สาธารณรัฐเกาหลีมอบเงิน 9 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อการพัฒนาชนบท

สำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศของเกาหลี (KOICA) และกระทรวงเกษตรและป่าไม้ได้ลงนามเพื่อริเริ่มโครงการพัฒนาชนบทแบบบูรณาการในแขวงจำปาสัก สระวาน และเซกอง โดยโครงการจจะดำเนินการจนถึงปี 2568 ด้วยงบประมาณรวม 9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งโครงการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาชุมชนชนบทเพื่อสร้างการสร้างรายได้ในชนบท ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เสริมสร้างศักยภาพของชุมชนและเจ้าหน้าที่ และเพิ่มความรู้ด้านการเกษตรเพื่อรับประกันความมั่นคงด้านอาหารในแขวง นอกจากนี้ โครงการจะสร้างศูนย์ฝึกอบรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในด้านการผลิตทางการเกษตร การแปรรูป และการตลาดเพื่อการพัฒนาการเกษตร

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Republic216.php

KOICA มอบเงิน 13 ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับการอัพเกรดถนนแห่งชาติหมายเลข 8

สำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศของเกาหลี (KOICA) ในประเทศสปป.ลาวและกระทรวงโยธาธิการและการขนส่งได้ลงนามเกี่ยวกับโครงการ ‘การยกระดับ 6 สะพานและความปลอดภัยทางถนนบนถนนแห่งชาติหมายเลข 8 (ทางหลวงเอเชีย 15)’ โดย KOICA จะมอบเงินช่วยเหลือจำนวน 13 ล้านเหรียญสหรัฐ โครงการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับสะพาน 6 แห่ง เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยให้อยู่ในระดับ Asian Highway Class II และยกระดับการเชื่อมต่อระหว่างลาวกับประเทศเพื่อนบ้านเวียดนามและไทย ตลอดจนการเชื่อมต่อทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังจะเสริมสร้างขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่ของรัฐในงานสาธารณะและภาคการขนส่งผ่านการถ่ายทอดทักษะทางเทคโนโลยีขั้นสูงของเกาหลี ซึ่งรวมถึงการบำรุงรักษาสะพานและการตรวจสอบความปลอดภัยทางถนน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_KOICA_215_21.php

รัฐบาลจับตาแหล่งที่มารายได้ใหม่ 2,000 พันล้านกีบจากการขุด bitcoin

รัฐบาลคาดว่าจะมีรายได้ 2,000 พันล้านกีบจากการขุด bitcoin ซึ่งเป็นครั้งแรกที่รายรับดังกล่าวจะได้รับจากการขุดและการค้าสกุลเงินดิจิทัลและคาดการณ์ไว้สำหรับปี 2565 ขึ้นจะมีรายได้เพิ่มขึนร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับเป้าหมายในปี 2564 จากการขุด Bitcoin จะทำให้รัฐบาลสามารถใช้จ่ายเงินในโครงการสำคัญๆ ได้มากขึ้นซึ่งรวมถึงการเพิ่มเงินสนับสนุนเพื่อให้ครอบคลุมค่าครองชีพของเจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความปลอดภัย ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเพื่อตอบสนองต่อการระบาดของ Covid-19 และการชำระหนี้ในโครงการใหญ่ๆ ของประเทศ รัฐบาลคาดว่าจะใช้เงินทั้งหมดในการพัฒนาและริเริ่มลงทุน 34,595 พันล้านกีบในปี คิดเป็น 18.14 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ดังนั้นแหล่งรายได้ใหม่นี้ของไทยจะนำพาสปป.ลาวก้าวสู่ประเทศที่มีเทคโนโลยีการเงินทีดีขึ้นรวมถึงการผลักดันเศรษฐกิจสปป.ลาวให้เติบโตอีกทางหนึ่ง

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govteyes_215_21.php

สปป.ลาวเตรียมเปิดประเทศอีกครั้ง

ในการปราศรัยเปิดรัฐสภาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีพันธ์คำ วิภาวัน กล่าวกับสมาชิกว่าลาวจำเป็นต้องพิจารณาขั้นตอนในการเปิดประเทศอีกครั้ง จำเป็นที่จะต้องหาวิธีการจัดการกับการระบาดของ Covid-19 และฟื้นฟูเศรษฐกิจซึ่งได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการระบาดใหญ่ รวมถึงการเริ่มให้บริการทางรถไฟลาว-จีน การจะเปิดประเทศได้อีกครั้งนั้น รัฐบาลคาดว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องฉีดวัคซีนอย่างน้อยร้อยละ 70 ของประชากรผู้ใหญ่ภายในสิ้นปี 2564 เป้าหมายดังกล่าวเป็นไปเพื่อการกลับมาฟื้นฟูเศรษฐกิจอีกครั้งอีกทั้งหากยังคงปิดประเทศอาส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับผละทบอบ่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สิ่งหนึ่งที่เป็นความกังวลของรัฐบาลคือการระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงอีกครั้งดังนั้นมาตรการเปิดประเทศ รัฐบาลให้คำมั่นที่จะเข้มงวดและรัดกุมกับแนวทางในการดูแลสาธารณสุขควลคู่ไปกับการเปิดประเทศ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Prepare_214.php

รัฐบาลสั่งเตรียมเปิดทางรถไฟและอนุมัติรายงานอภิปรายของ NA

รัฐบาลได้สั่งการให้เตรียมการอย่างเต็มรูปแบบสำหรับการเปิดทางรถไฟลาว-จีน ในวันที่ 2 ธันวาคม 2564 ทั้งนี้รัฐบาลยังมีคำสั่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการเพื่อบรรลุแผนการดึงดูดการลงทุนในสิ่งอำนวยความสะดวกข้างทางรถไฟที่จะนำมาซึ่งการลงทุนและการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจ ในที่ประชุมยังได้มีแนวทางหารือในการแก้ปัญหาด้านการดำเนินธุรกิจในประเทศ โดยรัฐบาลจะดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจโดยปรับปรุงขั้นตอนของระบบราชการและขจัดอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจเพื่อให้ง่ายต่อการลงทุนและในที่ประชุมครม.ยังได้มีการเห็นชอบในหลักการ 5 เอกสารที่จะนำเสนอต่อสภานิติบัญญัติ สมัยที่ 2 ซึ่งมีกำหนดเปิดในวันนี้ 1 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งเป็นเอกสารรายงานการดำเนินการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและแผนงบประมาณสำหรับปี 2564 และแผนสำหรับปี 2565 ซึ่งจะเป็นแนวทางและแผนสำคัญในการดำเนินกิจการของรัฐบาลสปป.ลาว

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt_213_21.php