ราคาทองคำเวียดนาม พุ่งสูงขึ้นสูงที่สุดในรอบ 6 ปี

ในวันที่ 6 มกราคม 2563 ราคาทองคำเวียดนามปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสูงสุดในรอบ 6 ปี เป็นผลจากสถานการณ์ตึงเครียดทางทหารระหว่างสหรัฐฯและอิหร่านที่เพิ่มสูงขึ้น โดยบริษัท DOJI เป็นผู้ผลิตเครื่องประดับรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ราคาทองคำแตะที่ระดับ 44.44 ล้านด่อง (1,924 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อตำลึง (1.2 ออนซ์) เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 3.78 เมื่อเทียบกับวันศุกร์ โดยนับว่าเป็นครั้งแรกที่ราคาทองคำเวียดนามปรับตัวแตะระดับที่ 1,922 ดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ราคาทองคำทั่วโลกปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ 1,579 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 1.8 ซึ่งปัจจัยดังกล่าวมาจากสถานการณ์ที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สั่งให้มีการสังหารนายพลอิหร่าน รวมไปถึงความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnam-gold-price-hits-6year-high-408485.vov

Hoa Phat Group มียอดขายพุ่งสูงขึ้น 16.8%

บริษัท Hoa Phat Group เป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ได้เปิดเผยว่าในปี 2562 บริษัทมีการจัดเก็บเหล็กก่อสร้างคุณภาพสูงมากกว่า 2.77 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.8 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งจากจำนวนทั้งหมดนั้น มีการส่งออกเหล็กก่อสร้างไปยังต่างประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย กัมพูชา ญี่ปุ่น มาเลเซีย ไต้หวัน เกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น คิดเป็นปริมาณราว 265,000 ตัน ทั้งนี้ ทางบริษัทได้ตั้งเป้าปริมาณการผลิตเหล็กก่อสร้างในปี 2563 อยู่ที่ 3.5-3.6 ล้านตัน โดยจะปรับปรุงการบริการโลจิสติกส์และส่งเสริมโปรแกรมทางการตลาด ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจเป็นที่นิยมในเขตตะวันออกเฉียงใต้และสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง นอกจากนี้ ธุรกิจได้ก่อสร้างทางเรือ Hoa Phat Dung Quat ซึ่งจะช่วยให้อำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศได้มากยิ่งขึ้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/hoa-phat-construction-steel-sales-post-168-percent-hike-408474.vov

ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์เวียดนาม เผชิญกับอุปสรรคจากการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น

จากรายงานของสมาคมผู้ผลิตรถจักรยานยนต์เวียดนาม (VAMM) เปิดเผยว่าในปี 2562 ตัวเลขยอดขายรถจักรยานยนต์ถดถอยลง ถึงแม้ว่าอุตสาหกรรมคาดว่ายอดขายจะเพิ่มสูงขึ้น โดยในเดือนตุลาคมและเดือนพฤศจิกายน มียอดขายขายรถจักรยานยนต์เพียง 227,000 คัน และ 230,000 คัน ลดลงร้อยละ 6.5 และ 2.2 ตามลำดับ เมื่อเทียบเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2561 ธุรกิจเผชิญกับอุปสรรคอย่างมากในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 62 ถึงแม้ว่าจะพยายามกระตุ้นยอดขายก็ตาม ซึ่งแบรนด์ฮอนด้า เป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม มียอดขายรถจักรยานยนต์กว่า 2.6 ล้านคัน ในปี 62 รองลงมาเป็นแบรนด์จากญี่ปุ่น ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญมองว่าอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์มีแนวโน้มถดถอยลง เป็นผลจากรายได้ของประชากรเพิ่มสูงขึ้น และการหันมาซื้อรถยนต์ที่เพิ่มสูงขึ้น รวมไปถึงมีความต้องการซื้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่สูงขึ้นและจำนวนการใช้รถจักรยานยนต์ที่ลดลง โดยเฉพาะในกลุ่มเมืองใหญ่ ด้วยเหตุนี้ ทำให้ความต้องการรถจักรยานยนต์ดิ่งลงอย่างมาก

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/570719/motorcycle-makers-running-out-of-gas-in-face-of-increased-competition.html

