สปป.ลาว – เมียนมา ประชุมร่วมทบทวนแนวทางความร่วมมือด้านชายแดน

สปป.ลาว และเมียนมา ร่วมประชุมเพื่อทบทวนแนวทางการตรวจสอบ การซ่อมแซม และการสร้างเครื่องหมายชายแดนระหว่าง สปป.ลาว และเมียนมา โดยจัดขึ้นที่แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนร่วมกัน ทั้งสองฝ่ายประเมินความคืบหน้าของงานและรับทราบความสำเร็จของการตรวจสอบแนวเขตแดนระยะทาง 236 กม. ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2567 ได้ตรวจสอบและบำรุงรักษาบริเวณชายแดน นอกจากนี้ คณะทำงานของทั้งสองประเทศได้ใช้อุปกรณ์ GPSรวบรวมข้อมูล 172 จุดตามแนวชายแดนแม่น้ำโขง ให้บริการวิจัยและปรับปรุงระบบแผนที่ชายแดนของทั้งสองประเทศจากระบบเก่าตามข้อตกลงเมื่อปี 2537 ทำให้ระบบใหม่และทันสมัยยิ่งขึ้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/laos-myanmar-review-border-cooperation/284818.vnp

รัฐบาลให้ความสำคัญกับเสถียรภาพชายแดนและแผ่นดินใหญ่ผ่านการเจรจาสันติภาพกับกลุ่มชาติพันธุ์

พลเอกอาวุโส มิน ออง หล่าย และนายเติ้ง ซีจุน ผู้แทนพิเศษด้านกิจการเอเชีย กระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน หารือเกี่ยวกับการเจรจาสันติภาพของรัฐบาลกับองค์กรติดอาวุธชาติพันธุ์ เพื่อประกันสันติภาพและเสถียรภาพทั่วทั้งประเทศ รวมถึงบริเวณชายแดน อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความช่วยเหลือของจีนในกระบวนการสันติภาพ ความร่วมมือในการกำจัดยาเสพติด ความร่วมมือทวิภาคีในการขจัดการพนันออนไลน์และการหลอกลวงออนไลน์ กระบวนการการค้าชายแดนระหว่างทั้งสองประเทศ และความก้าวหน้าทางการเมืองในเมียนมา

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/govt-prioritizes-border-and-mainland-stability-through-peace-talks-with-eaos/

สระแก้วถือมีบทบาทสำคัญต่อภาคโลจิสจิสติกส์ระหว่างกัมพูชา เวียดนาม และจีน

นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน เดินทางเยือนจังหวัดสระแก้ว เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา หวังหารือเกี่ยวกับความสำคัญของจังหวัดในด้านเครือข่ายการค้าชายแดนและโลจิสติกส์ของประเทศไทย โดยสามารถรองรับการจราจรและการค้าได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันมีผู้คนข้ามแดนมากกว่า 10 ล้านคนต่อปี และมีมูลค่าการค้าชายแดนประมาณ 110,000 ล้านบาทต่อปี ด้านนายกฯ ยังได้เน้นย้ำถึงความสามารถของจังหวัดสระแก้วในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าของไทยกับประเทศที่มีชายแดนติดกันกับไทย อย่าง กัมพูชา เวียดนาม และจีน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประเทศคู่ค้ารายสำคัญของไทย อีกทั้งยังมีแนวนโยบายในการจัดทำบัตรผ่านแดนชั่วคราวสำหรับผู้ที่ไม่ใช่ชาวสระแก้ว เพื่อให้สามารถข้ามชายแดนได้โดยไม่ต้องมีหนังสือเดินทาง ภายใต้การดำเนินงานของด่านผ่านแดนคลองลึก-ปอยเปต ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางในเขตพื้นที่ดังกล่าวหวังดันการค้าและการเดินทางเติบโตต่อเนื่องในอนาคต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501398538/sa-kaeo-plays-crucial-role-in-logistics-sector-commercial-relationships-with-cambodia-vietnam-and-china/

กัมพูชา-สปป.ลาว เปิดตัวระบบการชำระเงิน QR code ข้ามพรมแดน

กัมพูชาและ สปป.ลาว เปิดตัวระบบการชำระเงินด้วย QR code ข้ามพรมแดนในเฟสแรก เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ส.ค.) ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาสามารถใช้เงินสกุลเรียลในการใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการใน สปป.ลาว ได้สะดวกยิ่งขึ้น กล่าวโดยธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) ในทางกลับกันนักท่องเที่ยวจาก สปป.ลาว ก็จะสามารถใช้เงินกีบในการซื้อสินค้าและบริการในบริเวณชายแดนติดกับกัมพูชาได้ง่ายขึ้น โดยในระยะแรกของโครงการอนุญาตให้ชาวกัมพูชาซึ่งมีบัญชีธนาคารในสกุลเงินเรียลใช้แอปพลิเคชันธนาคารบนมือถือเพื่อชำระเงินผ่านการสแกน LAO QR Code กับพ่อค้าหรือร้านค้าใน สปป.ลาว ซึ่งเชื่อว่าโครงการนี้จะส่งเสริมการใช้สกุลเงินท้องถิ่นและยังเป็นส่วนในการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและการค้าข้ามพรมแดนระหว่างกัมพูชาและ สปป.ลาว ต่อไปในอนาคต สำหรับในระยะที่สองจะเปิดให้ชาว สปป.ลาว ที่มีบัญชีธนาคารในสกุลเงินกีบสามารถชำระค่าสินค้าหรือบริการผ่านแอปพลิเคชันธนาคารบนมือถือโดยการสแกนรหัส KH QR Code กับร้านค้าหรือร้านค้าในกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501345403/cambodia-laos-launch-1st-phase-of-cross-border-qr-code-payments/

