สปป.ลาว – เอกชนจีน ลงนามบันทึกความเข้าใจ เพื่อส่งเสริมการส่งออกสินค้าลาวไปยังจีน

สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ สปป.ลาว และบริษัท Shanghai Zhe Zhe Qang Co., Ltd และ Lao Konsin International Group สัญชาติจีน ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการส่งเสริมการส่งออกสินค้าของ สปป.ลาว ไปยังประเทศจีน โดยเฉพาะผลผลิตทางการเกษตร สินค้าเกษตรแปรรูป สินค้าอุตสาหกรรม และสมุนไพรพื้นบ้าน โดยปลัดกระทรวงฯ กล่าวว่า “การลงนามดังกล่าวนี้จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือในด้านองค์ความรู้โดยเฉพาะด้านการวางแผนการผลิต การฝึกอบรม และการปรับปรุงคุณภาพสินค้าของ สปป.ลาว เพื่อให้สินค้าได้มาตรฐานการส่งออกและสามารถส่งออกไปยังประเทศจีนได้ และในที่สุดจะสามารถจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างประเทศในประเทศลาว ผ่านความร่วมมือกับกรมส่งเสริมการค้าและหัตถกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์”

ที่มา : https://kpl.gov.la/En/Detail.aspx?id=82033

‘วินฟาสต์’ เตรียมตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในอินเดีย

วินฟาสต์ (VinFast) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของเวียดนาม เตรียมดำเนินการก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจรในเมืองทุติโคริน รัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดีย โดยจากการลงทุนในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ระหว่างวินฟาสต์และรัฐทมิฬนาฑู ได้มีส่วนสำคัญในการผลักดันเส้นทางการขนส่งที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของอินเดียและภูมิภาค ทั้งนี้ พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในวันที่ 6 ม.ค. ความร่วมมือดังกล่าวมุ่งไปที่การก่อสร้างโรงงาน EV ในเฟสแรกกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของบริษัทที่จะขยายกิจการไปยังทั่วโลกและทิศทางของธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจร จะสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่นประมาณ 3,000-3,500 ตำแหน่ง ไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการในอินเดีย แต่ยังรองรับในการส่งออกไปยังเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vinfast-to-break-ground-on-integrated-electric-vehicle-facility-in-india-post1078214.vov

EXIM Bank ร่วม CCC ผลักดันการค้าการลงทุนระหว่าง ไทย-กัมพูชา

ความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและกัมพูชา คาดว่าจะได้รับการส่งเสริมอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่าง EXIM BANK และหอการค้ากัมพูชา (CCC) เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา นำโดย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของไทย ร่วมกับ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ซึ่งวัตถุประสงค์หลักของบันทึกความเข้าใจคือการอำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและการปรึกษาหารือระหว่าง EXIM BANK และ CCC ในด้านต่างๆ เช่น เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การพัฒนาอุตสาหกรรม และกิจกรรมอื่นๆ ที่มีส่วนสนับสนุนการพัฒนาของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยไทยถือเป็นคู่ค้าสำคัญของกัมพูชา ควบคู่ไปกับจีน สหรัฐฯ และเวียดนาม สำหรับในปี 2022 โดยปริมาณการค้าระหว่างไทย-กัมพูชา ทะลุ 8 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นการส่งออกของไทยไปยังกัมพูชามูลค่า 6.4 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่การนำเข้าจากกัมพูชามีมูลค่ารวม 1.6 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501437767/partnership-between-exim-thailand-and-ccc-to-drive-thai-cambodian-trade-and-investment/

