รัฐบาลเมียนอนุญาติให้เปิด ชายหาดอิรวดีและโรงแรมอีกครั้ง

รัฐบาลอนุญาตให้ชายหาดโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวอื่น ๆ ในภูมิภาคอิรวดีซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูธุรกิจในพื้นที่ โดยธุรกิจจะต้องผ่านการตรวจสอบโดยหน่วยงานท้องถิ่นและต้องปฏิบัติตามแนวทางการป้องกัน COVID-19 ของกระทรวงสาธารณสุขและการกีฬา ในบรรดาชายหาดที่มีชื่อเสียงที่เปิดให้บริการอีกครั้งได้ คือ Chaung Tha, Ngwe Saung, เกาะ Gaw Yin Gyi และ Shwe Thaung Yan ชายหาดถูกปิดในวันที่ 24 มีนาคม 2563 หนึ่งวันหลังจากที่มีรายงานการติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 2 ราย ขณะนี้มีเพียงโรงแรมบนชายหาดเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการในอิรวดี ผู้ประกอบการกล่าวว่าธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวคาดว่าจะเพิ่มราคาสูงขึ้นเนื่องจากต้องปฏิบัติตามระเบียบ COVID-19 แม้ว่าจะกลับมาเปิดโรงแรม เที่ยวบิน และการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวในท้องถิ่น แต่ก็ยังคงปิดให้บริการแก่ชาวต่างชาติและเที่ยวบินระหว่างประเทศและน่าจะกลับมาเปิดได้ในเดือนตุลาคม โดยโรงแรมในประเทศประมาณ 60% ได้เปิดให้บริการอีกครั้งหลังจากได้ผ่อนคลายข้อบังคับลงในเดือนพฤษภาคม แต่ธุรกิจยังคงซบเซา เช่น ร้านอาหารผลประกอบการลดลงมากถึง 50% ในขณะที่ผู้คนยังคงระมัดระวังในการไปในที่สาธารณะ สมาคมผู้ประกอบการโรงแรมในเมียนมาเผย โรงแรมบางแห่งไม่มีลูกค้ามากพอและอาจสูญเสียรายได้ดังนั้นจึงยังไม่เปิดทำการ การท่องเที่ยวของเมียนมาคิดเป็น 6.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ มีรายได้รวม 4.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2560 และแรงงาน 1.4 ล้านคน

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/ayeyarwady-beaches-hotels-reopen-after-inspection.html

ผู้ค้าแตงโมเมียนมาประเมินความต้องการในฤดูการส่งออก

สมาคมผู้ปลูก ผู้ผลิต และผู้ส่งออกแตงโมเมลอนเมียนมา เผยกลยุทธ์ที่จะผลิตเพื่อการส่งออกและคาดการณ์ว่าจะสูญเสียรายได้ในปีที่จะมาถึงนี้  จากผลของ COVID-19 ผู้ส่งออกแตงโมมีผลขาดทุนเป็นจำนวนมากจากการสูญเสียและความต้องการที่ลดลงในเขตชายแดนเมียนมา- จีนในปีนี้ โดยปกติฤดูกาลส่งออกแตงโมจะเริ่มในเดือนกันยายนและอย่างเร็วในระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงพฤษภาคม มีการคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในอดีตที่ผ่านมามีการส่งออกแตงโมมากกว่า 800,000 ตันและตอนนี้เหลือเพียง 500,000 ตันเท่านั้น ผลไม้ส่วนใหญ่ส่งออกไปยังจีนที่เขตชายแดน ก่อนการระบาดของ COVID-19 แตงโมและแตงกวาคือการส่งออกผลไม้หลักและรายได้เพิ่มขึ้นทุกปีเนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น ในปีนี้การส่งออกลดลงถูกชดเชยด้วยอุปสงค์กล้วยที่เพิ่มขึ้นในช่วงต้นปีตามรายงานของกระทรวงพาณิชย์ รายได้จากการส่งออกผลไม้ของเมียนมาสูงถึง 370 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีงบประมาณปัจจุบันซึ่งมีแม้จะมีการระบาดของ COVID-19 หากไม่มีการระบาดเมียนมาจะมีรายได้จากการส่งออกผลไม้เพิ่มขึ้นในปีนี้หากมีการจัดเก็บรักษาที่เหมาะสมของชายแดนเมียนมา – จีน

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/myanmar-traders-gauge-demand-melons-upcoming-export-season.html

