The OPPORTUNITY : ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในกัมพูชา
http://www.exim.go.th/doc/newsCenter/50383.pdf
ที่มา: ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
28 ธันวาคม 2561
http://www.exim.go.th/doc/newsCenter/50383.pdf
ที่มา: ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
28 ธันวาคม 2561
http://www.exim.go.th/doc/newsCenter/50377.pdf
ที่มา: ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
27 ธันวาคม 2561
http://www.exim.go.th/doc/newsCenter/50368.pdf
ที่มา: ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
24 ธันวาคม 2561
ตลาดออนไลน์ในกัมพูชาถือว่าเติบโตเร็วมาก เพราะมีผู้เข้าถึงอินเตอร์เน็ตมากกว่า 50% ของประเทศ (ประมาณ 8 ล้านคน) มีบัญชี facebook ถึง 7 ล้านคน บัญชี instragram เพียง 660,000 คน ดังนั้นควรวางตำแหน่งของสินค้าให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย โฆษณาส่วนมากจะนิยมเอาดาราที่มีชื่อเสียงมาเป็นพรีเซนเตอร์ นิยมดูสื่อเคลื่อนไหวอย่างวีดีโอมากกว่าภาพนิ่ง การจัดส่งสินค้าควรให้รวดเร็วเพราะคนกัมพูชาไม่ชอบการรอคอย เพราะถ้ารอรับสินค้าเกินกว่าหนึ่งวันจะมีผลต่อการตัดสินใจทันที ทางออกคือจัดส่งด้วยมอเตอร์ไซค์ที่สะดวกและรวดเร็ว ส่วนการชำระเงิน เนื่องจากคนส่วนใหญ่ไม่มีบัญชีธนาคารและมีผู้ใช้บัตรเครดิตเพียง 3% จึงนิยมชำระเป็นเงินสดหรือใช้บริการโอนผ่านหมายเลขโทรศัพท์มือถือแทน ในอนาคตการทำธุรกรรมทางการเงินจะมีการเปลี่ยนไปเพราะคนกัมพูชาเปิดรับเทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลา
ที่มา: http://www.exim.go.th/doc/adn/49815_0.pdf
26 มิถุนายน 2561
งานสัมมนา “Krungsri Business Talk : กัมพูชา VS เวียดนาม ตลาดไหน ใช่เลย!” มีการนำผู้มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจของทั้ง 2 ประเทศมาถ่ายทอดข้อมูลที่สำคัญคือ ประเด็นที่ 1 การเติบโตและสินค้าที่เป็นไปได้ในตลาด กัมพูชาชอบดีทีวีไทยเป็นอย่างมากจึงไม่จำเป็นต้องทำโฆษณาตัวสินค้าไทยเพราะเป็นที่นิยมอยู่แล้ว ส่วนเวียดนาม มี FTA เชื่อมต่อการส่งออกของไทยและนิยมสินค้าอย่างเครื่องสำอางและไอที ประเด็นที่ 2 พฤติกรรมผู้บริโภค กัมพูชาเปิดรับสินค้าทุกอย่าง ไม่สนใจว่าฉลากจะเป็นภาษาไหนแต่ถ้าเป็นภาษาไทยจะยิ่งมีความเชื่อมั่น ส่วนเวียดนามมีรสนิยมในสินค้าที่มีคุณภาพมากขึ้น ชอบผลิตภัณฑ์ที่มีกิมมิคและแปลกใหม่ ประเด็นที่ 3 การจับจ่ายและกฎระเบียบ การเข้าไปทำธุรกิจของทั้ง 2 ประเทศจะคล้ายคลึงกันคือหาคู่ค้าและตัวแทนจำหน่าย ด้านกฎระเบียบของเวียดนามจะมีความอ่อนไหวมากกว่าเพราะเปลี่ยนแปลงบ่อย สิ่งที่นักลงทุนพึงตระหนักคือการติดตามข้อมูลข่าวสาร นโยบายและเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศอยู่ตลอด
ที่มา: https://www.thairath.co.th/content/1258896
19 เมษายน 2561
ปัจจุบันกัมพูชามีวัยแรงงาน 9 ล้านคน จากประชากร 19 ล้านคน อัตราว่างอยู่ที่ 0.4 % ต่ำเป็นอันดับ 2 ของโลก ส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ ก่อสร้าง การท่องเที่ยว และการเกษตร มีกฎหมายแรงงานที่เข้มแข็ง ค่าแรงต่อเดือนอยู่ที่ 170 ดอลล่าร์สหรัฐและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่จบขั้นประถมศึกษาและขาดแคลนแรงงานด้านเทคนิคและวิศวกร จากข้อมูลบริษัทไทยที่เข้าไปลงทุนธุรกิจอาหารและวัสดุก่อสร้างจะนำสินค้ามาขายก่อนแล้วจึงตั้งโรงานเพื่อผลิตและส่งออก และให้คนท้องถิ่นบริหารเอง ทั้งนี้จะส่งบุคลากรไทยเพื่อมาสอนงานและวางระบบองค์กรก่อน ปัญหาที่พบ ขาดทักษะในด้านการปฏิบัติและการทำงานเป็นทีม คิดวิเคราะห์ไม่ได้ ให้ความสำคัญกับวันหยุดและเทศกาลต่างๆ ซึ่งจะไม่นิยมทำงานในวันหยุด และปัญหาคอร์รัปชันสูง ดังนั้นการลงทุนต้องศึกษาและเข้าใจวัฒนธรรมประเพณีและข้อควรปฏิบัติต่างๆ ก่อนการลงทุน
ที่มา: http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/644218
22 มีนาคม 2561
