พุกามจัดงานวิ่งส่งเสริมการท่องเที่ยว

การวิ่งของเมียนมาจัดขึ้นครั้งแรกจัดขึ้นที่พุกามเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาโดยมีผู้เข้าร่วมจากทั้งในประเทศและต่างประเทศกว่า 300 คนซึ่งประกอบด้วย หน่วยงาน บริษัทต่างๆ และผู้ที่สนใจสุขภาพเข้าร่วมงาน จัดขึ้นโดย China Daily และ RVIPS Publications โดยวิ่งผ่านจุดชมทิวทัศน์และวัฒนธรรมอันงดงามของพุกาม งานนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นการจัดมิตรภาพระหว่างประเทศเพื่อส่งเสริมโครงการ Belt and Road รวมถึงการส่งเสริมสุขภาพและมิตรภาพระหว่างประเทศ จากยอดค่าธรรมเนียมเข้าชมแหล่งมรดกโลกพุกามท ราว 5 จัต (ประมาณ 3,313 ดอลลาร์สหรัฐ) ช่วยส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน กระทรวงโรงแรมและการท่องเที่ยวได้ออกแคมเปญรณรงค์งดใช้พลาสติกในพุกามเพื่อเป็นการพัฒนาประเทศ การจัดงานครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามโดยมีผู้ชมนับร้อยและเมื่อกีฬาวิ่งได้รับความนิยมมากขึ้นทั่วประเทศควรส่งเสริมการเชื่อมสัมพันธ์ วิถีชีวิต และการรักสุขภาพผ่านกิจกรรมนี้

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/bagan-run-promotes-friendship-tourism

จำนวนนักท่องเที่ยวชายแดนเมียวดีเพิ่มขึ้น

นักท่องเที่ยวจากประเทศที่สามกว่า 37,000 คนเดินทางผ่านชายแดนเมียวดีของเมียนมา ใน 11 เดือนของปีนี้เพิ่มขึ้น 23,000 คนเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ปี 61 มีเพียง 14,000 คนที่มาเยือนเมียนมาผ่านทางชายแดนเมียวดีและจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเพิ่มขึ้นในปีนี้ โดยใช้ e-visas เพื่อเริ่มธุรกิจและการท่องเที่ยว ในปีนี้มีนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยจำนวน 5,937 คน มีชาวเมียนมามากกว่า 26,800 คนเดินทางมาไทยด้วยวีซ่าหนังสือและมีเพียง 13,000 คนที่เดินทางกลับ เมียนมาปิดประตูชายแดนเพื่อให้กับนักท่องเที่ยวเมื่อวันที่ 28 ส.ค. 56 และนิยมใช้ e-visas ผ่านระบบออนไลน์

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/number-of-tourist-arrival-via-myawady-border-increases

สปป.ลาว – เวียดนามส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี

สปป.ลาวและเวียดนามได้หารือเกี่ยวกับแผนการความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว มีวัตถุประสงค์เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้นและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรมและท่องเที่ยว ต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยวเวียดนาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และท่องเที่ยวสปป.ลาว กล่าวว่าทั้งสองประเทศมุ่งเน้นที่การแลกเปลี่ยนบทเรียนและข้อมูลในด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ได้ขอให้เวียดนามให้ความช่วยเหลือป่าสงวนแห่งชาติหินหนามหน่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก รวมทั้งการฝึกอบรมในเวียดนามเพื่อยกระดับทักษะของเจ้าหน้าที่สปป.ลาว เพิ่มการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว เรียนรู้บทเรียนโดยใช้เทคโนโลยีและการสื่อสารล่าสุดและความร่วมมือในโครงการก่อสร้างโรงเรียนศิลปะแห่งชาติ ที่ผ่านมาทั้งสองประเทศยังได้แลกเปลี่ยนบทเรียนในด้านต่างๆ อีกทั้งได้มีการวางแผนที่จะทำโปรโมชั่นการท่องเที่ยวร่วมกัน ปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองและตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานแหล่งท่องเที่ยวเพื่อต้อนรับผู้มาเยือน ที่มา:http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos_Vietnam_265.php

