ราคาเกลือรัฐมอญพุ่งไม่หยุด

คลังสินค้ามะละแหม่ง เผย ราคาเกลือในรัฐมอญพุ่งขึ้นอีกครั้ง ในวันที่ 11 ก.พ.65 ราคาเกลือดิบ (ปกติ) จะอยู่ระหว่าง 115-120 จัตต่อ viss (viss เท่ากับ 1.6 กิโลกรัม) ในขณะที่เกลือบริสุทธิ์ จะอยู่ที่ 140 จัตต่อ viss แต่เมื่อเทียบกับเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ราคาเกลือดิบ (ปกติ) มีราคาเพียง 75-80 จัตต่อ viss ขณะที่เกลือดิบ (บริสุทธิ์) อยู่ที่ 100 จัตต่อ viss แม้ว่าราคาเกลือจะสูงขึ้นในช่วงปลายฤดูการผลิต แต่ก็มีผลผลิตของเกษตรกรและผู้ค้าในท้องถิ่นลดน้อยลง ในทางกลับกัน ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นได้ส่งผลให้ต้นทุนการขนส่งสูงขึ้นด้วยเช่นกัน ในทุกๆ ปี รัฐมอญผลิตเกลือตากแห้งเกือบ 40,000 ตันนอกเหนือจากแมกนีเซียมคลอไรด์ (MgCl2) เกลือเสริมไอโอดีน (I2) และเกลือแกง (NaCl) สถิติปี 2562-2563 พบว่ามีโรงแปรรูปเกลือไอโอดีน 14 โรงและโรงงานหนึ่งแห่งสำหรับการผลิตแมกนีเซียมคลอไรด์และเกลือแกง โดยมีกำลังการผลิตแมกนีเซียมคลอไรด์ 60 ตัน เกลือแกง 204 ตัน และไอโอดีน 12,132 ตัน

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/salt-price-rises-up/

ชาวสวนส้มจังหวัดเมิ้งสาด ปลื้ม ส้มคลีเมนไทน์ขายดี ราคาพุ่ง

ส้มคลีเมนไทน์ (clementine ) จากจังหวัดเมิ้งสาด ของ รัฐฉาน (ตะวันออก) ถูกส่งออกไปยังเมืองอื่น ๆ และตลาดกำลังเฟื่องฟูอย่างมากในเมียนมา ส้มคลีเมนไทน์ จากจังหวัดเมิ้งสาด มีเนื้อสด ฉ่ำ รสหวาน มีผู้มาซื้อหาส้มที่ร้านค้าปลีกและสวนส้มเพื่อเป็นของฝากอย่างไม่ขาดสาย จากคำบอกเล่าของเกษตรกรในท้องถิ่น การปลูกจะเน้นแบบวิถีธรรมชาติอย่างการใช้ปุ๋ยคอกแทน ขณะที่สวนส้มต๊อวิน ตันแสง ที่จำหน่ายส้มทั้งปลีกและส่ง เปิดเผยว่า ราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 3,000 จัต ทำให้ตอนนี้เป็นที่ต้องการอย่างมากจากเมืองอื่น ๆ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/clementine-oranges-from-monghsat-township-sold-well/

4 เดือนของปีงบประมาณย่อย เมียนมามีรายได้จากการส่งออกถั่วพัลส์ 390.895 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากปริมาณส่งออก 486,413 ล้านตัน

กระทรวงพาณิชย์ เมียนมามีรายได้ 390.895 ล้านดอลลาร์จากการส่งออกถั่วต่างๆ กว่า 486,413 ล้านตันผ่านเส้นทางทางทะเลและชายแดน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ถึง 28 ม.ค. ในช่วงปีงบประมาณย่อย 2564-2565 แบ่งเป็นการส่งออกทางทะเล 453,684.109 ตัน มีมูลค่า 361.919 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ผ่านชายแดน 32,729.362 ตัน มีมูลค่า 28.976 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีงบประมาณ 2562-2563 เมียนมามีรายได้กว่า 1.57 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการส่งออกถั่ว ซึ่งการส่งออกมูลค่ากว่า 374 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นการส่งออกถั่วและเมล็ดพืชทั้งทางทะเลและชายแดน เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.64 เมียนมาและอินเดียจับมือทำข้อตกลงบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (MOU) ในการส่งออกถั่วพัลส์ของเมียนมารวม 350,000 ตัน แบ่งเป็นถั่วดำ 250,000 ตันและถั่วแระ 100,000 ตันไปอินเดีย เป็นระยะเวลา 5 ปี (ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2564-2565 ถึงปี 2568-2569) .ซึ่งส่วนใหญ่แล้วถั่วเขียวและถั่วแระจะส่งออกไปยังอินเดียเป็นหลัก ส่วนถั่วเขียวผิวมันจะส่งออกไปยังจีนและบางประเทศในสหภาพยุโรป

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-earns-390-895-mln-from-over-486413-mln-tonne-pulses-export-in-nearly-4-months-of-mini-budget-year/

