GRDP นครโฮจิมินห์ คาดเศรษฐกิจโต 14.26 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาสแรก

ตามรายงานของสำนักงานสถิตินครโฮจิมินห์ เปิดเผยว่าผลผลิตมวลรวมในประเทศของนครโฮจิมินห์ (GRDP) ในไตรมาสแรกของปี 2563 อยู่ที่ 335.6 ล้านล้านด่ง (14.26 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.42 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หากจำแนกสาขาเศรษฐกิจ พบว่าภาคเกษตร ป่าไม้และประมง ขยายตัวร้อยละ 4.06, ภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้าง ขยายตัวร้อยละ 3.13 ในอีกด้านหนึ่ง ภาคการค้าและบริการ ลดลงร้อยละ 1.23 เนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งอัตราการเติบโตทุกภาคส่วนและสาขาเศรษฐกิจรวม หดตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเฉพาะภาคการค้าและบริการที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ทั้งนี้ สาขา 5 ใน 9 อุตสาหกรรมสำคัญ มีการขยายตัวในทิศทางลบ ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ (12.85%), การศึกษาและการฝึกฝน (26.57%) และบริการที่พักและจัดงานเลี้ยง (31.69%)

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/ho-chi-minh-citys-grdp-estimated-at-1426-billion-usd-in-q1/171241.vnp

“ผู้ผลิตเมลามีนไทย” ขยายการลงทุนในเวียดนาม

ผู้ผลิตเมลามีนชั้นนำไทย “บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน)” กำลังเร่งผลักดันการลงทุนในเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่มีโอกาสในการเติบโตค่อนข้างสูง ตามรายงานของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ระบุว่าประธานกรรมการ คุณสนั่น อังอุบลกุล จะดำเนินการลงทุน 450 ล้านบาท (13.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปีนี้ เพื่อขยายธุรกิจไปยังเวียดนาม โดยจากเงินทุนทั้งหมดนั้น มูลค่า 300 ล้านบาท จะนำไปติดตั้งเครื่องจักรใหม่ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต PET preform และอีก 150 ล้านบาท ที่จะนำไปก่อสร้างโรงงานเมลามีนใหม่ในเมืองโฮจิมินห์ รวมถึงติดตั้งเครื่องจักรใหม่ในโรงงานแห่งนี้อีกด้วย ทั้งนี้ การก่อสร้างโรงงานเมลามีน จะเริ่มภายในอีก 1-2 เดือน และดำเนินงานในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า ซึ่งตลาดปัจจุบันยังคงเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 คาดว่ายอดขายจะอยู่ที่ 8.62 พันล้านบาท ในปีนี้ ลดลงร้อยละ 2.6 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ถึงแม้ว่ามีความต้องการอาหารและเครื่องดื่มผ่านช่องทางการจัดส่งอย่างมาก และธุรกิจคาดว่ายอดขายในไตรมาสแรก จะอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาท ต่ำกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้า แต่ที่สำคัญที่สุด คือ แนวโน้มค่าเงินบาทอ่อนค่า จากอัตราของปีที่แล้ว

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/thai-melamine-maker-ramps-up-investment-in-vietnam/171250.vnp

นครโฮจิมินห์ดึงดูดการลงทุน FDI ลดลง 33% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในช่วงไตรมาสแรก

จากข้อมูลของสำนักงานสถิตินครโฮจิมินห์ ระบุว่านครโฮจิมินห์ดึงดูดเม็ดเงินทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในวันที่ 20 มีนาคม ลดลงร้อยละ 33 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีจำนวน 290 โครงการใหม่ ด้วยเงินทุนจดทะเบียน 142.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ จำนวนโครงการใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมูลค่ารวมกันลดลงร้อยละ 50.7 สำหรับโครงการที่มีอยู่ มีมูลค่า 80.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมูลค่าจากการซื้อหุ้น 829.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ การลงทุนเชิงพาณิชย์ใหม่ คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 60 ของเงินทุนใหม่ทั้งหมดในโครงการใหม่ นอกจากนี้ จาก 37 ประเทศที่เข้ามาลงทุนในนครโฮจิมินห์ อาทิ สิงคโปร์ ฮ่องกงและญี่ปุ่น เป็นต้น ในด้านการลงทุนในประเทศนั้น นครโฮจิมินห์มีจำนวนธุรกิจก่อตั้งใหม่ 8,100 ราย ด้วยเงินทุนจดทะเบียน 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 30.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ที่มา :https://vietnamnews.vn/economy/674564/fdi-into-hcm-city-in-q1-drops-33-year-on-year.html

ภาคเกษตรเวียดนาม เกินดุลการค้าราว 49% ในช่วงไตรมาสแรก

จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท เปิดเผยว่าภาคเกษตรเวียดนาม มียอดเกินดุลการค้าราว 2.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 เพิ่มขึ้นร้อยละ 48.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการส่งออกสินค้าพืชสวนสำคัญอยู่ที่ 4.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 3.1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีแนวโน้มที่เหมือนกับสินค้าส่งออกป่าไม้ ประมงและปศุสัตว์ ด้วยมูลค่า 2.8, 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 109 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 16.13, 14 และ 21.8 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม มีสินค้าหลายรายการยังคงเติบโต ได้แก่ ข้าว สำปะหลัง ไม้และไม้แปรรูป เป็นต้น ในขณะเดียวกัน การส่งออกปลาสวายหดตัวอย่างมาก ลดลงร้อยละ 61.5 ด้วยมูลค่า 238 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมายาง (26.1%), ชา (19%) และพริกไทย (13.9%) เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ตลาดสหรัฐฯ แทนที่ตลาดจีน ในฐานะผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ด้วยมูลค่าการนำเข้าสินค้าเกษตรอยู่ที่ 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 23.2 ของยอดส่งออกรวม รองลงมาจีน (21.4%), สหภาพยุโรป (13.1%), ญี่ปุ่น (8.9%) และอาเซียน (16.4%)

