กัมพูชาเดินหน้าสร้างทางเดินรถไฟความเร็วสูง พนมเปญ-ปอยเปต

กัมพูชาเดินหน้าสร้างระบบรถไฟความเร็วสูงเชื่อม กรุงพนมเปญ-ปอยเปต ที่เป็นจังหวัดซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศไทย โดยใช้เงินกู้สัมปทานจากจีน ภายใต้การศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดทำโดย China Road and Bridge Corporate (CRBC) จากผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าระยะทางเดินรถไฟความเร็วสูงจะมีความยาวอยู่ที่ 382 กม. ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณอยู่ที่ 4 พันล้านดอลลาร์ และจะต้องใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 4 ปี โดยจะมีสถานีย่อยอย่างน้อย 33 แห่ง ตลอดเส้นทางเดินรถ ซึ่งรถไฟความเร็วสูงคาดว่าจะใช้ความเร็วสูงสุดได้ที่ 160 กม./ชม. ต่างจากปัจจุบันที่สามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดที่ 30 กม./ชม. ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อรองรับภาคการขนส่งและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดและเมืองที่ตั้งอยู่ตามแนวเส้นทาง ในขณะที่ปัจจุบันกัมพูชามีเส้นทางรถไฟอยู่สองสาย สายใต้เชื่อมระหว่างพนมเปญกับสีหนุวิลล์ และสายเหนือเชื่อมเมืองหลวงกับปอยเปต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501225200/cambodia-puts-high-speed-train-on-track/

FDI ในกัมพูชาขยายตัวเฉลี่ยกว่า 8.1% ในช่วงปี 2017-2021

การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ภายในกัมพูชาขยายตัวเฉลี่ยที่ร้อยละ 8.1 ต่อปี ในช่วงปี 2017-2021 ตามรายงานแนวโน้มด้านการค้าและการลงทุนเอเชียแปซิฟิกปี 2022-2023 โดยในปี 2021 ปริมาณ FDI ที่ไหลเข้ามายังกัมพูชาปรับตัวลดลงเล็กน้อยที่ร้อยละ 3.9 แต่ถึงอย่างไรต้นทุนการดำเนินธุรกิจภายในกัมพูชาก็ยังต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออก-3 อย่างจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งในปี 2020 ต้นทุนการดำเนินธุรกิจของกัมพูชาอยู่ที่ร้อยละ 96.4 ของมูลค่าสินค้า เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆ เช่น กลุ่มเศรษฐกิจยุโรป-3 (เยอรมนี ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร) และเศรษฐกิจขนาดใหญ่ในเอเชียแปซิฟิก-4 (จีน อินเดีย อินโดนีเซีย และสหพันธรัฐรัสเซีย) ที่มีต้นทุนการดำเนินธุรกิจคิดเป็นร้อยละ 104.2 และ 145.4 ของมูลค่าสินค้า ตามลำดับ โดยในปี 2021 คู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกัมพูชายังคงเป็นจีน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 8.6 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของกัมพูชา ขณะที่การนำเข้าจากจีนของกัมพูชามีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 33.8 ของการนำเข้าทั้งหมด

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501224868/average-annual-fdi-inflow-growth-of-8-1-in-cambodia-from-2017-to-2021/

คาด FTAs, RCEP ผลักดันการลงทุนเข้ามายังกัมพูชาเพิ่มขึ้น

กัมพูชาคาดดึงดูดการลงทุนใหม่ ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีทวิภาคี (FTA) ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) รวมถึงกฎหมายเพื่อการลงทุนฉบับใหม่ ด้าน Heng Sokkung เลขาธิการกระทรวงอุตสาหกรรม และหัตถกรรม กล่าวว่า การที่กัมพูชาจัดทำข้อตกลงการค้ากับหลายๆ ประเทศ จะทำให้กัมพูชาสามารถเข้าถึงตลาดโลกได้มากขึ้น แม้จะมีวิกฤตโลก อาทิเช่น สงครามระหว่าง ยูเครน-รัสเซีย, วิกฤตพลังงาน และการเงิน โดยปัจจุบัน กัมพูชามี FTA อยู่หลายฉบับ เช่น FTA กัมพูชา-จีน, RCEP ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ไปเมื่อต้นปี 2022 รวมถึง FTA กัมพูชา-เกาหลี ที่มีผลบังคับใช้ไปเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ขณะที่กระทรวงฯ ได้รายงานการจดทะเบียนโรงงานใหม่ 186 แห่ง ในปี 2022 ทำให้จำนวนโรงงานที่เปิดดำเนินการทั้งหมดในประเทศอยู่ที่ 1,982 แห่ง โดยมีมูลค่าการลงทุนรวม 16.690 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 13.811 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501224876/bilateral-ftas-rcep-expected-to-drive-new-industrial-investment-inflows/