เงินโบนัสพิเศษเฉลี่ยของคนเวียดนาม 288 ดอลลาร์สหรัฐ ในปีนี้

จากรายงานของกระทรวงแรงงานเวียดนามเกี่ยวกับผลการสำรวจธุรกิจเวียดนามกว่า 25,000 แห่งและจำนวนแรงงาน 3.15 ล้านคนที่อยู่ในเขตเมือง 40 เขต เปิดเผยว่าบริษัทเวียดนามจะจ่ายเงินโบนัสพิเศษ (Tet Bonus) เฉลี่ยอยู่ที่ 6.71 ล้านดอง (288 ดอลลาร์สหรัฐ) ในปีนี้ เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 7.1 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งบริษัทที่รัฐฯเป็นเจ้าของ มีการจ่ายเงินโบนัสเฉลี่ยอยู่ที่ 264 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมูลค่าเท่ากับปีที่แล้ว หากจำแนกประเภทธุรกิจ พบว่าผู้ประกอบการเอกชนและธุรกิจต่างประเทศจ่ายเงินโบนัส 270 ดอลลาร์สหรัฐ และ 298 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 และ 11.1 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทั้งนี้ บริษัทเวียดนามส่วนใหญ่ร้อยละ 85.6 จ่ายเงินโบนัสแก่พนักงานในช่วงปีใหม่ คิดเป็นเงินโบนัสเฉลี่ยราว 40 ดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/companies/average-tet-bonus-is-288-this-year-4037642.html

สปป.ลาว-เวียดนามลงนามความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ระหว่างประเทศ

ระหว่างวันที่ 2-4 มกราคม 63 นายกรัฐมนตรีสปป.ลาวและนายกรัฐมนตรี​เวียดนามมีการลงนามสนธิสัญญาความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยในหัวข้อที่มีการทำสนธิสัญญากันมีเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกันคือเพื่อครอบคลุมผลประโยชน์ของทั้ง 2 ประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศโดยมีการลงนามในสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน สนธิสัญญาการพัฒนาโครงการไฟฟ้าพลังน้ำในสปป.ลาว สนธิสัญญาด้านการค้าเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนรวมทั้งยังมีส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อีกด้วย ที่ผ่านมาเวียดนามลงทุนในโครงการในสปป.ลาว 413 โครงการมูลค่ารวม 4.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ตั้งแต่ปี59 ถึงปัจจุบันเวียดนามให้เงินช่วยเหลือแก่สปป.ลาวเป็นจำนวน 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อช่วยเหลือในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ดังนั้นสนธิสัญญาจะเป็นข้อตกลงที่จะช่วยยกระดับมิตรภาพที่ดีและความร่วมมือที่ครอบคลุมผลประโยชน์ระหว่างประเทศทั้งความมั่นคงและเศรษฐกิจสปป.ลาว

ที่มา http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Lao_vietnam_3.php

เวียดนามจะซื้อพลังงาน 1.5 พันล้าน kWh ต่อปีจากสปป.ลาว

Vietnam Electricity (EVN) จะซื้อไฟฟ้าจากสปป.ลาวประมาณ 1.5 พันล้าน kWh ต่อปีเป็นระยะเวลา 2 ปี เริ่มในปี 64 ภายใต้สัญญาที่ลงนาม Vietnam Electricity (EVN) จะซื้อไฟฟ้ามากกว่า 596 ล้าน kWh ต่อปีจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำสองแห่งของกลุ่ม  Phongsubthavy และในปี 65 จะซื้อไฟฟ้า 632 ล้าน kWh จากโรงงานสองแห่งที่อยู่ในกลุ่ม Chealun Sekong อีกทั้งในปี 64 จะเริ่มซื้อไฟฟ้า 263 ล้าน kWh ต่อปีจากบริษัทอื่น การนำเข้าได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลเวียดนามเพื่อลดปัญหาการขาดแคลนพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าประมาณการในปี 64 การขาดแคลน 3.7 พันล้าน kWh และเกือบ 10 พันล้าน kWh ในปีต่อไป ในปี 66 คาดว่าปัญหาการขาดแคลนจะอยู่ที่ประมาณ 15 พันล้าน kWh จากนั้นจะลดลง เนื่องจากการขาดแคลนคาดว่าจะลดลงถึง 7 พันล้าน kWh และ 3.5 พันล้าน kWh ในปี 67 และ 68 ตามลำดับ กระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวว่าสามารถอนุรักษ์กระแสไฟฟ้าได้ไม่เกิน 5-8% และทางออกเดียวคือการนำเข้ามากขึ้นจากสปป.ลาวและจีน แต่การซื้อจากประเทศเพื่อนบ้านเป็นเพียงวิธีแก้ปัญหาด้วยคลื่นความถี่และในระยะยาวมีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มความเร็วในการทำงานในโครงการผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/industries/vietnam-to-buy-1-5-billion-kwh-of-power-annually-from-laos-4037485.html