ชายแดน Kyinsankyawt รถขนส่งแตงโมไปจีน ประมาณ 100 คันต่อวัน

จากข้อมูลของคลังเก็บสินค้าข้าวด่านมูเซ ระบุ เมียนมาส่งรถบรรทุกแตงโมจำนวน 100 คันไปยังจีนในทุกๆ วันปัจจุบัน เมียนมาส่งสินค้าจำนวน 140 คันไปยังจีนทุกวันผ่านด่านชายแดน Kyinsankyawt รวมถึงรถบรรทุก 100 คันที่บรรทุกแตงโมและรถบรรทุก 40 คันบรรทุกข้าว ข้าวหัก เมล็ดพืช ยางพารา พลัมแห้ง และสินค้าอาหารอื่นๆ ส่วนการส่งออกแตงโมนั้นผู้ค้าต้องจ่ายค่าขนส่งประมาณ 30,000 หยวนซึ่งค่าขนส่งที่สูงเนื่องจากแตงโมเป็นผลไม้ที่เน่าเสียง่าย ส่งผลให้จำนวนคนขับรถบรรทุกลดลงเพราะแบกรับต้นทุนไม่ไหว เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของ COVID-19 ส่วนการผ่านชายแดน Kyinsankyawt จะอนุญาติให้ขนส่งสินค้าช่วงระยะทางสั้นๆ เท่านั้น จึงทำให้ราคาบริการขนส่งสินค้าระยะใกล้พุ่งสูงเกินจริง อยู่ที่ 10 ล้านจัตต่อราคาขนส่งรถบรรทุกหนึ่งคัน ในขณะที่ก่อนหน้านี้ราคาอยู่ที่เพียง 700,000-800,000 จัต ส่งผลให้ปริมาณการส่งออกข้าวและข้าวหักจึงลดลงจาก 60,000 ถุงเหลือ 10,000 ถุงต่อวัน ทั้งนี้จีนปิดจุดผ่านแดนที่เชื่อมกับชายแดนมูเซในช่วงที่ COVID-19 ระบาด ส่วนด่าน Kyinsankyawt ได้กลับมาซื้อขายอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย.64 โดยเริ่มส่งออกยาง ถั่วและพัลส์ต่างๆ พลัมแห้ง แตงโม แตงไทย และสินค้าอาหารอื่นๆ ไปยังจีน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/approximately-100-watermelon-truckloads-daily-delivered-to-china/

การส่งออกทางทะเลของเมียนมา เดือน ม.ค.65 พุ่ง 7.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา เผย มูลค่าการค้าทางทะเลระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 64 ถึง 28 ม.ค 65 ของงบประมาณย่อยปี 2564-2565 พุ่งขึ้นเป็น 7.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 485 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากมูลค่าการค้าทางทะเล 7.159 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของปีก่อน ในขณะเดียวกัน มูลค่าการค้าชายแดนในปีงบประมาณนี้อยู่ที่ 2.107 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ดิ่งลงจาก 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากปีงบประมาณที่ผ่านมา ซึ่งการค้าทางทะเลสร้างรายได้ถึง 19,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากมูลค่าการค้ารวมที่ 29,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีงบประมาณ 2563-2564 โดยการส่งออกส่วนใหญ่จะเป็น สินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์ประมง แร่ธาตุ ปศุสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากป่า สินค้าอุตสาหกรรมสำเร็จรูป และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ส่วนการนำเข้า ได้แก่ สินค้าทุน สินค้าอุปโภคบริโภค และวัตถุดิบอุตสาหกรรม ปัจจุบันเมียนมามีท่าเรือ 9 แห่งโดยท่าเรือย่างกุ้งถือเป็นประตูสู่การค้าทางทะเลของเมียนมา

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-maritime-trade-tops-us7-64-bln-as-of-28-january/

ศรีลังกานำเข้าข้าวกว่า 100,000 ตัน จากเมียนมา

กระทรวงการค้าของศรีลังกา เผย ได้ตัดสินใจนำเข้าข้าวขาว 100,000 ตันจากเมียนมาเพื่อควบคุมราคาข้าวที่พุ่งขึ้นในประเทศ โดยราคาการนำเข้าราคา 445 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ผ่านบริษัท Sri Lanka State Trading (General) Corporation และมีแผนจะนำเข้าข้าวครั้งละ 20,000 ตัน จากการให้ข้อมูลของกระทรวงฯ พบว่าการนำเข้าข้าวในศรีลังกามักจำกัดไว้เพียงปริมาณเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวบาสมาติ

ที่มา:https://english.news.cn/asiapacific/20220207/4b0782f17ce940e998054617832c610a/c.html

4 เดือนของงบประมาณฯ สิงคโปร์นำโด่งเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดของเมียนมา

จากข้อมูลคณะกรรมการการลงทุนและการบริหารบริษัท ( DICA) พบว่า สิงคโปร์กลายเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในเมียนมาในช่วงสี่เดือนของบประมาณปัจจุบัน (2564-2565) ซึ่งเริ่มในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยดึงดูดเงินลงทุนกว่า 506 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากวิสาหกิจต่างชาติที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาลงทุนในประเทศ ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 64 ถึงวันที่ 31 ม.ค. 65 ภาคบริการครองอันดับหนึ่งของเงินลงทุนจากต่างประเทศมากที่สุดด้วยเงินลงทุนกว่า 206 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  รองลงมาคือภาคการผลิตมีมูลค่าการลงทุนกว่า 114 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และภาคการก่อสร้าง 65 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยสิงคโปร์เป็นผู้นำด้านการลงทุนด้วยเม็ดเงินกว่า 275 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ในปีงบประมาณที่แล้ว เมียนมาได้รับเงินลงทุนในประเทศกว่า 3.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา: https://english.news.cn/asiapacific/20220207/812846d52591466085c5fa7840faf7a1/c.ht