“เมียนมา” เผาทำลายยาเสพติดล็อตใหญ่ 446 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ค้าผิดกฎหมายเฟื่องฟูในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

รัฐบาลทหารเมียนมาได้เผาทำลายยาเสพติดที่ยึดมาได้รวมมูลค่ามากกว่า 448 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติได้เตือนถึงการเพิ่มขึ้นของผลผลิตฝิ่น เฮโรอีนและเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ในเมียนมา โดยการส่งออกจะขยายตลาดในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ รายงานของ สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ระบุว่าการผลิตฝิ่นในเมียนมาเฟื่องฟูนับตั้งแต่เกิดการยึดอำนาจของกองทัพ ซึ่งการปลูกฝิ่นเพิ่มขึ้นหนึ่งในสามของปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีความพยายามกำจัดให้ลดลง และภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ทำให้ผู้คนหันมาทำการค้ายาเสพติดกันมากขึ้น ตลอดจนยังเตือนถึงการผลิตเมทแอมเฟตามีนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาลดลงและมีการลักลอบผ่านเส้นทางใหม่ๆ อีกด้วย

ที่มา : https://www.thaipbsworld.com/us-places-sanctions-on-myanmars-defence-ministry-banks/

“รมต.ต่างประเทศจีน” เยือนชายแดนเมียนมา

นายฉิน กัง (Qin Gang) รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน เรียกร้องให้มีความมั่งคงและการปราบปรามอาชญากรรมบริเวณพรมแดนของประเทศที่ติดกับประเทศเมียนมา โดยพรมแดนเมียนมาที่ติดกับประเทศจีนมีระยะทาง 2,129 กิโลเมตร มีภูเขาที่มีป่าไม้หนาทึบและมีชื่อเสียงในการลักลอบขนยาเสพติดเข้าสู่ประเทศจีน ทั้งนี้ องค์การสหประชาชาติ ระบุว่าการผลิตฝิ่นในเมียนมากลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง หลังจากกองทัพเข้ายึดอำนาจรัฐบาลในปี 2564 การเพาะปลูกฝิ่นป๊อบปี้เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาลงและปัญหาอาชญากรรมที่ไม่เข็มงวด ทำให้ผู้คนหันมาซื้อยาเสพติดกันสูงขึ้น

อีกทั้ง รัฐมนตรีฯ ต่างประเทศของจีน กล่าวระหว่างการเยือนเมียนมาว่าพรรคคอมมิวนิสต์ท้องถิ่น หน่วยงานรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรเข้าร่วมระบบเสริมสร้างป้องกันชายแดนและจำเป็นต้องมีการประสานงานการจัดการชายแดน เพื่อที่จะพัฒนาการค้าชายแดนและความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ

ที่มา : https://www.taiwannews.com.tw/en/news/4880184