EXIM BANK ร่วมกับหอการค้ากัมพูชาส่งเสริมการค้าการลงทุน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และหอการค้ากัมพูชา (CCC) โดยมี ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK และเนก โอคนา คิท เม้ง ประธานหอการค้ากัมพูชา เป็นผู้ลงนาม โดยทั้งสองหน่วยงานจะแลกเปลี่ยนข้อมูลและบริการด้านข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน และการพัฒนาอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ การค้าระหว่างกัมพูชาและไทยมีมูลค่าสูงกว่า 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยเป็นคู่ค้าสำคัญของกัมพูชา นอกเหนือจากจีน สหรัฐฯ และเวียดนาม การส่งออกของไทยไปกัมพูชาในปี 2566 มีมูลค่า 6.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การนำเข้าของไทยจากกัมพูชามีมูลค่า 1.6 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่กัมพูชาเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนที่สำคัญของผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs เป็นผลมาจากนโยบายเศรษฐกิจที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุนจากต่างประเทศ ธุรกิจของไทยที่ดำเนินการในกัมพูชาครอบคลุมหลายภาคส่วน

ที่มา : https://www.thebetter.co.th/news/business/13414

สปป.ลาว และตุรกี ร่วมลงนาม MOU ด้านเศรษฐกิจและการค้า

รัฐบาล สปป.ลาว และตุรกี วางแผนที่จะขยายความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจและการค้า โดยรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจในนามของรัฐบาลทั้งสองประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า และทั้งสองฝ่ายได้ร่วมหารือเกี่ยวกับความร่วมมือทวิภาคีในปีที่ผ่านมา และทิศทางในอนาคตที่เป็นไปได้ของการเชื่อมสัมพันธ์ที่มากขึ้น และยังแบ่งปันความคิดเห็นในประเด็นระดับภูมิภาคและระดับโลกที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน โดยรัฐมนตรีทั้งสองกล่าวถึงความสำเร็จมากมายตลอดระยะเวลา 60 ปีแห่งมิตรภาพและความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ โดยเห็นพ้องกันว่าความสัมพันธ์ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ การค้า และด้านอื่นๆ สำหรับการค้าทวิภาคีระหว่างทั้งสองประเทศขยายตัวจุดสูงสุดในปี 2561 และ 2562 แต่ต่อมาลดลง 75.0% เนื่องจากเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 จากนั้นมูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศกลับมาเพิ่มขึ้นเป็น 11.83 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2566 ซึ่งส่งสัญญาณการฟื้นตัวในด้านการค้าระหว่างกันของทั้งสองประเทศ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_27_LaoTurkiye_y24.php

จีน-กัมพูชา ลงนาม MoU จัดตั้งโครงการผลิตยางรถยนต์มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์

ทางการกัมพูชาและจีนได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) เกี่ยวกับแผนการลงทุนมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ ในโครงการผลิตยางและยางรถยนต์ร่วมกัน ตามคำแถลงของสภาพัฒนากัมพูชา (CDC) โดยข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการไปเยือน ณ ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีวิศวกรรมยางและยางแห่งชาติของจีน (NERCRAT) ของรองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา Sun Chanthol ซึ่งทุกฝ่ายตั้งเป้าที่จะร่วมกันเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับโครงการสำคัญๆ หลายโครงการเกี่ยวกับการพัฒนาอุตสาหกรรมยางระหว่างกัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501423710/china-and-cambodia-sign-1billion-rubber-tire-projects-agreement/

NBC ลงนาม MoU มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ ร่วมกับศูนย์วิจัยชิงเต่า ดันอุตสาหกรรมกัมพูชา

Sun Chanthol รองนายกรัฐมนตรีและรองประธานสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ ร่วมกับศูนย์วิจัยวิศวกรรมแห่งชาติสำหรับยางและยางรถยนต์ (NERCRAT) โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับ การพัฒนาอุตสาหกรรมในกัมพูชา โดยข้อตกลงดังกล่าวลงนาม ณ สำนักงานใหญ่ของ NERCRAT ในเมืองชิงเต่า จากข่าวประชาสัมพันธ์ของ CDC บันทึกความเข้าใจที่ลงนามระหว่าง NERCRAT และรองประธานของ CDC ได้รับการออกแบบมาเพื่อร่วมกันเสริมสร้างและส่งเสริมภาคส่วนที่มีความสำคัญกับทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยาง และอุตสาหกรรมการผลิตยางในกัมพูชา ซึ่งศูนย์ NERCRAT ถือเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมยางและยางรถยนต์ขั้นสูง ที่มีสำนักงานใหญ่ในเมืองชิงเต่า ประเทศจีน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501421100/cdc-sings-mou-worth-1b-with-qingdao-research-centre/