การประชุมด้านการท่องเที่ยวจากทั่วโลกจะจัดขึ้นในกรุงพนมเปญ

MICE Biz Fair 2020 จะเริ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าในกรุงพนมเปญ ซึ่ง MICE หมายถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจัดประชุมบริษัทข้ามชาติ การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การประชุมนานาชาติ และการจัดนิทรรศการ โดย The Tourism และ MICE Biz Fair 2020 จัดโดย B2B Park Mall และได้รับการรับรองจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกระทรวงพาณิชย์ของกัมพูชา ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของผู้ให้บริการในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้พวกเขาได้พบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ และที่สำคัญไปกว่านั้นคือการนำผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้านการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมมารวมกันเพื่อระดมสมองเกี่ยวกับอุตสาหกรรม โดยงานจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 29 กุมภาพันธ์ถึง 3 มีนาคมที่ B2B Park Mall บนถนนฮานอยของกรุงพนมเปญ ซึ่งถือเป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการในท้องถิ่นเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการระหว่างประเทศจากทั่วทุกมุมโลก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50666348/global-tourism-conferences-to-be-held-in-phnom-penh-in-february/

รายได้จากผู้เข้าชมนครวัดในกัมพูชาลดลงอย่างต่อเนื่อง

ผู้เยี่ยมชมอุทยานโบราณคดีอังกอร์ลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 11 เดือนแรกของปี ซึ่งเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของกัมพูชา โดยจากรายงานล่าสุดของ Angkor Enterprise ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤศจิกายนรายได้จากการขายบัตรผ่านประตูลดลง 14% (1.99 ล้านเหรียญสหรัฐ) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งในเดือนพฤศจิกายนมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพียง 193,260 คน ที่ซื้อบัตรผ่านประตูซึ่งน้อยกว่าในปี 2561 อยู่ 17% รายได้อยู่ที่ 8.8 ล้านเหรียญสหรัฐลดลง 16% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว โดยกระทรวงการท่องเที่ยวกล่าวว่ามีสาเหตุมาจากการลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมายังจังหวัดเสียมเรียบที่เป็นที่ตั้งของวัด ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวจีนอาจลดลงในเสียมเรียบแต่เพิ่มขึ้นในพื้นที่อื่นๆ ของประเทศ โดยเฉพาะสีหนุวิลล์กล่าวโดยโฆษกกระทรวงการท่องเที่ยว ซึ่งกระทรวงยังคงทำงานเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องโดยร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนเพื่อส่งเสริมและเสริมสร้างคุณภาพการบริการท่องเที่ยว ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวระบุว่านักท่องเที่ยวต่างชาติ 4.8 ล้านคนเดินทางไปกัมพูชาในช่วงเก้าเดือนแรกของปี โดยเป็นการปรับขึ้น 10% คิดเป็นคนจีน 38% (1.8 ล้านคน)

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50666505/revenue-visitors-at-angkor-temples-down-again/

กัมพูชาและประเทศแถบลุ่มแม่น้ำโขงร่วมมือด้านการท่องเที่ยว

ประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) ได้ตกลงที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวรวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน, เทคนิคการตลาดและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างกัน โดยในระหว่างการประชุมคณะทำงานด้านการท่องเที่ยว GMS ครั้งที่ 44 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองเสียมราฐ โดยทั้งหกประเทศที่จัดตั้ง GMS ได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้นในแต่ละประเทศ ซึ่งตกลงที่จะปฏิบัติตามกลยุทธ์ (แผนปฏิบัติการร่วม) ในปี 2563-2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นๆ ในกลุ่ม GMS รวมถึงจากประเทศนอกภูมิภาค ซึ่งเป็นแผนที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการลงทุน ความร่วมมือด้านการตลาดและการพัฒนาทุนมนุษย์ของภาค โดยโฆษกกระทรวงการท่องเที่ยว Chuk Chumno กล่าวว่าข้อตกลงนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างประเทศในกลุ่ม GMS ซึ่งจากความร่วมมือภายใน GMS กัมพูชาได้รับการสนับสนุนทางการเงินเพื่อสร้างท่าเรือท่องเที่ยวในกำปอต รวมถึงถนนเลียบชายฝั่งที่เชื่อมต่อระหว่างเวียดนามกัมพูชาและไทย และเส้นทางรถไฟจากประเทศจีน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50665908/mekong-countries-agree-to-strengthen-tourism-cooperation/

กรมพัฒน์ฯ ชี้ธุรกิจ “ซักอบรีด” ยังดาวรุ่ง ลงทุนไม่ผิดหวัง รับเมืองโต-คนชอบสบาย-นักท่องเที่ยวพุ่ง

