เมียนมาสร้างรายได้กว่า 264 ล้านเหรียญสหรัฐจากการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์

ตามที่กระทรวงพาณิชย์เมียนมา (MoC) เผยแพร่สถิติ การส่งออกมีมูลค่ากว่า 264 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมกราคม วันที่ 6 ถึง 12 มกราคม โดยมีสินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว ข้าวหัก ถั่วและถั่วพลัสส์ ผลไม้ ยางพารา และงา ทั้งนี้ จากระบบ MyRo ซึ่งเป็นระบบลงทะเบียนออนไลน์สำหรับคลังสินค้าข้าว ดำเนินการโดย กระทรวงพาณิชย์เมียนมา และสมาพันธ์ข้าวเมียนมาร์ เพื่อควบคุมการส่งออกข้าว เผยว่ามีการส่งออกยางทั้งหมด 326 ตัน สร้างรายได้ประมาณ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมทั้ง ยางแผ่นรมควัน (RSS Rubber) และยางผสม อย่างไรก็ดี กระทรวงฯ เรียกร้องให้ขยายการเพาะปลูกและผลผลิตทางการเกษตรตามฤดูกาลและพืชต้นไม้ เช่น ยางพารา เพื่อเพิ่มการส่งออกสินค้าเกษตรและปศุสัตว์ น้ำยางสามารถเก็บได้จากต้นไม้อายุเจ็ดหรือแปดปี และประเทศนี้ก็ได้รับส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกที่สมเหตุสมผลแล้ว สมาคมผู้ปลูกและผู้ผลิตยางแห่งเมียนมาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องเพื่อจัดเตรียมการผลิตยางพารา นอกจากนี้ กระทรวงยังระบุด้วยว่าการส่งเสริมการส่งออกยางพาราและการผลิตสินค้าทดแทนการนำเข้า คาดว่าจะเป็นปัจจัยพื้นฐานสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ กระทรวงฯ เรียกร้องให้หน่วยงาน ช่างเทคนิค ผู้เชี่ยวชาญ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันผลิตผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบที่สร้างสรรค์ สร้างสรรค์ และมีคุณภาพ เพิ่มรายการการผลิต และส่งเสริมการลงทุนในภาคการผลิต การผลิต การเกษตร และการส่งออก

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-generates-over-us264m-from-exports-of-commodities-in-jans-second-week/

2023 กัมพูชาส่งออกยางไปยังตลาดต่างประเทศมูลค่า 490.6 ล้านดอลลาร์

General Directorate of Rubber (GDR) รายงานการส่งออกยางแห้งของกัมพูชาไปยังตลาดต่างประเทศปริมาณกว่า 368,048 ตัน ในปี 2023 ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 1.3 จากปริมาณ 372,903 ตันในปีก่อนหน้า โดยจีนยังคงเป็นคู่ค้ารายสำคัญของกัมพูชาที่มูลค่า 490.6 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 7 จากมูลค่า 527.6 ล้านดอลลาร์ในปีก่อน ซึ่งส่งออกไปยังยังมาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ และจีน เป็นหลัก ขณะที่การเพาะปลูกต้นยางพาราในกัมพูชามีพื้นที่ทั้งหมด 407,172 เฮกตาร์ และพร้อมที่จะเก็บเกี่ยว 320,184 เฮกตาร์ โดยรายงานระบุเสริมว่าการส่งออกยางที่ลดลงเป็นผลเนื่องมาจากความต้องการภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นจากการมีอยู่ของโรงงานผลิตยางรถยนต์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501425159/cambodia-exports-rubber-worth-490-6-million-in-2023/

เมียนมาแห่ปลูกยางแสนไร่ ราคาต่ำกว่าไทย จับตา “ยางเถื่อน” ทะลัก

นายเพิก เลิศวังพง ประธานคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ได้ลงพื้นที่ จ.ระนอง เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่ จ.ระนอง ระหว่างวันที่ 22-23 มกราคม 2567 นี้ โดยเบื้องต้นจะมีสำรวจพื้นที่สวนยางในจังหวัดระนอง ซึ่งพื้นที่เพียงประมาณ 1,000 ไร่ และติดตามปัญหาความเสี่ยงในการนำเข้ายางเถื่อน

