“เวียดนาม-จีน” กลับมาเปิดพรมแดนขนส่งผู้โดยสาร

เจ้าหน้าที่ขนส่งท้องถิ่น เปิดเผยกับสำนักข่าวว่าบริการขนส่งผู้โดยสารทางถนนระหว่างประเทศจีนและเวียดนาม เริ่มกลับมาให้บริการอีกครั้ง หลังจากระงับการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2563 โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด 1,077 คน และเป็นผู้โดยสารขาเข้า-ขาออก 1,065 คน และ 12 คน ที่เดินทางผ่านด่านโหย่วอี้กวาในเมืองผิงเสียง ประเทศจีน อย่างไรก็ตาม ผู้โดยสารที่เดินทางเข้าประเทศจีนจะต้องรายงานผลการตรวจโควิด-19 ทราบผลภายใน 48 ชั่วโมง ก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจสอบ นอกจากนี้ พื้นที่ชายแดนกว่างซี เริ่มกลับมาเปิดเส้นทางการขนส่งทางบกระหว่างประเทศจีนและเวียดนาม เพื่อให้บริการเชื่อมโยงเครือข่ายแบบจุดต่อจุดแก่ผู้โดยสาร

ที่มา : http://en.people.cn/n3/2023/0110/c90000-10193856.html

‘เวียดนาม’ แสดงจุดยืนร่วมมือระหว่างประเทศ

นับตั้งแต่เข้าร่วมองค์การค้าโลก (WTO) ในปี 2560 เวียดนามเข้าร่วมข้อตกลงทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคีมากกว่า 500 ฉบับ รวมถึงข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) 7 ฉบับ รวมถึงยังสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับประเทศและดินแดนราว 230 แห่ง และปัจจุบันเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ของ 17 ประเทศ ด้วยตำแหน่งและชื่อเสียงในระดับนานาชาติที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้เวียดนามก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ในความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ถึงแม้ว่าจะเผชิญกับความยากลำบากจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2563-2565 แต่ยอดการนำเข้าและส่งออกของเวียดนาม สามารถบรรลุมูลค่าเป็นครั้งแรกเกินกว่า 700 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และขยับมาอยู่ที่ 732.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 9.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1448255/viet-nam-affirms-position-in-international-integration.html

‘นครโฮจิมินห์’ เผยเม็ดเงินทุนไหลเข้านิคมอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก พุ่ง 549 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ตามข้อมูลสถิติ แสดงให้เห็นว่าในปี 2565 มีเม็ดเงินทุนระลอกใหม่และการลงทุนเพิ่มเติมที่มีมูลค่ามากกว่า 549 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้ไหลเข้าไปยังนิคมอุตสาหกรรมและการแปรรูปเพื่อการส่งออกนครโฮจิมินห์ (HEPZA) ซึ่งตัวเลขข้างต้นสูงกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้เกินกว่า 9.8% และนิคมอุตฯ เผยว่าเมืองโฮจิมินห์ได้เม็ดเงินทุนจากต่างประเทศ 196.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจากการลงทุนในประเทศ 352.48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ คุณ Hua Quoc Trung ผู้อำนวยการของนิคมอุตฯ กล่าวว่าทิศทางของการดึงดูดการลงทุนมีแนวโน้มไปในเชิงบวกมากขึ้น นับตั้งแต่เวียดนามเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2565 ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางของนักลงทุน ดังนั้น ผู้ประกอบการหลายรายจึงเข้ามาแสวงหาโอกาสจากนิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้ เนื่องจากเวียดนามเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าลงทุนและมีความปลอดภัยสำหรับนักลงทุนต่างชาติ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1448253/over-us-549-million-invested-in-hcm-city-s-export-processing-industrial-zones.html

‘เวียดนาม’ ตั้งเป้าจีดีพีต่อหัว 7,500 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2573

เวียดนามกำหนดเป้าหมายจีดีพีต่อหัวที่ 7,500 ดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2573 โดยเป้าหมายดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บทระดับชาติสำหรับปี 2564-2573 พร้อมวิสัยทัศน์ถึงปี 2593 ที่เสนอต่อประชุมวิสามัญครั้งที่ 2 จะเปิดขึ้นในวันที่ 5 มกราคม ภายใต้แผนดังกล่าว รัฐบาลเวียดนามตั้งเป้าการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ 7% ในปี 2564-2573 และจะขยายตัว 6.5-7.5% ในปี 2574-2593 นอกจากนี้ เวียดนามยังมุ่งเน้นที่จะพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ ลาวไคฮานอย-ไฮฟอง-กว่างนิง และ ม็อกไบ-นครโฮจิมินห์-หวุงเต่า ในปี 2593