กัมพูชาส่งเสริมการชำระเงินดิจิทัลข้ามพรมแดนระหว่าง เวียดนาม และสปป.ลาว

ธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) กำลังเตรียมลงนามข้อตกลงกับธนาคารแห่งรัฐเวียดนามและธนาคารแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อส่งเสริมการใช้สกุลเงินเรียลของกัมพูชาในกิจกรรมทางเศรษฐกิจระหว่างกันข้ามพรมแดน กล่าวโดย Chea Serey รองผู้ว่าการ NBC ระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสื่อของเวียดนามในกรุงพนมเปญ โดยเน้นย้ำว่าความคิดริเริ่มนี้จะช่วยให้ผู้บริโภคใช้สกุลเงินเรียลในการซื้อสินค้า/บริการในประเทศมากขึ้น ผ่านการใช้งานบนระบบ QR Code ที่เชื่อมโยงกับบัญชีในประเทศของตน ซึ่งรองผู้ว่าการฯ สังเกตว่าความต้องการในการใช้เงินสกุลเรียลเพิ่มขึ้นทีละน้อยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การไหลเวียนของเงินเรียลในกัมพูชามีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ร้อยละ 16.6 หรือคิดเป็นประมาณ 14.1 ล้านล้านเรียล (เทียบเท่ากับ 3.4 พันล้านดอลลาร์) ในปี 2022 เพิ่มขึ้นจาก 356 ล้านเรียลในปี 1998 โดยการใช้สกุลเงินดอลลาร์ในปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจกัมพูชา เนื่องจากปริมาณเงินเรียลในระบบมีการใช้อยู่ค่อนข้างน้อย จนทำให้ธนาคารแห่งชาติกัมพูชา ใช้นโยบายทางการเงินได้ไม่เต็มที่ โดยปัจจุบันกลุ่ม ASEAN-5 ประกอบด้วยอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และสิงคโปร์ ได้ลงนามในข้อตกลงเมื่อปีที่แล้ว เพื่อจัดตั้งระบบการชำระเงินดิจิทัลข้ามพรมแดนโดยใช้ QR Code ร่วมกันภายในสิ้นปีนี้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501311878/cambodia-to-promote-cross-border-digital-payment-with-viet-nam-laos/

ถนนเส้นประวัติศาสตร์!‘ทางหลวงหมายเลข 12’เชื่อม 4 ชาติอาเซียน หนุนค้าชายแดน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลได้วางโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมอย่างเชื่อมโยง โดยทางหลวงหมายเลข 12 แนวใหม่นี้ยังเชื่อมต่อ 4 ประเทศอาเซียนเข้าด้วยกัน โดยเริ่มจากอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ผ่านไปยังจังหวัดมุกดาหารเชื่อมต่อกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ไปสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในขณะที่อีกฝั่งสามารถวิ่งไปยังเมียนมาได้ นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมทะเลจีนใต้กับมหาสมุทรอินเดียเข้าด้วยกันอีกด้วย ถือเป็นทางเศรษฐกิจใหม่ รวมทั้งยังเป็นทางลัดเชื่อมจังหวัดกาฬสินธุ์-มุกดาหาร ให้ประชาชนในพื้นที่ นักท่องเที่ยวสามารถสัญจรไปมาได้อย่างสะดวก และลดระยะการในการเดินทาง ตลอดจนยังช่วยกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค เพิ่มมูลค่าการค้าตามแนวชายแดน ลดความเหลื่อมล้ำ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชนอีกด้วย ซึ่งจากข้อมูลของกองยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2566 เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษมุกดาหารมีการดำเนินการลงทุนแล้ว 3 โครงการ วงเงิน 392 ล้านบาท จากโครงการที่ขอรับการส่งเสริมฯจาก BOI 5 โครงการ วงเงิน 2,102 ล้านบาท และมีธุรกิจตั้งใหม่ 868 ราย วงเงิน 1,655 ล้านบาท

ที่มา : https://www.naewna.com/business/735278

ด่านชายแดนมุต่อง “เมียนมา-ไทย” ดันส่งออกผลไม้พุ่งทะยาน เดือน พ.ค.

