สปป.ลาว ติดอันดับหนึ่ง ‘จุดหมายปลายทางที่ดีที่สุดในโลกสำหรับชาวออสซี่’

สื่อของออสเตรเลีย news.com.au ยกให้ลาวเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับชาวออสเตรเลียที่จะใช้ชีวิตหลังเกษียณ เนื่องจาก สปป.ลาว เป็นประเทศที่น่าเที่ยวที่สุดในโลกตอนนี้ แอนโธนี โบลโซเนลโล นักข่าวท่องเที่ยวอิสระที่ได้เดินทางไปแล้ว 107 ประเทศ และเป็นหนึ่งใน 16 ชาวออสเตรเลียใน Travelers’ Century Club ได้กล่าวว่า “ในความคิดของฉัน ที่นี่เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่คุ้มค่าที่สุดในโลกที่มอบประสบการณ์ที่หลากหลายโดยไม่เสียเงินในกระเป๋า โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ชีวิตในออสเตรเลีย” องค์กรสื่อที่ News Corp Australia กล่าวถึงเมืองหลัก 3 เมือง ได้แก่ เวียงจันทน์ หลวงพระบาง และวังเวียง โดยกล่าวว่าเมืองเหล่านี้ล้วนสามารถเดินได้สะดวกมาก “ลาวมีความโดดเด่นในฐานะเมืองที่เป็นมิตรกับงบเดินทางท่องเที่ยว โดยเราสามารถอยู่อาศัยและทำงานได้อย่างสะดวกสบายโดยมีรายได้น้อยกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน ที่พักในหลวงพระบางและวังเวียงมีราคาอยู่ที่ 20 ดอลลาร์สหรัฐต่อคืน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_13_Laosnamed_y24.php

‘เวียดนาม’ คาดหวังปีนี้ ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 17-18 ล้านคน

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเวียดนาม ได้ตั้งเป้าหมายที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 17-18 ล้านคนภายในปี 2567 ซึ่งอยู่ในระดับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคในปี 2562 โดยจากข้อมูลสถิติปี 2566 พบว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 12.6 ล้านคน เกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 57% และบรรลุเป้าหมายที่ 12-13 ล้านคน ในขณะที่นักท่องเที่ยวในประเทศ มีจำนวนทั้งสิ้น 108 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับเป้าหมายที่ตั้งเป้าไว้ และกิจกรรมการท่องเที่ยวทำรายได้ราว 678 ล้านล้านดอง (27.85 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

ทั้งนี้ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนาม (VNAT) เปิดเผยว่าการท่องเที่ยวในประเทศจะกลับมาฟื้นตัว แต่ยังคงเผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายในปีหน้า โดยเฉพาะความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ความขัดแย้งในระดับภูมิภาค และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-hopes-to-welcome-17-18-million-tourist-arrivals-this-year-2239529.html

เทศกาลดอกกะป๊อกบาน (ดอกนุ่นบาน) ครั้งที่ 21 แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแขวงบ่อแก้ว

เทศกาลดอกกะป๊อก ครั้งที่ 21 (ดอกนุ่นบาน) จะจัดขึ้นที่เขตต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ในเดือนนี้อย่างยิ่งใหญ่กว่าปีที่ผ่านมา โดยปี 2567 เป็นปีแห่งการเยือนลาว เทศกาลนี้จะมีโปรแกรมกิจกรรมหลากสีสันตั้งแต่วันที่ 21-28 มกราคม 2567 เพื่อเฉลิมฉลองความสวยงามของธรรมชาติในสภาพแวดล้อมแบบชนบทของเกาะดอนเซา ซึ่งต้นนุ่นจะออกดอกสีแดงจำนวนมากในทุกฤดูหนาว โดยโปรแกรมการท่องเที่ยวนี้ ประกอบด้วย การประกวดนางนพเก้าและนางสาวการท่องเที่ยว การแสดงโดรน การแสดงโดยคณะนักแสดงจากประเทศลาว จีน ไทย และเมียนมา การแสดงดอกไม้ไฟ การปล่อยโคมลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า การแข่งขันกอล์ฟ และการแข่งขันชกมวย

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_07_Kapok_y24.php

สปป.ลาว เผยยอดผู้สนใจเข้าร่วมการประชุมการท่องเที่ยวอาเซียน 2024 (ATF) กว่า 100 ราย

การประชุมการท่องเที่ยวอาเซียน 2024 (ATF) ซึ่งจะจัดขึ้นที่นครหลวงเวียงจันทน์ ระหว่างวันที่ 22-27 มกราคม 2567 ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนแล้ว 105 คน จาก 8 ประเทศ ตามข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสารสนเทศ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว ได้แก่ บรูไน 2 คน ลาว 24 คน มาเลเซีย 30 คน เมียนมาร์ 1 คน สิงคโปร์ 1 คน ไทย 5 คน และเวียดนาม 11 คน ตัวแทนการท่องเที่ยวได้ยื่นขอจัดตั้งบูธแสดงสินค้าเกือบ 90 คูหา โดยมีบูธจัดแสดงสินค้าการท่องเที่ยวลาวประมาณ 22 คูหา นอกจากนี้ กระทรวงคาดว่าประมาณ 108 คนจะเข้าร่วมพิธีมอบรางวัลมาตรฐานการท่องเที่ยวอาเซียน โดยการประชุมการท่องเที่ยวอาเซียนในปีนี้จะใช้หัวข้อ “การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและความรับผิดชอบ – การรักษาอนาคตของอาเซียน”

