ธุรกิจเลิกกิจการเกือบ 35,000 ราย ในไตรมาสแรก
จากรายงานของกระทรวงวางแผนและการลงทุน (MPI) เปิดเผยว่าธุรกิจเลิกกิจการเกือบ 35,000 รายที่ตั้งฐานอยู่ในเวียดนาม ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, ศิลปะ, บันเทิง, ท่องเที่ยว, บริการที่พัก, การขนส่งและคลังสินค้า โดยกลุ่มธุรกิจข้างต้นประสบปัญหาอย่างมากและในที่สุดก็ล้มเลิกกิจการ ยิ่งกว่านี้ จำนวนธุรกิจที่ก่อตั้งใหม่ทั้งหมดมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยภาพรวมนั้น เวียดนามมีธุรกิจก่อตั้งใหม่อยู่ที่ 29,700 ราย ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ด้วยมูลค่าจดทะเบียนรวม 350,000 พันล้านด่ง ชี้ให้เห็นว่าจำนวนธุรกิจยังคงเพิ่มขึ้น แต่มูลค่าจดทะเบียนดิ่งลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ที่มา : https://english.vov.vn/economy/q1-sees-nearly-35000-businesses-withdraw-from-market-412291.vov
นครโฮจิมินห์ : ภาคท่องเที่ยวสูญเสียรายได้กว่า 426 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาสแรก
กระทรวงการท่องเที่ยวของนครโฮจิมินห์ คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของเมือง จะสูญเสียรายได้ราว 10 ล้านล้านด่ง (426.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ จากผลกระทบของการระบาดโควิด-19 โดยข้อมูลของสำนักงาน ชี้ให้เห็นว่าเมืองหลวงทางตอนใต้มีจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 1.3 ล้านคน ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ลดลงร้อยละ 42.26 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทางสำนักงานได้เตรียมมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค เพื่อความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสที่ 2 และยังร่วมมือกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อหาแนวทางพัฒนาท่องเที่ยวชุมชนในพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเยือนในนครโฮจิมินห์มากที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีนและสหรัฐอเมริกา เป็นต้น ซึ่งช่วยให้เมืองได้มีรายได้อยู่ที่ 39.8 ล้านล้านด่ง ในช่ว และยังร่วมมือกับสำนักงานวิทยาวกันของปีก่อนในช่วงเวลาดังกล่าว
กระทรวงเสนอให้กลับมาส่งออกข้าว
กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MoIT) เรียกร้องให้รัฐบาลกลับมาดำเนินการส่งออกข้าวอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ต้องจำกัดปริมาณการส่งออกอยู่ที่ 800,000 ตัน ในเดือนเมษายนและพฤษภาคม ทางกระทรวงฯ เสนอให้อนุมัติการส่งออกข้าวได้ แต่ต้องควบคุมเรื่องโควตาต่อเดือนอย่างเข็มงวด หลังจากพิจารณาความมั่งคงทางด้านอาหารแล้ว ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แผนดังกล่าวนั้นเป็นไปตามคำประกาศอย่างเป็นทางการจากกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท เกี่ยวกับปริมาณส่งออกข้าวพันธุ์ฤดูหนาว-ฤดูใบไม้ผลิ อยู่ที่ 3.2 ล้านตัน ซึ่งปริมาณข้างต้นเป็นส่วนที่เหลือจากการบริโภคและสำรองในประเทศแล้ว สำหรับการขนส่งจะเป็นในรูปแบบการค้าผ่านชายแดนระหว่างประเทศ ได้แก่ ทางถนน ทางรถไฟ ทางทะเลและทางอากาศ นอกจากนี้ กระทรวงฯ กำหนดให้ผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุด 20 ราย มาลงนามข้อตกลงกับระบบการจำหน่ายสินค้า เพื่อให้แน่ใจว่าการสำรองอาหารนั้นจะเพียงพอ
ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/trade-ministry-proposes-resuming-rice-exports/171350.vnp
รัฐวิสาหกิจสูญเสียรายได้ 3.7 ล้านล้านด่ง ในไตรมาสแรก จากโควิด-19 ระบาด