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-targets-usd7-500-gdp-per-capita-by-2030-2098122.html

‘สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด’ คาดเศรษฐกิจเวียดนาม ปี 66 โตแรง 7.2%

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด เปิดเผยว่าแนวโน้มอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของเวียดนามในปี 2566 คาดว่าจะอยู่ที่ 7.2% จากการฟื้นตัวในปีที่แล้ว และจะชะลอตัวลง 6.7% ในปี 2567 ผู้เชี่ยวชาญมองว่าเป้าหมายที่ทางการวางไว้ที่ 6.5% ถือว่าเป็นความท้าทายอย่างมากต่อเวียดนาม เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มถดถอย แรงกดดันเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับสูง ในขณะที่ภาคธุรกิจยังเผชิญกับความยากลำบากในการรับมือและขยายกำลังการผลิต แต่ในมุมมองของธนาคารยังมีความเชื่อมั่นในศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจของเวียดนามในระยะกลาง ถึงแม้ว่าตัวชี้วัดเศรษฐกิจมหภาคบางรายการจะบ่งชี้สัญญาว่าเริ่มชะลอตัวในไตรมาสที่ 4 ของปี 2565

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/standard-chartered-forecasts-7-2-gdp-growth-for-vietnam-in-2023-2098567.html

กำลังคนคุณภาพสูง หนุนให้เวียดนามดึงดูด FDI

สภาหอการค้าสหภาพยุโรป (EuroCham) รายงานว่าเพื่อการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เพิ่มขึ้น เวียดนามจำเป็นต้องส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้เป็นบุคลากรที่มีศักยภาพสูง และชี้ว่าผู้ประกอบการในยุโรปเล็งเห็นศักยภาพที่จะขยายการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน อุตสาหกรรมไฮเทค การสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) ในปีหน้า อีกทั้ง ตามรายงานของบริษัทซาวิลาส์ ประเทศเวียดนาม ได้เน้นย้ำถึงความน่าลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตขั้นสูงในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเวียดนาม ซึ่งหากเทียบกับประเทศจีน อินเดียและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยแล้ว เวียดนามยังเป็นตลาดที่น่าลงทุนและมีความเสี่ยงอยู่ในระดับต่ำ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นแรงดึงดูดให้เม็ดเงินทุนไหลเข้าไปยังบริษัทเทคฯ หลายแห่ง และกิจการสหรัฐฯ ที่ทำธุรกิจในเวียดนาม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/highquality-human-resources-to-help-vietnam-draw-more-fdi/246578.vnp

‘จีน’ เตรียมกลับมาเปิดด่านชายแดนเวียดนาม จ.หลาวกาย

คุณ Ha Duc Thuan รองผู้อำนวยการคณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจจังหวัดหลาวกาย กล่าวว่าประเทศจีนจะกลับมาเปิดพรมแดนและเปิดเส้นทางชายแดนกับเวียดนามในจังหวัดหลายกาย (Lao Cai) ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคมเป็นต้นไป และทำการแจ้งไปยังหน่วยงานและภาคธุรกิจให้เตรียมความพร้อมกับการกลับมาของจีนแผ่นดินใหญ่ ทั้งการปฏิบัติเกี่ยวกับการส่งออกและการนำเข้า และกิจกรรมการเข้าออกที่ต้องเป็นไปตามกฎระเบียบ อย่างไรก็ดี ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของประเทศจีน ได้ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมการนำเข้าและส่งออกตามชายแดนอย่างรุนแรง โดยมูลค่าการนำเข้าและส่งออกสินค้าและบริการผ่านประตูชายแดนจังหวัดหล่าวกาย อยู่ที่ประมาณ 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 9 เดือนของปี 2565 หดตัว 39.4% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/china-to-resume-operation-of-border-gates-with-vietnam-in-lao-cai/246567.vnp