บริษัทญี่ปุ่น 15 ราย ย้ายสายการผลิตจากจีนไปยังเวียดนาม

“เวียดนามคาดว่าจะดึงดูดการลงทุนจากบริษัทญี่ปุ่น 15 แห่งที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อย้ายฐานการผลิตออกจากจีนและทำให้ห่วงโซ่อุปทานเกิดความหลากหลาย” กระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (METI) เปิดเผยรายชื่อบริษัท 87 แห่งที่ได้รับเงินทุน 70 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อดำเนินโครงการ ตามรายงานของสำนักข่าว Nikkei Asian Review ทั้งนี้ มีบริษัท 30 แห่งที่ย้ายฐานการผลิตไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว รวมทั้งเวียดนามและสปป.ลาว ขณะที่ อีก 57 แห่งมึจุดหมายอยู่ที่ญี่ปุ่น โดยเป้าหมายของการย้ายสายการผลิตดังกล่าว เพื่อที่จะลดการพึ่งพาการผลิตของญี่ปุ่นในจีน ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอุปกรณ์ทางการแพทย์ นอกจากนี้ เวียดนามยังเป็นจุดมุ่งหมายของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) หลังจากเวียดนามควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) และไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในระดับชุมชนนานกว่า 3 เดือน

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/15-japanese-firms-to-move-china-production-lines-to-vietnam-416280.vov

ศูนย์อัญมณีในมัณฑะเลย์ปิดทำการ

ศูนย์ซื้อขายพลอยในมัณฑะเลย์จะปิดทำการจนถึงสิ้นเดือนแม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื่อ COVID-19 ยังคงต่ำในภูมิภาค เลขาธิการคณะกรรมการบริหารศูนย์การค้าอัญมณี กล่าวว่าแม้ความพยายามของฝ่ายบริหารในการปฏิบัติตามกฎระเบียบ COVID-19 ของรัฐบาลแต่ก็ยังถูกสั่งให้ปิดไปจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 ศูนย์อัญมณีแห่งนี้ดึงดูดผู้คนหลายพันคนต่อวันรวมถึงผู้ซื้อจากจีน รัฐบาลระดับภูมิภาคได้ปลดล็อคจำกัดของมาตรการ COVID-19 โดยอนญาติทำให้เดินทาง โรงแรมสามารถกลับมาเปิดใหม่และเริ่มการผลิตได้หากปฏิบัติตามระเบียบ

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/gemstone-centre-mandalay-stay-closed.html

การท่องเที่ยวภายในประเทศกัมพูชาเริ่มฟื้นตัวในช่วงเดือนกรกฎาคม

นักท่องเที่ยวภายในประเทศทั้งหมดที่ได้เยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วประเทศกัมพูชาอยู่ที่ 313,300 คน ในช่วงสองสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม 2563 โดยตัวเลขดังกล่าวถูกเปิดเผยโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวทองคอน ซึ่งเสริมว่าแนวโน้มบ่งชี้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.67 เมื่อเทียบกับสองสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมิถุนายน โดยคิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวภายในประเทศ 5,491 คน ลดลงร้อยละ 30.89 และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 307,809 คนเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.54 แสดงให้เห็นมุมมองแนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศจะเพิ่มขึ้นอีกครั้งในเดือนสิงหาคมเนื่องจากผู้คนจะมีวันหยุดยาว (เพื่อชดเชยวันหยุดปีใหม่กัมพูชาของพวกเขา) ตามด้วยเทศกาลวันหยุดประชุมแบนในเดือนกันยายน ในขณะที่สถานการณ์ COVID-19 ภายในประเทศก็เริ่มที่จะดีขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50746062/domestic-tourism-takes-off-with-a-bang-over-310000-tourists-travel-in-first-two-weeks-of-july/

ด่านศุลกากรกัมพูชามีรายรับ 1.3 พันล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งปีแรก

กรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) ของกระทรวงเศรษฐกิจและการเงิน มีรายรับรวมกว่า 5,152,600 ล้านเรียล หรือ 1,272.2 ล้านดอลลาร์ ในช่วงครึ่งปีแรกลดลงร้อยละ 16.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งตัวเลขดังกล่าวได้รับการเปิดเผยในการแถลงข่าวล่าสุดเกี่ยวกับผลการประชุมทบทวนของ GDCE โดยมีผู้อำนวยการทั่วไปเป็นประธาน โดยรายได้นี้คิดเป็นร้อยละ 43.9 ของเป้าหมายที่ระบุไว้ในกฎหมายงบประมาณปี 2563 ซึ่งกล่าวว่ารายได้จากการนำเข้ายานพาหนะลดลงร้อยละ 31.7, วัสดุก่อสร้างลดลงร้อยละ 28.2 ขณะที่เชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 และ สินค้าโภคภัณฑ์ลดลงร้อยละ 3.1 โดยในช่วงเวลาเดียวกันภาษีนำเข้าลดลงร้อยละ 19.8, ภาษีพิเศษลดลงร้อยละ 21.6 และภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 9.6 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการลดลงของรายได้ศุลกากรส่วนใหญ่มาจากผลของการระบาด COVID-19 ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อตลาดภายในประเทศและตลาดส่งออกของกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50746083/cambodian-customs-collects-1-3-billion-in-first-semester/