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_06_More_y24.php

‘เวียดนาม’ เผยนักท่องเที่ยวเดินทางฉลองปีใหม่ ทะลุ 3.2 ล้านคน

สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนาม (VNAT) รายงานว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ 3 วัน มีผู้คนเดินทางภายในประเทศมากกว่า 3.2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6.6% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยนครโฮจิมินห์ติดอันดับจุดหมายปลายทางที่ดีที่สุดในเวียดนาม มีผู้เดินทางอยู่ที่ 1.65 ล้านคนในช่วงวันหยุดตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.66 – 1 ม.ค.67 ทำรายได้รวมทั้งสิ้น 6.4 ล้านล้านดอง สำหรับอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 87%

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเยือนเวียดนามมากที่สุดในช่วงวันหยุดปีใหม่ ได้แก่ เกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ออสเตรเลีย สหภาพยุโรปและไทย ถึงแม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะกลับมาขยายตัวดีขึ้น แต่ว่าสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนาม (VNAT) มองว่านักท่องเที่ยวรัดเข็มขัดและใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวเวียดนาม

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-reports-3-2-million-tourists-during-new-year-holiday-2235095.html

แขวงหลวงน้ำทา หวังดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน 1 ล้านคน ในปี 2567

นายเวียงสะหวัด สีพันดอน เจ้าแขวงหลวงน้ำทา ตั้งเป้าหมายที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนหนึ่งล้านคนในปี 2567 เนื่องจากเป็นพื้นที่ชายแดนที่เชื่อมต่อกับตอนใต้ของจีน และเป็นต้นทางของเส้นทางรถไฟลาว-จีน เจ้าแขวงหลวงน้ำทาได้ขอให้ทางการจีนสิบสองปันนาช่วยส่งเสริมให้ชาวจีนเดินทางมาเยือนลาวมากขึ้น โดยได้กล่าวกับทางการจีนท้องถิ่นว่า “ทางการสิบสองปันนามีแผนจะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจาก 15 ล้านคน เป็น 50 ล้านคน ในปี 2567 และผมขอให้ชาวจีนของผมช่วยสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวบางส่วนมาที่ลาว” นอกจากนี้ “หากสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนได้หนึ่งล้านคนในปี 2567 จะมีนักท่องเที่ยวมาเฉลี่ยวันละ 2,700 คน จำนวนนี้ค่อนข้างมาก และหลวงน้ำทามีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมที่จะรองรับผู้มาเยือน” เจ้าแขวงหลวงน้ำทากล่าว

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_02_LuangNamtha_y24.php

‘ไทย-จีน’ ยกเว้นวีซ่าถาวร หนุนเที่ยวบินฟื้น ค่าตั๋วถูกลง ปลุกจีนเที่ยวไทย

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ขอขอบคุณรัฐบาลไทยและรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ได้พิจารณาจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยการยกเว้นวีซ่าของประชาชนสองประเทศอย่างถาวร นโยบายดังกล่าวจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวระหว่างชาวไทยและชาวจีนอย่างมาก นำไปสู่การเพิ่มเที่ยวบินระหว่างสองประเทศมากขึ้น ทำให้ค่าตั๋วเครื่องบินที่ปัจจุบันราคาสูงขึ้นหลังเกิดวิกฤติโควิด-19 มีราคาลดลงได้ จูงใจให้เกิดการเดินทางมากขึ้น เกิดการกระจายตัว และการเข้าถึงนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มใหม่และพื้นที่ใหม่ๆ โดยเฉพาะเมืองรองของประเทศจีนมากขึ้น อย่างไรก็ดี ด้านเป้าหมายนักท่องเที่ยวจีนที่ ททท. ตั้งเป้าปี 2567 อยู่ที่จำนวน 8 ล้านคน หลังจากตลอดปี 2566 มีจำนวน 3.51 ล้านคน พอมีนโยบายยกเว้นวีซ่าแบบถาวรระหว่างไทย-จีนแล้ว ททท.จะเพิ่มเป้านักท่องเที่ยวจีนอีกหรือไม่นั้น ต้องขอหารือกับนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาก่อน และ ประชุมผู้บริหารและผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. ในประเทศจีนทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ คุนหมิง เฉิงตู และกว่างโจว เพื่อทบทวนการจัดทำแผนการตลาดอีกครั้ง ดังนั้น ททท.ต้องเจาะเข้าไปการตลาดในเมืองรองของจีนให้มากขึ้น เนื่องจาก ประชาชนชาวจีนในพื้นที่นั้นยังไม่เคยเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย ซึ่งจำเป็นต้องใช้งบประมาณมาดำเนินการทั้งในด้านการตลาด และการประชาสัมพันธ์