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/qi-agriculture-posts-nearly-49-growth-in-trade-surplus-412069.vov

“ฮอนด้าเวียดนาม” ระงับการผลิตชั่วคราว เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ทางฮอนด้าเวียดนาม (HVN) เป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ ติดอันดับที่ 4 ในเวียดนาม ซึ่งจากความกังวลต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ระงับการผลิตชั่วคราวและการประกอบรถยนต์และรถจักรยานยนต์ โดยการระงับการผลิตข้างต้นนั้น จะดำเนินการเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-15 เม.ย. ทั้งนี้ หัวหน้าฝ่ายต่างประเทศของฮอนด้าในเวียดนาม ระบุว่าตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับมาตรการป้องกันโควิด-19 และการให้ความสำคัญด้านสุขภาพแก่พนักงานของบริษัท รวมถึงฮอนด้าได้ตัดสินใจหยุดการผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ชั่วคราว โดยก่อนหน้านั้น ทาง Ford Vietnam, Toyota Motor Vietnam และ TC Motor ได้ระงับกิจกรรมการผลิตแล้ว เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/honda-vietnam-suspends-production-due-to-covid19/171052.vnp

เวียดนามนำเข้ารถยนต์ลดลง 40% ในช่วง 2 เดือนแรก

จากข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MoIT) เปิดเผยว่าเวียดนามนำเข้ารถยนต์ 14,523 คัน ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2563 ลดลงร้อยละ 43.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งจำนวนรถยนต์ต่ำกว่า 9 ที่นั่ง และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล มีอยู่ 10,768 และ 3,425 คัน ลดลงร้อยละ 39.6 และ 53.3 ตามลำดับ ทั้งนี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ เวียดนามซื้อรถยนต์ที่ประกอบจาก 2 ตลาดสำคัญ ได้แก่ ไทย (6,271 คัน) และอินโดนีเซีย (3,416 คัน) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 94.3 ของการนำเข้ารถยนต์รวม นอกจากนี้ ตามรายงานล่าสุดของกระทรวงฯ พบว่าเวียดนามนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ ด้วยมูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ โดยส่วนใหญ่นำเข้าจากเกาหลีใต้ มูลค่า 1.14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (28.5%) รองลงมาญี่ปุ่น 720 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (18.04%) และจีน 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (18%) ในขณะเดียวกัน การลดลงของสินค้าคงคลังขนาดใหญ่ ในช่วงที่เหลือของปี 2562 ซึ่งผู้นำเข้าหลายรายยังคงต้องรอคำตัดสินใจจากรัฐบาล เพื่อที่จะลดหรือยกเว้นภาษีนำเข้าชิ้นรถยนต์ จากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-car-imports-plummet-over-40-percent-in-first-two-months/171048.vnp

เวียดนามลงทุน 9.5 ล้านเหรียญสหรัฐในกัมพูชา

กัมพูชาถูกบันทึกให้เป็นผู้ได้รับการลงทุนรายใหญ่อันดับสามของเวียดนามในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้จากรายงานของสำนักงานการลงทุนต่างประเทศภายใต้กระทรวงการวางแผนและการลงทุนในเวียดนาม ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคมเวียดนามลงทุนในต่างประเทศประมาณ 49 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสหรัฐอเมริกาเป็นผู้รับทุนรายใหญ่ที่สุดของเวียดนามโดยคิดเป็นเงินจำนวน 20.1 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 41% ของมูลค่าทั้งหมด สิงคโปร์เข้ามาเป็นอันดับสองโดยได้รับการลงทุนจากเวียดนามคิดเป็นจำนวน 12.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 26% ในขณะที่ประเทศกัมพูชาอยู่ในอันดับที่สามด้วยเงินลงทุนรวม 9.5 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 19.3% โดยการลงทุนของเวียดนามส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในที่พัก อาหาร กิจกรรมทางเทคโนโลยี การแปรรูปและการผลิต แต่ตามรายงานของหอการค้ากัมพูชาการลงทุนของเวียดนามในกัมพูชาเน้นเรื่องการเกษตร ป่าไม้ ประกันภัยและธนาคาร ซึ่ง Vietnam Rubber ที่ดำเนินกิจการโดยรัฐได้ประกาศแล้วว่ากำลังวางแผนที่จะเพิ่มการทำสวนยางจาก 47,000 เป็น 65,000 เฮกตาร์ในปีนี้ นอกจากนี้สมาคมสวนยางพาราเวียดนามประกาศว่า บริษัท ยางเวียดนาม 2 แห่งจะทำการจ้างแรงงานกว่า 105,000 คน ในปีนี้จนถึงปี 2564

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50708029/vietnam-invests-9-5-million-in-cambodia/