ทั้งนี้ บริเวณชายแดนประเทศเมียนมามีการปลูกสร้างสวนยางประมาณ 1 แสนไร่ และราคายางในประเทศเมียนมามีราคาต่ำกว่าประเทศไทยเฉลี่ย 5-10 บาท/กิโลกรัม ขณะนี้ราคายางไทยทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์ 63 บาท ประกอบกับสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองภายในประเทศ รวมถึงความไม่มีเสถียรภาพของราคายางในประเทศเมียนมา โดยในปี 2566 ที่ผ่านมามีการจับกุม 62 คดี มีปริมาณของกลาง 110 ตัน โดยเป็นยางแผ่นดิบ 80 ตัน และยางก้อนถ้วน 2 ตัน

ที่มา : https://www.prachachat.net/economy/news-1482320

จีน-กัมพูชา ลงนาม MoU จัดตั้งโครงการผลิตยางรถยนต์มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์

ทางการกัมพูชาและจีนได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) เกี่ยวกับแผนการลงทุนมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ ในโครงการผลิตยางและยางรถยนต์ร่วมกัน ตามคำแถลงของสภาพัฒนากัมพูชา (CDC) โดยข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการไปเยือน ณ ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีวิศวกรรมยางและยางแห่งชาติของจีน (NERCRAT) ของรองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา Sun Chanthol ซึ่งทุกฝ่ายตั้งเป้าที่จะร่วมกันเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับโครงการสำคัญๆ หลายโครงการเกี่ยวกับการพัฒนาอุตสาหกรรมยางระหว่างกัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501423710/china-and-cambodia-sign-1billion-rubber-tire-projects-agreement/

NBC ลงนาม MoU มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ ร่วมกับศูนย์วิจัยชิงเต่า ดันอุตสาหกรรมกัมพูชา

Sun Chanthol รองนายกรัฐมนตรีและรองประธานสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ ร่วมกับศูนย์วิจัยวิศวกรรมแห่งชาติสำหรับยางและยางรถยนต์ (NERCRAT) โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับ การพัฒนาอุตสาหกรรมในกัมพูชา โดยข้อตกลงดังกล่าวลงนาม ณ สำนักงานใหญ่ของ NERCRAT ในเมืองชิงเต่า จากข่าวประชาสัมพันธ์ของ CDC บันทึกความเข้าใจที่ลงนามระหว่าง NERCRAT และรองประธานของ CDC ได้รับการออกแบบมาเพื่อร่วมกันเสริมสร้างและส่งเสริมภาคส่วนที่มีความสำคัญกับทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยาง และอุตสาหกรรมการผลิตยางในกัมพูชา ซึ่งศูนย์ NERCRAT ถือเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมยางและยางรถยนต์ขั้นสูง ที่มีสำนักงานใหญ่ในเมืองชิงเต่า ประเทศจีน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501421100/cdc-sings-mou-worth-1b-with-qingdao-research-centre/

กัมพูชาส่งออกยางในช่วง ม.ค.-พ.ย. พุ่งแตะ 445 ล้านดอลลาร์

รายงานจาก General Directorate of Rubber (GER) ระบุว่ากัมพูชาส่งออกยางแห้งไปยังตลาดโลกรวมกว่า 334,176 ตัน สำหรับในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2023 เพิ่มขึ้นในแง่ปริมาณร้อยละ 3.6 จากปริมาณ 322,586 ตัน เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สร้างรายได้เข้าประทศกว่า 445.4 ล้านดอลลาร์ ลดลงในแง่ของมูลค่าร้อยละ 4.4 จากมูลค่า 465.8 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปัจจุบันยางแห้งหนึ่งตันมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1,333 ดอลลาร์/ตัน ซึ่งต่ำกว่าราคาในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วประมาณ 111 ดอลลาร์/ตัน สำหรับประเทศผู้นำเข้ารายสำคัญของกัมพูชายังคงเป็นมาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ และจีน ด้านการเพาะปลูกกัมพูชามีพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมด 407,172 เฮกตาร์ ซึ่งร้อยละ 78.6 ของพื้นที่เพาะปลูก หรือประมาณ 320,184 เฮกตาร์ สามารถที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501408025/cambodia-earns-over-445-million-from-rubber-exports-in-the-first-11-months/