ที่มาภาพจาก : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1106733

นักท่องเที่ยวเดินทางมายังนครวัดกัมพูชาในช่วงปี 2023 แตะ 8 แสนคน

อุทยานโบราณคดีอังกอร์อันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังของกัมพูชา ได้รายงานการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 798,069 คน สำหรับในปี 2023 เพิ่มขึ้นถึง 177% จากปริมาณนักท่องเที่ยว 287,454 คน ในปีก่อน โดยโบราณสถานดังกล่าวสร้างรายได้จากการขายตั๋วเข้าชมสถานที่กว่า 37.1 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 222% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการรายงานจากอังกอร์ เอนเทอร์ไพรซ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจกัมพูชา ซึ่งอุทยานโบราณคดีอังกอร์ตั้งอยู่ในจังหวัดเสียมราฐ ทางตะวันตกเฉียงเหนือ บนเนื้อที่ 401 ตารางกิโลเมตร ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) เมื่อปี 1992 ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดของกัมพูชา โดยทางการกัมพูชาเชื่อว่าภาคการท่องเที่ยวจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากการก่อสร้างสนามบินนานาชาติเสียมราฐ-อังกอร์ (SAI) แห่งใหม่ ซึ่งเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ซึ่งคาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมายังนครวัดมากยิ่งขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501416584/close-to-800000-foreign-tourists-converged-on-angkor-in-2023/

ไทยเตรียมต้อนรับ 9 สายการบินใหม่ ในปี 2567

รัฐบาลตั้งเป้าหมายที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40 ล้านคนในปี 2567 เพิ่มขึ้นจาก 27 ล้านคนในปี 2566 โดยได้แรงหนุนจากการเปิดตัวสายการบินใหม่ 9 สายการบิน โดยสายการบินใหม่ที่จะเริ่มดำเนินการ ได้แก่ Asian Aerospace Service, Siam Seaplane, Really Cool Air, Avanti Air Sarter, Landarch Airlines, Bangkok Helicopter Services, พัทยาแอร์เวย์, Asia Atlantic Airlines และ P80 Air แม้ว่าบางเที่ยวบินจะมุ่งเน้นไปที่เที่ยวบินระดับภูมิภาคและภายในประเทศ
แต่บางเที่ยวบินก็คาดว่าจะเพิ่มขีดความสามารถให้กับตลาดการบินของไทย ซึ่งอาจรวมถึงเส้นทางระหว่างประเทศด้วยสายการบินเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากรัฐบาล ซึ่งคาดว่าจะสร้างงานและกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2566 ท่าอากาศยานไทยมีผู้โดยสารประมาณ 100 ล้านคน และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) คาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีกเป็น 130 ล้านคนในปีงบประมาณ 2567 การคาดการณ์นี้บ่งชี้ถึงการกลับมาสู่ระดับผู้โดยสารที่ใกล้ก่อนการแพร่ระบาดในปี 2562 ทั้งนี้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมการบินจะฟื้นตัวในปี 2567 สอดคล้องกับการคาดการณ์โดยรวมว่าอุตสาหกรรมการบินจะฟื้นตัวได้เกือบเทียบเท่าก่อนสถานการณ์โควิด การพัฒนานี้มีแนวโน้มที่จะมีส่วนสำคัญต่อภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศไทยในปีหน้า

ที่มา: https://thainews.prd.go.th/en/news/detail/TCATG240102112437386

เส้นทางเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจลาว ปี 67 มุ่งเน้นการท่องเที่ยว ยกเครื่องโครงสร้างพื้นฐาน

ปี 2566 ที่ผ่านมา สปป.ลาว เผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ ทั้งปัญหาอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น การขาดแคลนแรงงาน และการขาดดุลการค้าที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาของประเทศ รัฐบาล สปป.ลาว ได้ริเริ่มแคมเปญ Visit Lao Year 2024 โดยหันมาใช้การท่องเที่ยวเป็นกลยุทธ์สำคัญในการเอาชนะปัญหาทางเศรษฐกิจ และวางรากฐานสำหรับการเป็นประธานอาเซียนในปี 2567 โดยมีมาตรการปรับปรุงการเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะ เน้นที่การลดความซับซ้อนของการขายตั๋วสำหรับรถไฟลาว-จีน แผนดังกล่าวยังรวมถึงการดำเนินโครงการโครงสร้างพื้นฐานให้เสร็จสิ้น เช่น ถนนและสนามบิน การฟื้นฟูทางหลวงที่ได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ และการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคการบริการ โดยความพยายามเหล่านี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อป้องกันไม่ให้สภาพถนนที่ไม่ดีส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวในช่วงปีเยือนลาวปี 2567

ที่มา: https://laotiantimes.com/2023/12/27/laos-charts-course-for-growth-in-2024-with-tourism-focus-infrastructure-overhaul-amidst-economic-challenges/