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าชี้ช่องรวย แนะลงทุนทำธุรกิจ “ร้านซักรีด” รองรับการเติบโตของเมือง คนรุ่นใหม่ที่ชอบความสบาย และจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ชี้ควรลงทุนในคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า ที่พักอาศัยย่านชุมชนเมือง ห้าง สถานศึกษา ที่พักของชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยวแบบแบ็กแพกเกอร์ จากการสำรวจแนวโน้มการลงทุนทำธุรกิจ โดยพบว่า ธุรกิจ “ร้านซักอบรีด” และ “ธุรกิจร้านซักผ้าหยอดเหรียญ” เป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และสร้างโอกาสในการทำธุรกิจให้กับผู้ที่สนใจจะมีธุรกิจเป็นของตนเอง เนื่องจากปัจจุบัน การเติบโตของสังคมเมือง ที่ต้องแข่งขันกับเวลา คนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายในการดำรงชีวิต และการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยที่มีจำนวนมากขึ้น สำหรับการลงทุน ควรจะพิจารณาลงทุนทำธุรกิจตามคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล แหล่งที่อยู่อาศัยในย่านชุมชนเมืองใหญ่และแหล่งท่องเที่ยว ใกล้ห้างสรรพสินค้า หอพักนักศึกษา และโรงแรมที่พัก ที่ชาวต่างชาติหรือนักท่องเที่ยวที่เดินทางแบบแบ็กแพกเกอร์เข้ามาพักอาศัย ซึ่งจะทำให้ธุรกิจมีโอกาสเติบโต เพราะจะมีผู้เข้ามาใช้บริการมาก ส่วนรูปแบบการลงทุน สามารถลงทุนเปิดร้านซักอบรีด ซึ่งเป็นการลงทุนโดยบุคคลธรรมดา ใช้เครื่องซักผ้าแบบบ้าน และให้บริการครบวงจร หรือลงทุนแบบร้านซักผ้าหยอดเหรียญที่มีรูปแบบธุรกิจที่หลากหลาย ทั้งลงทุนแบบบุคคลธรรมดา นิติบุคคล และแฟรนไซส์ หรือร้านซักอบรีดผ่านตู้ล็อกเกอร์ ที่มีการนำระบบเทคโนโลยีมาใช้ โดยผู้ที่ต้องการซักผ้า สามารถนำผ้าไปใส่ไว้ที่ตู้ล็อกเกอร์ที่ใกล้ที่สุด และผู้ให้บริการจะนำผ้าไปซัก แล้วนำมาใส่คืนไว้ที่ตู้ โดยผู้ใช้บริการสามารถตรวจเช็กได้ว่าตู้อยู่ตรงไหนบ้าง เมื่อซักเสร็จแล้ว ก็มีระบบแจ้งเตือนให้ไปรับผ้า และปัจจุบัน มีการขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ ผู้สนใจสามารถซื้อไปลงทุนได้ ทั้งนี้ในการลงทุนทำธุรกิจ มีปัจจัยที่ต้องพิจารณา คือ ต้องตรวจสอบทำเลที่ตั้ง โดยต้องวิเคราะห์สภาพการแข่งขันในพื้นที่ และพิจารณารูปแบบธุรกิจร้านซักผ้าที่ต้องการลงทุน และเลือกลงทุนในแบบที่เหมาะกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งต้องคำนึงว่าการลงทุนในช่วงเริ่มต้น ค่อนข้างใช้ทุนสูง เนื่องจากต้องซื้อเครื่องซักผ้า การตกแต่งร้าน แต่จะมีต้นทุนผันแปรที่ไม่สูงมาก เพราะส่วนใหญ่จะเป็นค่าทำความสะอาด ค่าบำรุงรักษา ค่าน้ำยาทำความสะอาด แต่หากต้องการลงทุนในรูปแบบแฟรนไชส์ ต้องศึกษาเงื่อนไข สัญญา รูปแบบการสนับสนุนจากเจ้าของแฟรนไชส์อย่างละเอียดด้วย

ที่มา: https://mgronline.com/business/detail/9620000115121

แอร์เอเซียมีแนวโน้มขยายตัวในกัมพูชา

แอร์เอเชียกำลังมองหาความเป็นไปได้ที่จะขยายเข้าไปในกัมพูชาผ่านการเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทในท้องถิ่น ซึ่งรายงานของ Nikkei Asian Review รายงานว่ากัมพูชาเป็นหนึ่งในสามประเทศในเอเชียที่แอร์เอเซียมองหาพันธมิตรในท้องถิ่น โดยแอร์เอเชียมีเที่ยวบินไปยังกัมพูชาแล้วแต่ในปัจจุบันยังไม่มีเครือข่ายในท้องถิ่นต่างจากอินโดนีเซีย ไทยและประเทศอื่นๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกัมพูชาในฐานะที่เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวทำให้ผู้ให้บริการจากต่างประเทศจำนวนมากมองไปที่การขยายตัวภายในประเทศ โดยปัจจุบันมี บริษัท สายการบินกว่า 49 แห่ง ที่ให้บริการในตลาดการบินของกัมพูชา ในขณะที่สายการบินเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นสายการบินต่างประเทศ ซึ่งกัมพูชาเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเป็นอันดับสามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รองจากเวียดนามและอินโดนีเซีย โดยในปี 2561 กัมพูชาได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ 6.2 ล้านคน โดยคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 6.7 ล้านคน ซึ่งกัมพูชาผลักดันให้มีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศมากขึ้น โดยกัมพูชาตั้งเป้าหมายว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 12 ล้านคนภายในปี 2568