กัมพูชาส่งออกเม็ดมะม่วงพิมพานต์ดิบและยางแตะ 1.2 พันล้านดอลลาร์

กัมพูชาส่งออกสินค้าเกษตรอย่างเม็ดมะม่วงหิมพานต์ดิบและยางพารามูลค่ารวมกว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์ สำหรับในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2023 ตามรายงานของทางการกัมพูชา สำหรับการส่งออกเม็ดมะม่วงหิมะดิบมีปริมาณรวมทั้งสิ้น 615,000 ตัน ที่มูลค่า 831 ล้านดอลลาร์ รายงานโดยสมาคมผู้ปลูกมะม่วงหิมะของกัมพูชา ซึ่งคิดเป็นการส่งออกไปยังเวียดนามในช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคมปีนี้ลดลงร้อยละ 16.7 ขณะเดียวกัน กรมการยางพารารายงานว่า กัมพูชาส่งออกยางแห้งปริมาณรวม 283,829 ตัน คิดเป็นการเพิ่มขึ้นด้านปริมาณร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่คิดเป็นมูลค่า 376.6 ล้านดอลลาร์ ลดลงในแง่มูลค่าร้อยละ 7.3

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501399578/cambodia-makes-1-2-bln-from-exports-of-raw-cashew-nuts-rubber-in-10-months/

7 เดือนแรกของปี กัมพูชาส่งออกยางขยายตัว 3% มูลค่าแตะ 228.5 ล้านดอลลาร์

กัมพูชาส่งออกยางแห้งในช่วง 7 เดือนแรกของปีจำนวนรวมกว่า 170,968 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามรายงานของ General Directorate of Rubber สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 228.5 ล้านดอลลาร์ โดยราคายางแห้งหนึ่งตันมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1,337 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าราคาในช่วงช่วงเดียวกันของปีที่แล้วประมาณ 244 ดอลลาร์ ต่อตัน สำหรับผู้นำเข้ารายสำคัญยังคงเป็นกลุ่มประเทศในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ และจีนเป็นหลัก ขณะที่ปัจจุบันในประเทศกัมพูชาได้มีการเพาะปลูกต้นยางในพื้นที่ทั้งหมด 404,578 เฮกตาร์ โดยมีต้นยางที่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ประมาณ 315,332 เฮกตาร์ หรือคิดเป็นร้อยละ 78 ของพื้นที่เพาะปลูก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501352255/cambodias-rubber-exports-up-3-pct-in-first-7-months-to-earn-2285-million/

กัมพูชาทำลายสถิติส่งออกยางมูลค่าแตะ 77 ล้านดอลลาร์

ในช่วงสองเดือนแรกของปี 2022 กัมพูชาส่งออกยางและไม้ยางพารามูลค่าสูงกว่า 77 ล้านดอลลาร์ ตามรายงานของกรมยางพารา ในด้านปริมาณการส่งออก ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2022 กัมพูชาส่งออกยาง 48,509 ตัน เพิ่มขึ้น 2,536 ตัน คิดเป็นร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการส่งออกไม้ยางพารามีปริมาณรวมอยู่ที่ 808 ลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 66 ซึ่งราคาขายยางเฉลี่ย ณ เดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่ 1,585 ดอลลาร์ต่อตัน ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในปี 2021 กัมพูชาทำรายได้จากการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางมากกว่า 611 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นปริมาณกว่า 366,300 ตัน และไม้ยางพารา 454 ลูกบาศก์เมตร

ที่มา :  https://www.khmertimeskh.com/501047046/cambodia-records-more-than-77-million-from-rubber-rubber-wood-exports/

เวียดนามส่งออก ‘ยาง’ อันดับ 3 ของโลก

กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท (MARD) ระบุว่าในปี 64 เวียดนามส่งออกยาง 3.24 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 36.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก และส่งออกไปยังตลาดกว่า 80 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ สมาคมยางเวียดนาม (VRA) รายงานว่าภาคอุตสาหกรรมนี้ มีส่วนสำคัญในการผลักดันการส่งออกผลผลิตทางการเกษตรของประเทศ โดยสินค้าสำคัญ เช่น ธุงมือและปะเก็นยาง ถือเป็นแรงขับเคลื่อนให้กับอุตสาหกรรม นอกจากนี้ สมาคมประเทศผู้ผลิตยางธรรมชาติ คาดการ์ว่าอุปสงค์ทั่วโลกจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากการคลายล็อกข้อจำกัดการเดินทางและการกลับมาเปิดพรมแดนระหว่างประเทศ ซึ่งจะช่วยให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ กลับมาฟื้น

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-ranks-third-worldwide-in-terms-of-rubber-export-value-post917823.vov