝนผักหลายชนิดต้องนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสามารถในการปลูก ทั้งการเข้าถึงข้อมูลตลาดทั้งในและต่างประเทศของเกษตรกรค่อนข้างลำบาก ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น เช่น ต้นทุนแรงงาน เป็นสาเหตุให้ความสามารถในการแข่งกันกับประเทศเพื่อนบ้านลดลง ดังนั้นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ องค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) และภาคเอกชนต้องพัฒนานวัตกรรมการผลิตและระบบห่วงโซ่อุปทานตลอดจนการแก้ไข เพื่อให้มีผักบริโภคได้ทั้งปี

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/vegetable-industry-laos-facing-several-challenges-103966

กัมพูชาทำข้อตกลงขยายการผลิตไฟฟ้าถ่านหินในสปป.ลาว

กัมพูชาตั้งเป้าที่จะขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าตามข้อตกลงกับสปป.ลาว เป็นเวลา 30 ปีมูลค่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อเข้าสู่โรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินในสปป.ลาว สามารถเข้าถึงไฟฟ้าที่ 2,400 เมกะวัตต์ที่ 7.7 เซนต์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อชั่วโมงและเป็นราคาที่ต่ำกว่าการนำเข้าจากไทยและเวียดนาม ADB ระบุกำลังการผลิตทั้งหมดของกัมพูชาอยู่ที่ 2,175 เมกะวัตต์ในปี 61 คิดเป็น 62% จากพลังงานน้ำและ 36% จากเชื้อเพลิงฟอสซิล บริษัท TSBP Sekong Power and Mineral มีกำลังการผลิต 600 เมกะวัตต์ ขณะที่โรงไฟฟ้าพลังความร้อนเซกงจะมีกำลังการผลิต 1,800 เมกะวัตต์ ปัจจุบันการลงทุนเพิ่มอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะภาคก่อสร้าง ซึ่งมีผลกระทบต่อการใช้พลังงานในปี 62 และปีต่อ ๆ มาสูงกว่าที่คาดไว้ ข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นหนึ่งวันก่อนการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีฮุนเซนและนายกรัฐมนตรีลาวทองลุน สีสุลิด ก่อนหน้านี้รัฐบาลเคยคิดจะเปลี่ยนไปใช้พลังงานแสงอาทิตย์แทนถ่านหินเพราะราคาที่สูงและถือเป็นอุปสรรคทางเศรษฐกิจของประเทศ

ที่มา : https://en.vodhotnews.com/electricity-capacity-to-expand-with-laos-coal-deal/