VinFast ของเวียดนามจะสร้างโรงงาน EV มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ในอินเดีย

“วินฟาสต์” (VinFast) ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเวียดนามมีแผนลงทุนสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์รายใหญ่อันดับสามของโลก สื่ออินเดียเผย VinFast และรัฐบาลทมิฬนาฑูลงนาม MOU จัดตั้งโรงงานผลิตแห่งแรกของบริษัทในอินเดียที่ Thoothukudi ซึ่งเป็นไปตามแผนวางจำหน่ายของ VinFast ใน 50 ประเทศทั่วโลกรวมถึงสหรัฐอเมริกาและตลาดสำคัญอื่น ๆ โดยนับว่าเป็นการบุกตลาดครั้งแรกของ VinFast ในอินเดีย และเป็นส่วนหนึ่งของการขยายธุรกิจไปทั่วโลกซึ่งรวมถึงการส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าไปยังสหรัฐอเมริกา และกำลังสร้างโรงงาน EV มูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ในนอร์ธแคโรไลนา ซึ่งมีกำหนดเริ่มการผลิตในปีนี้

ที่มา : https://www.mreport.co.th/news/news/industry-movement/117-vinfast-to-build-ev-plant-in-india

ผู้ประกอบการไทย-จีน MOU ซื้อขายมัน,กาแฟกว่า 5,430 ล้านบาท

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างผู้ประกอบการไทย-จีน ที่โรงแรม Wanda Vista Kunming นครคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งการลงนามในครั้งนี้ เกิดขึ้นตามนโยบาย Quick Win ของรัฐบาล ในการผลักดันการส่งออก โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครคุนหมิง จัดกิจกรรมจับคู่เจรจาการค้าทางออนไลน์ล่วงหน้าให้กับผู้ประกอบการไทย ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าแป้งมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์กาแฟ กับผู้นำเข้าสินค้าไทยในจีน (Thai-Yunnan Quick Win Business Matching and Networking) ซึ่งสามารถตกลงซื้อขายกันได้ และนำมาซึ่งการลงนามในครั้งนี้ ระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้นำเข้าจีน โดยเป็นการตกลงสั่งซื้อสินค้าแป้งมันสำปะหลังและสตาร์ชที่ผลิตได้จากหัวมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์กาแฟ คิดเป็นมูลค่ากว่า 5,430 ล้านบาท

ที่มา : https://www.innnews.co.th/news/politics/news_654821/#google_vignette

สปป.ลาว-รัสเซีย ลงนามความร่วมมือทางเศรษฐกิจและสนับสนุนด้านเทคนิควิทยาการ

อิเร็ก ไฟซุลลิน รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย และนายคำเจน วงโพสี รัฐมนตรีกระทรวงการวางแผนและการลงทุน สปป.ลาว ร่วมประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า วิทยาศาสตร์ และด้านเทคนิควิทยาการ ระหว่าง สปป.ลาว และรัสเซีย ครั้งที่ 17 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ โดยมีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านการค้า เศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์ และทางเทคนิควิทยาการ ภายใต้ขอบเขตของความร่วมมือทวิภาคีในด้านการค้า การธนาคาร การเงิน อุตสาหกรรม การขนส่ง พลังงาน การดูแลสุขภาพ และอื่นๆ ทั้งนี้ จากการให้ความช่วยเหลือของรัสเซียที่ผ่านมา ได้แก่ การให้โควตานักศึกษาระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษาของ สปป.ลาว เข้ารับการฝึกอบรมในมหาวิทยาลัยของรัสเซีย และในอนาคตมีความพยายามที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าของทั้งสองประเทศ โดยเริ่มจากการเชื่อมต่อการค้าผ่านเส้นทางรถไฟ เพื่อแสวงหาความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจใหม่ๆ และการสร้างเครือข่ายโลจิสติกส์ขึ้นมาใหม่ รวมถึงการวางแผนที่จะเพิ่มจำนวนโครงการร่วมลงทุนในด้านการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ และการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_236_Lao_Russian_y23.php