ต้นทุนการนำเข้าเชื้อเพลิงของกัมพูชาพุ่งสูง 52% ในปี 2022

ต้นทุนการนำเข้าเชื้อเพลิงกัมพูชา อาทิเช่น น้ำมันและก๊าซขยายตัวกว่าร้อยละ 52.6 ในปี 2022 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายงานโดยกรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) ซึ่งต้นทุนการนำเข้าสูงขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติทั่วโลกที่พุ่งสูงขึ้นหลังจากเกิดสงครามระหว่าง รัสเซีย-ยูเครน และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เป็นผลมาจากมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในยุคหลังโควิด-19 รวมถึงมาตรการจำกัดการเดินทางต่างๆ ในขณะที่ปี 2021 กัมพูชาได้นำเข้าเชื้อเพลิงอยู่ที่มูลค่า 2.4 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากมูลค่า 3.6 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022 โดยปัจจุบันกัมพูชาพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันและก๊าซเพียงอย่างเดียว ยังไม่สามารถผลิตเองได้ ด้าน Suy Sem รัฐมนตรีกระทรวงเหมืองแร่และพลังงาน กล่าวว่า ความต้องการเชื้อเพลิงในกัมพูชาคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.8 ล้านตันในปี 2030 เพิ่มขึ้นจาก 2.8 ล้านตัน ในปี 2020

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501223912/cambodias-fuel-import-cost-shot-up-over-52-in-2022/

ราคาน้ำมันเบนซินในกัมพูชาปรับตัวสูงขึ้น 8.64% ในเดือนที่แล้ว

ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน 92 (EA92) ในตลาดภายในประเทศพุ่งสูงขึ้นร้อยละ 8.64 แตะ 4,400 เรียล หรือ 1.07 ดอลลาร์ต่อลิตร ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (21 ม.ค.) เทียบกับราคา 4,050 เรียลในช่วงเดียวกันของปีก่อน รายงานโดยกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งราคาน้ำมันเบนซิน 92 ในตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 104.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ เดือน ม.ค. ปีนี้ จาก 90.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ราคาเฉลี่ยในช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 96.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หรือประมาณ 0.6 ดอลลาร์ต่อลิตร ขณะที่ The IEA Oil Market Report (OMR) ได้รายงานสถานการณ์ตลาดน้ำมันโลก ประจำเดือน ม.ค. 2022 คาดการณ์ว่าความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.9 ล้านบาร์เรลต่อวันใน 2023 โดยอัตราเงินเฟ้อของกัมพูชาในปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 7.85 ณ เดือน มิ.ย. 2022 ขยายตัวจากร้อยละ 7.17 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งสูงที่สุดในทศวรรษที่ผ่านมา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501223911/domestic-gasoline-price-rises-8-64-in-the-last-month/

อุตสาหกรรมธนาคารในกัมพูชายังคงเติบโตต่อเนื่องในปี 2022

ปี 2022 อุตสาหกรรมการธนาคารของกัมพูชายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านสินเชื่อและเงินฝาก ตามรายงานประจำปีของธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) โดยในรายงานระบุว่าสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 21.7 เมื่อเทียบเป็นรายปีที่มูลค่า 56,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่เงินฝากของลูกค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.3 คิดเป็นมูลค่า 45,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเงินกู้ยืมดังกล่าวได้ออกให้กับภาคส่วนสำคัญๆ เช่น การค้า ที่อยู่อาศัย การก่อสร้าง การเกษตร โรงแรมและภัตตาคาร และภาคการผลิต รวมถึงภาคส่วนสำคัญอื่นๆ โดยปัจจุบันกัมพูชามีธนาคารพาณิชย์รวมทั้งสิ้น 58 แห่ง ธนาคารเฉพาะกิจ 9 แห่ง และสถาบันการเงินรายย่อย 86 แห่ง โดยมีสำนักงานใหญ่และสาขารวม 2,614 แห่ง รวมถึงเครื่องถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) 3,998 เครื่องทั่วประเทศ ด้าน Heng Bomakara รองอธิบดีฝ่ายกำกับดูแลการธนาคารของ NBC กล่าวว่าร้อยละ 67 ของประชากรในกัมพูชาสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้ภายในปี 2022 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 59 เมื่อเทียบกับปี 2021

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501223356/the-banking-industry-in-cambodia-continues-to-enjoy-high-growth-in-2022/

กัมพูชาจัดเก็บภาษีเกินกว่าเป้า 22% ในช่วงปี 2022

กรมภาษีอากร (GDT) หน่วยงานร่วมกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง รายงานการจัดเก็บภาษีประจำปี 2022 ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 3.45 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นกว่าร้อยละ 122 ของเป้าหมายในการจัดเก็บประจำปี รายงานโดย Kong Vibol ผู้อำนวยการทั่วไปของ GDT ในปี 2565 โดยปัจจุบันกัมพูชามีหน่วยงานหรือสถาบันในการจัดเก็บภาษีสองแห่ง คือ 1.กรมภาษีอากร ซึ่งเน้นจัดเก็บภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีโรงเรือน และ 2.กรมศุลกากรและสรรพสามิต ซึ่งเน้นไปที่การจัดเก็บภาษีสินค้าเข้าและออก โดยในปี 2023 รัฐบาลตั้งเป้าในการจัดเก็บภาษีไว้ที่ประมาณ 5.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2022 เกือบร้อยละ 16

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501222609/tax-collection-exceeds-22-of-plan-last-year/