ปัจจุบันการท่องเที่ยวคิดเป็น 15% ของจีดีพีประเทศ นักท่องเที่ยวเพิ่ม 15% ต่อปี และสังเกตได้ว่าชาวต่างชาติผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนนิตยสาร International Living จัดให้อยู่ในอันดับที่ 17 จาก 24 ประเทศที่ติดอันดับประเทศที่น่าไปใช้ชีวิตหลังเกษียณอายุมากที่สุดในโลก จากปัจจัยอย่างค่าครองชีพที่ถูก การเป็นมิตรกับชาวต่างชาติ เช่น สามารถเป็นเจ้าของห้องพักได้ ขอวีซ่าโดยไม่ต้องขอหนังสือรับรองการทำงานแต่ต้องต่อทุกๆ ปี และการก่อการร้ายค่อนข้างต่ำ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการลงทุนอย่างสินค้าอุปโภคบริโภคที่ได้คุณภาพตรงตามความต้องการของกลุ่มผู้ซื้อที่มีความเชื่อมั่นมากกว่าสินค้าท้องถิ่น สถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานสากลสำหรับผู้สูงอายุหรือธุรกิจดูแลผู้สูงอายุที่กัมพูชายังไม่มี และธุรกิจเกี่ยวเนื่องอย่างอุปกรณ์สำหรับใช้ภายในที่พักอาศัย ออกแบบและตกแต่งภายใน
ที่มา: http://www.exim.go.th/doc/adn/48800_0.pdf
25 มิถุนายน 2560
จากการขยายตัวของเศรษฐกิจ 7% ต่อปี ทำให้กัมพูชาเลื่อนสถานะจากประเทศรายได้ต่ำเป็นประเทศรายได้ปานกลางระดับต่ำ ในปี 2559 ดูเหมือนจะมีเสถียรภาพ แต่พบว่าการใช้เงินหลักที่หมุนเวียนในประเทศ 90 – 90% จะเป็นเงินดอลล่าร์สหรัฐ ทีเริ่มใช้มาตั้งแต่ยุคงสิ้นสุดยุคเขมรแดงในปี 2522 ส่งผลให้เงินสกุลท้องถิ่นอย่างเงินเรียล (Riel) ไม่เป็นที่นิยมมากนัก ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือ ดึงเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ รักษาอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับต่ำ ข้อเสียคือรัฐบาลมีเครื่องมือทางการเงินน้อยเมื่อเจอปัจจัยเสี่ยงภายนอก ปัจจุบันพยายามส่งเสริมให้ใช้เงินเรียลมากขึ้น เช่น การจ่ายเงินเดือนของราชการ การให้ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินมียอดสินเชื่อที่เป็นเงินเรียลไม่ต่ำว่า 10% เพื่อปล่อยสินเชื่อเป็นเงินเรียลมากขึ้นและให้มีผลบังคับใช้ภายในสิ้นปี 2562 นี้
ที่มา: http://www.exim.go.th/doc/adn/49815_0.pdf
23 มกราคม 2561
เศรษฐกิจกัมพูชาถือว่าร้อนแรงมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้ โดยโตเฉลี่ย 7% ส่งผลต่อธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ที่ยอดเติบโตพุ่งสูงขึ้นจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นทำให้มีการขยายเมืองสร้างที่อยู่อาศัย ที่สำคัญคือระบบโครงสร้างพื้นฐานโดยรัฐให้เอกชนเข้ามาลงทุนหรือการลงทุนร่วมกันในหลายๆ โครงการ และโครงการใหญ่อย่างการก่อสร้างทางพิเศษทั่วประเทศภายใต้แผน Expressway Master Plan ทั้งนี้ยังอนุญาตให้ต่างชาติถือหุ้นได้ร้อยละ 100 ในบริษัทที่รับงานก่อสร้างในกัมพูชา ในปี 2561 พบว่าในพนมเปญคาดว่าจะมีการก่อสร้างคอนโด 22,366 ยูนิต รวมทั้งศูนย์การค้าและโรงแรมก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งการยายตัวดังกล่าวโอกาสทางธุรกิจของนักลงทุนไทยไม่ว่าจะเป็น การจำหน่ายวัตถุดิบการก่อสร้าง การตกแต่งภายใน เฟอร์นิเจอร์ตกแต่ง การเข้าไปประมูลรับงานเองหรือการรับช่วงต่อล้วนเป็นโอกาสที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
ที่มา: http://www.exim.go.th/doc/newsCenter/48325.pdf
วันที่ 9 มกราคา 2560
การส่งออกสินค้าไปยังกัมพูชาในระยะเวลา 10 ที่ผ่านมา โตเฉลี่ย 12.6% ต่อปี ทว่าตั้งแต่ปี 2554-2559 มีอัตราลดลงเหลือ 2.2% ต่อปี เหตุเพราะการหันมานำเข้าสินค้าขั้นกลางและสินค้าทุนเพื่อสอดรับโครงสร้างเศรษฐกิจและการลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยมีจีนและเวียดนามเป็นคู่แข่งสำคัญโดยมีสัดส่วน 85% และ 50% ของสินค้าทั้งหมด แต่สินค้าอุปโภคบริโภคของไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ดี ปี 2560 คาดว่าการส่งออกจะขยายตัว 6.5% มูลค่าการค้า 4,977 ล้านเหรียญสหรัฐถือว่ายังสามารถรักษาอันดับหนึ่งเอาไว้ได้
ที่มา: https://www.kasikornresearch.com/th/analysis/k-econ/economy/Pages/36551.aspx
21 กันยายน 2560