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50663646/malaysias-airasia-looks-to-expand-into-the-kingdom/

ธนาคารเพื่อการท่องเที่ยวเมียนมาปล่อยสินเชื่อให้สมาคมการท่องเที่ยว

ธนาคารการท่องเที่ยวแห่งเมียนมา (MTB) ประกาศว่าจะเริ่มปล่อยกู้แก่สมาชิกสมาคมการท่องเที่ยวแห่งสหภาพเมียนมา (UMTA) ในเดือนนี้ MTB ประกาศสินเชื่อ SMEs สำหรับสมาชิก UMTA ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทท่องเที่ยวและการท่องเที่ยว อัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อแบบไม่มีหลักประกันกำหนดไว้ที่ 13% ต่อปีและผู้สมัครจะต้องทำประกันสำหรับสินเชื่อ (CGI) จากเมียนมาประกันภัย จำนวนเงินสูงสุดของสินเชื่ออยู่ที่ 20 ล้านจัต ด้วยเป็นธนาคารที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวจึงมุ่งปล่อยสินเชื่อให้กับภาคนี้ แต่ยังวางแผนที่จะให้การสนับสนุนแก่ภาคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องและธุรกิจอื่น ๆ ในมุมมองนักธุรกิจคิดว่าอัตราเงินกู้สูงเกินไป แต่ก็ประสบปัญหาในการขอสินเชื่อกับธนาคารอื่น จากสถิติของกระทรวงโรงแรมและการท่องเที่ยวมี บริษัทท่องเที่ยวและการท่องเที่ยวมากกว่า 2,500 แห่ง แต่ส่วนใหญ่เป็น SMEs ในขณะเดียวกัน UMTA มีสมาชิกประมาณ 1,000 คน MTB เป็นหนึ่งในห้าธนาคารเฉพาะกิจที่ได้รับอนุญาตจากธนาคารกลางของเมียนมา (CBM) ในปี 60 ก่อตั้งขึ้นโดย บริษัท การท่องเที่ยวสาธารณะ วัตถุประสงค์เพื่อปล่อยสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยว

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/bank-provide-tourism-association-members-no-collateral-loans.html

เวียงจันทน์มั่นใจจะมีนักท่องเที่ยวลาว-จีน มาเที่ยวในปี 62 ถึง 2 ล้านคน

เจ้าหน้าที่เวียงจันทน์มีความมั่นใจว่าจะมีนักท่องเที่ยวจำนวน 2 ล้านคน สำหรับการเยี่ยมชมสปป.ลาว – ​​จีนในปี 62 ซึ่ง ผอ.ฝ่ายข้อมูลสารสนเทศวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของนครหลวงเวียงจันทน์กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ของเมืองร่วมมือกับภาคเอกชนพยายามดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น โดยการสร้างและปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยวในเวียงจันทร์ เช่น การซ่อมแซมพิพิธภัณฑ์หอพระเกตุและเจดีย์หลวง ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเวียงจันทร์ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้มีผู้เข้าชมมากกว่า 1.5 ล้านคน โดยปัจจัยที่ทำให้เวียงจันทร์มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่าเดิมนั้น นอกจากการร่วมมือกันในการสร้างและปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว อีกสาเหตุที่สำคัญคือเป็นจุดหมายปลายทางที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดในประเทศ และเป็นศูนย์กลางสำหรับการเดินทางทั่วประเทศและยังต่อไปประเทศอื่น ๆ เข้าถึงตัวเมืองได้ง่ายจากทั้งทางอากาศหรือทางบก ก็ล้วนแล้วแต่สะดวกสบายต่อนักท่องเที่ยว จึงทำให้เวียงจันทร์เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต  ทั้งนี้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวสปป.ลาวในช่วง 6 เดือนแรกมากถึง 2.2 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีที่แล้วถึง 5 %

ที่มา: http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Vientiane_on_256.php