รัฐวิสาหกิจ 9 กลุ่ม และบริษัท ภายใต้คณะกรรมการบริหารเงินทุนของรัฐ (CMSC) มีผลประกอบการขาดทุนมากกว่า 3.7 ล้านล้านด่ง (160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในไตรมาสแรกของปีนี้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามรายงานล่าสุดของ CMSC ถูกส่งไปยังนายกฯ เหงียนซวนฟุก ระบุว่ารายได้รวมของรัฐวิสาหกิจ 19 แห่ง และบริษัท ลดลงเหลือประมาณ 27.3 ล้านล้านด่ง ในไตรมาสแรกเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งหากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ยังคงต่อเนื่องและราคาน้ำมันยังไม่ฟื้นตัว จะส่งผลให้รายได้รวมในปี 2563 แตะระดับ 270 ล้านล้านด่ง ต่ำกว่าที่ตั้งเป้าไว้ทั้งปี ยิ่งไปกว่านั้น กลุ่มรัฐวิสาหกิจ 8 แห่งจากทั้งหมด จะสูญเสียรายได้มากกว่า 26.3 ล้านล้านด่ง และทำให้งบประมาณของรัฐต่ำกว่าที่ตั้งเป้าไว้ 32.8 ล้านล้านด่ง สำหรับทางบริษัทเวียดนามแอร์ไลน์นั้น หากการแพร่ระบาดยังคงดำเนินต่อไปจนถึงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จะสูญเสียรายได้ประมาณ 72.4 ล้านล้านด่ง รวมถึงบริษัทได้ระงับเส้นทางการบินระหว่างประเทศทั้งหมดแล้วและเน้นให้บริการเส้นทางการบินในประเทศเท่านั้น ในขณะเดียวกัน องค์กรการทางพิเศษแห่งเวียดนาม คาดว่าจะสูญเสียรายได้เหลือ 15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาสแรก จากคนเดินทางน้อยลง ประกอบกับบริษัท PVN ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 และราคาน้ำมันดิ่งลง
GRDP นครโฮจิมินห์ คาดเศรษฐกิจโต 14.26 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาสแรก
ตามรายงานของสำนักงานสถิตินครโฮจิมินห์ เปิดเผยว่าผลผลิตมวลรวมในประเทศของนครโฮจิมินห์ (GRDP) ในไตรมาสแรกของปี 2563 อยู่ที่ 335.6 ล้านล้านด่ง (14.26 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.42 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หากจำแนกสาขาเศรษฐกิจ พบว่าภาคเกษตร ป่าไม้และประมง ขยายตัวร้อยละ 4.06, ภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้าง ขยายตัวร้อยละ 3.13 ในอีกด้านหนึ่ง ภาคการค้าและบริการ ลดลงร้อยละ 1.23 เนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งอัตราการเติบโตทุกภาคส่วนและสาขาเศรษฐกิจรวม หดตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเฉพาะภาคการค้าและบริการที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ทั้งนี้ สาขา 5 ใน 9 อุตสาหกรรมสำคัญ มีการขยายตัวในทิศทางลบ ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ (12.85%), การศึกษาและการฝึกฝน (26.57%) และบริการที่พักและจัดงานเลี้ยง (31.69%)
ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/ho-chi-minh-citys-grdp-estimated-at-1426-billion-usd-in-q1/171241.vnp
“ผู้ผลิตเมลามีนไทย” ขยายการลงทุนในเวียดนาม
ผู้ผลิตเมลามีนชั้นนำไทย “บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน)” กำลังเร่งผลักดันการลงทุนในเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่มีโอกาสในการเติบโตค่อนข้างสูง ตามรายงานของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ระบุว่าประธานกรรมการ คุณสนั่น อังอุบลกุล จะดำเนินการลงทุน 450 ล้านบาท (13.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปีนี้ เพื่อขยายธุรกิจไปยังเวียดนาม โดยจากเงินทุนทั้งหมดนั้น มูลค่า 300 ล้านบาท จะนำไปติดตั้งเครื่องจักรใหม่ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต PET preform และอีก 150 ล้านบาท ที่จะนำไปก่อสร้างโรงงานเมลามีนใหม่ในเมืองโฮจิมินห์ รวมถึงติดตั้งเครื่องจักรใหม่ในโรงงานแห่งนี้อีกด้วย ทั้งนี้ การก่อสร้างโรงงานเมลามีน จะเริ่มภายในอีก 1-2 เดือน และดำเนินงานในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า ซึ่งตลาดปัจจุบันยังคงเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 คาดว่ายอดขายจะอยู่ที่ 8.62 พันล้านบาท ในปีนี้ ลดลงร้อยละ 2.6 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ถึงแม้ว่ามีความต้องการอาหารและเครื่องดื่มผ่านช่องทางการจัดส่งอย่างมาก และธุรกิจคาดว่ายอดขายในไตรมาสแรก จะอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาท ต่ำกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้า แต่ที่สำคัญที่สุด คือ แนวโน้มค่าเงินบาทอ่อนค่า จากอัตราของปีที่แล้ว
ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/thai-melamine-maker-ramps-up-investment-in-vietnam/171250.vnp