เวียดนามส่งออกข้าวไปจีนลดฮวบผลจากกฎระเบียบที่เข้มงวด
จากข้อมูลศุลกากรเวียดนาม (Vietnam Customs) เปิดเผยว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562 เวียดนามส่งออกข้าวไปยังจีนอยู่ที่ 318,000 ตัน ลดลงร้อยละ 65.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (yoy) เนื่องมาจากกฎระเบียบการนำเข้าสินค้าเกษตรที่เข็มงวดของจีน รวมไปถึงคุณภาพของสินค้าเกษตรเวียดนามที่ไม่ได้รับรองตามมาตรฐานจีน ซึ่งคาดว่าในปีหน้า การส่งออกข้าวของเวียดนามยังต้องเผชิญกับความท้าทายมากขึ้น โดยคาดว่าในปีนี้ การนำเข้าจากจีนจะลดลงร้อยละ 2.94 คิดเป็นปริมาณประมาณ 3.3 ล้านตัน เนื่องมาจากผู้ผลิตในประเทศจีนมีจำนวนมาก นอกจากนี้ นับตั้งแต่เดือนมกราคม-กรกฎาคมที่ผ่านมา เวียดนามส่งออกสินค้าเกษตรไปยังจีนลดลงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว คิดเป็นมูลค่าราว 3.35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ยอดขายรถยนต์พุ่งสูงกว่าล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2025
จากรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม เปิดเผยคนเวียดนามหันมานิยมใช้รถยนต์เพิ่มขึ้น เนื่องมาจากเศรษฐกิจในประเทศ และรายได้ต่อหัวพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก เมื่อในปีที่แล้ว รายได้ต่อหัวอยู่ที่ 2,587 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 โดยยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 30-40 ต่อปี อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของอุตสาหกรรมยานยนต์ localization rate ที่ตั้งไว้ต่ำกว่าร้อยละ 40-55 สำหรับรถบรรทุก และร้อยละ 7-10 สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เป็นผลมาจากชิ้นส่วนรถยนต์ที่ผลิตในประเทศส่วนใหญ่เป็นแบบง่ายๆ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าเวียดนามขาดการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมในประเทศ ด้วยเหตุนี้ หลายปีที่ผ่านมา เวียดนามจำเป็นต้องนำเข้าชิ้นส่วนในปริมาณมาก ด้วยเหตุผลข้างต้น ทางด้านกระทรวงฯ กำลังพิจารณายกเลิกภาษีชิ้นส่วนรถยนต์ที่ผลิตในประเทศ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา 5-10 ปี
เวียดนามลงนามข้อตกลงการค้าการลงทุนกับประเทศอุรุกวัย
จากรายงานของสำนักงานส่งเสริมการค้า ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมเวียดนาม เปิดเผยว่าในวันพุธที่ผ่านมา ได้มีการลงนามทางด้านการค้าและการลงทุนระหว่างเวียดนามกับอุรุกวัย ซึ่งข้อตกลงดังกล่าว ถือว่าเป็นหลักฐานในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าระหว่างประเทศมากขึ้น ในขณะที่ ผู้อำนวยการส่งเสริมการค้าเวียดนาม หวังว่าทางหน่วยงานส่งเสริมการค้าของทั้งสองประเทศจะดำเนินการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ในการทำธุรกิจ เพื่อให้ผู้ประกอบการทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์มากขึ้น โดยจากตัวเลขสถิติการค้าระหว่างประเทศ ในปี 2561 พบว่ามูลค่าการค้าทวีภาคี (เวียดนาม-อุรุกวัย) อยู่ที่ 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งสินค้าส่งออกสำคัญของเวียดนาม ได้แก่ รองเท้า เครื่องนุ่งห่ม อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
นครเหงะอานเวียดนาม เป็นเจ้าภาพงาน “Vietnam-Thailand Trade Forum”
จากงานสัมมนาเกี่ยวกับความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและเวียดนาม “VN-Thailand Trade Forum” ณ ศูนย์กลางจังหวัดเหงะอาน (Nghệ An), วันที่ 26-30 กันยายน 2562 ซึ่งกิจกรรมการสัมมนาในครั้งนี้ ระบุถึงกิจกรรมการค้าและการลงทุนของสหภาพสมาคมนักธุรกิจเวียดนามในต่างประเทศ (BAOOV) กับสหภาพสมาคมนักธุรกิจไทยในเวียดนาม (BAOTV) โดยภายในงานจะมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ และการจัดแสดงสินค้าและบริการที่มีความหลากหลาย ได้แก่ สินค้าเกษตรเทคโนโลยี การส่งออก-นำเข้า การเงิน และการท่องเที่ยว เป็นต้น นอกจากนี้ จากตัวเลขสถิติการของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนาม พบว่าเวียดนามมีมูลค่าการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านอยู่ที่ 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ผู้ประกอบการเวียดนามที่ส่งออกในต่างประเทศ ให้ยกระดับความร่วมมือกับชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้สินค้าเป็นที่นิยมมากขึ้น
สหรัฐอเมริกาส่งออกไปยังตลาดเวียดนามอย่างแข็งแกร่ง
สหรัฐอเมริกาส่งออกไปยังเวียดนามเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา จากสถิติการค้าระหว่างประเทศ พบว่าในปี 2561 สหรัฐอเมริกาส่งออกไปยังเวียดนามประมาณ 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้น 4 เท่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ในปัจจุบันเวียดนามถือว่าเป็นตลาดสำคัญของสหรัฐอเมริกาที่เติบโตได้รวดเร็วที่สุด โดยสินค้าส่งออกสำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ ฝ้าย เครื่องจักร ผลไม้ ถั่วเหลือง และธัญพืช เป็นต้น ในขณะที่ สินค้าเกษตรของทั้งสองประเทศถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก โดยในปี 2561 มูลค่าการค้าอยู่ที่ 8.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 26 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่งผลให้เวียดนามเป็นตลาดส่งออกสินค้าเกษตรที่สำคัญ อยู่ในอันดับที่ 7 ของสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ทางสถานกงสุลสหรัฐอเมริกา ประจำนครโฮจิมินห์ ระบุว่าศักยภาพการค้าระหว่างสองประเทศนั้น จะขยายตัวมากยิ่งขึ้นไปอีกในอนาคต และจะมุ่งเน้นในการลดอุปสรรค/ปัญหาในการค้าระหว่างประเทศ