รายได้ของคนเวียดนามดิ่งลง 90% เหตุโควิด-19

การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้รายได้ของคนเวียดนามลดลงถึงร้อยละ 90 และต้องลดค่าใช้จ่ายลง ซึ่งจากผลสำรวจของอิปซอสส์ (Ipsos) จำนวนตัวอย่าง 500 ราย พบว่ารายได้ของคนเวียดนามลดลงกว่าร้อยละ 20 ส่วนใหญ่จะเป็นแรงงานไร้ฝีมือ ขณะที่ ผู้ที่มีรายได้น้อย ร้อยละ 17 (ประมาณ 323 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน) กล่าวว่าครอบครัวของเขาต้องลดค่าใช้จ่ายสำหรับการท่องเที่ยว การกินอาหารนอกบ้าน เสื้อผ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่าง 2 ใน 3 คาดว่ารายได้อาจเพิ่มขึ้นในอนาคตอันเร็วๆนี้ เนื่องจากเวียดนามไม่พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อรายใหม่ในชุมชนนานกว่า 3 เดือน ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) แสดงให้เห็นว่าผู้คนตกงาน 31 ล้านคนหรือร้อยละ 57.3 ที่รายได้ปรับตัวลดลงจากโควิด-19 อีกทั้ง รายได้เฉลี่ยของคนเวียดนามลดลงร้อยละ 10.2 ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ อยู่ที่ 224 ดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/pandemic-lowers-incomes-of-90-of-vietnamese-416265.vov

สปป.ลาวยังคงปิดชายแดนแต่อนุญาตให้บางกลุ่มสามารถเดินทางได้

สปป.ลาวยังคงปิดด่านเพื่อให้มั่นใจในการแพร่ระบาดของ COVID-19 ว่าชาวต่างชาติจะไม่นำเชื้อเข้ามาแพร่ระบาดในประเทศแต่ถึงอย่างไรก็ยังคงมีการเปิดเที่ยวบินสำหรับการเดินทางของแขกพิเศษของรัฐบาลเช่น นักการทูตและนักเรียนต่างชาติโดยต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยหากมีความประสงค์เดินทางออกนอกประเทศต้องแจ้งวัตถุประสงค์เฉพาะและรายละเอียดของการเดินทางของพวกเขามายังหน่วยงาน รวมถึงผู้ป่วยที่แสวงหาการรักษาพยาบาลในต่างประเทศจะได้รับอนุญาตให้ออกจากสปป.ลาวได้แต่จะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดในการเข้าประเทศปลายทาง ปัจจุบันเที่ยวบินระหว่างประเทศที่ดำเนินการคือเที่ยวบินจากเวียงจันทน์ไปยังเมืองคุนหมิงของมณฑลยูนนานในประเทศจีน

ที่มา : https://www.thestar.com.my/aseanplus/aseanplus-news/2020/07/19/laos–borders-remain-closed-to-foreigners-but-resume-flights-on-vientiane-hanoi-route

INFOGRAPHIC : เวียดนามไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ติดต่อกัน 92 วัน

เมื่อวันที่ 17 ก.ค. คณะกรรมการระดับชาติว่าด้วยการป้องกันและควบคุมโควิด-19 แห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (The National Steering Committee for COVID-19 Prevention and Control) เปิดเผยว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในเวียดนาม นับเป็นเวลา 92 วันติดต่อกันแล้วไม่พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ในเวียดนาม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-enters-92nd-day-without-covid19-community-transmission/178726.vnp

ภาคการเกษตรกัมพูชาได้รับแรงกระตุ้นจากการแพร่ระบาดของ COVID-19

นายกรัฐมนตรีฮุนเซนได้กล่าวถึงภาคเกษตรกรรมภายในประเทศที่เริ่มแข็งแกร่งขึ้น ในช่วงของการประสบปัญหาแรงกดดันทางเศรษฐกิจในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ทั่วโลก แม้ว่าภาคการเกษตรจะไม่สามารถชดเชยความสูญเสียในภาคการตัดเย็บเสื้อผ้าของกัมพูชาที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 และการสูญเสียสิทธิพิเศษทางการค้าจากทางสหภาพยุโรปก็ตาม โดยในคำปราศรัยที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดในเขต Peam Ro ในจังหวัดไพรแวง ซึ่งนายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวว่ารัฐบาลกำลังเตรียมที่จะสนับสนุนอุตสาหกรรมการเกษตรของประเทศต่อไป โดย Covid-19 ไม่เพียง แต่ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบในเชิงลบต่อกัมพูชาเท่านั้น แต่ยังส่งผลช่วยให้ภาคเกษตรกรรมมีการพัฒนาร่วมด้วย และนั่นคือเหตุผลที่รัฐบาลเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็วเพื่อผลักดันให้เกิดการสนับสนุนทางการเงินแก่ภาคเกษตรกรรมโดยรวมภายในประเทศ

ที่มา : https://english.cambodiadaily.com/business/covid-19-to-help-boost-cambodias-agricultural-sector-hun-sen-says-166794/