ตามรายงานระบุว่าผลไม้ที่จะส่งออกไปยังอำเภอมะริด เขตตะนาวศรี ผ่านด่านมุต่อง (Mawtaung) บริเวณชายแดนเมียนมา-ไทย ในเดือน พ.ค. นับว่าเป็นการส่งออกผลไม้ครั้งใหญ่ที่สุดของเมียนมา โดยผลไม้ที่นำเข้ามากที่สุด ได้แก่ ชมพู่ ส้ม สละ ขนุน และแก้วมังกร ราคาปัจจุบันของชมพู่กิโลกรัมละ 19.44 บาท ส้มกิโลกรัมละ 9.69 บาท สละกิโลกรัมละ 6.45 บาท และแก้วมังกร 6.81 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งนี้ ค่ายด่านมุต่องได้กำหนดว่าต้องนำเข้าผลไม้ 24 ตัน นับตั้งแต่วันที่ 1 – 30 พ.ค.

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-thailands-mawtaung-border-exports-most-fruits-in-may/#article-title

ผวจ.ตราด พัฒนาเศรษฐกิจหลายด้าน เพิ่มศักยภาพการค้าชายแดนกัมพูชา

นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เปิดเผยว่า จังหวัดตราดเป็นจังหวัดสุดท้ายของภาคตะวันออกและเป็นจังหวัดเล็กๆ แต่เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงทางด้านภูมิศาสตร์ เพราะมีพื้นที่ติดชายแดนไทย-กัมพูชาทั้ง 3 จังหวัดสำคัญของกัมพูชา คือด้าน อ.บ่อไร่ ติดกับ อ.สำรูด จ.พระตะบอง ที่ปัจจุบันมีจุดผ่อนปรนการค้าเพื่อไปมาหาสู่และค้าขายสินค้าระหว่างกัน,ด้าน อ.เมือง ติดกับ อ.เวียงเวล จ.โพธิสัตว์ ที่ยังเป็นช่องทางธรรมชาติ แต่กำลังมีความพยายามยกระดับให้เป็นจุดผ่านแดนถาวร และ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ติดกับ อ.มณฑลเสมา จ.เกาะกง ที่ปัจจุบันเป็นจุดผ่านแดนถาวร ซึ่งมีการค้าขายระหว่างกันมีมูลค่ากว่า 3.8 หมื่นล้านบาทต่อปี และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันจังหวัดตราด ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทั้งชายทะเล และมีเกาะกว่า 52 เกาะ ซึ่งปัจจุบันมี 3-4 เกาะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับนานาชาติ ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวกว่า 2 ล้านคน และมีรายได้จากธุรกิจท่องเที่ยวเกิน 2 หมื่นล้านบาทต่อปี

ที่มา : https://www.naewna.com/local/733732

งานแสดงสินค้าชายแดนเมียนมา-จีน จัดขึ้นที่เมืองเนปิดอว์

กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยเมื่อวันที่ 20 พ.ค. ระบุว่าการจัดงานแสดงสินค้าชายแดนจีน-เมียนมา จัดขึ้นที่เมืองเนปิดอว์ โดยงานแสดงสินค้าในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศและยกระดับความสัมพันธ์ของประเทศเพื่อนบ้าน งานแสดงสินค้าจะมีร้านค้ามากกว่า 100 ร้าน รวมถึงมีร้านค้าจากประเทศจีน 40 ร้าน และอีกประมาณ 70 ร้านมาจากเมียนมา ทั้งนี้ ผู้ประกอบการจีนได้นำเสนอสินค้าที่หลากหลาย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์กาแฟและชา แมคคาเดเมีย อาหารสำเร็จรูป เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องครัวและสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ ในขณะที่เมียนมานำเสนอสินค้า ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (MSME)

ที่มา : https://english.news.cn/20230520/db4afc67d0894fa795d0726bc53bac2a/c.html

“รมต.ต่างประเทศจีน” เยือนชายแดนเมียนมา

นายฉิน กัง (Qin Gang) รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน เรียกร้องให้มีความมั่งคงและการปราบปรามอาชญากรรมบริเวณพรมแดนของประเทศที่ติดกับประเทศเมียนมา โดยพรมแดนเมียนมาที่ติดกับประเทศจีนมีระยะทาง 2,129 กิโลเมตร มีภูเขาที่มีป่าไม้หนาทึบและมีชื่อเสียงในการลักลอบขนยาเสพติดเข้าสู่ประเทศจีน ทั้งนี้ องค์การสหประชาชาติ ระบุว่าการผลิตฝิ่นในเมียนมากลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง หลังจากกองทัพเข้ายึดอำนาจรัฐบาลในปี 2564 การเพาะปลูกฝิ่นป๊อบปี้เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาลงและปัญหาอาชญากรรมที่ไม่เข็มงวด ทำให้ผู้คนหันมาซื้อยาเสพติดกันสูงขึ้น

อีกทั้ง รัฐมนตรีฯ ต่างประเทศของจีน กล่าวระหว่างการเยือนเมียนมาว่าพรรคคอมมิวนิสต์ท้องถิ่น หน่วยงานรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรเข้าร่วมระบบเสริมสร้างป้องกันชายแดนและจำเป็นต้องมีการประสานงานการจัดการชายแดน เพื่อที่จะพัฒนาการค้าชายแดนและความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ

ที่มา : https://www.taiwannews.com.tw/en/news/4880184